21 ธ.ค. 2556 - เว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจรายงานว่าที่โรงแรมเดอะ สุโกศล นายอุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นเจ้าภาพจัดเวทีหาทางออกประเทศร่วมกัน โดยเชิญพรรคการเมืองกว่า 19 พรรค และกลุ่มการเมืองต่างๆ มาร่วมหารือ อาทิ นายวัฒนา เมืองสุข ตัวแทนพรรคเพื่อไทย พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ นอกจากนี้ยังมีพรรคเล็กเข้าร่วมด้วย อาทิ พรรคไทยก้าวหน้า พรรคคนกีฬา พรรคชาติสามัคคี พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า เป็นต้น รวมถึง นายถาวร เสนเนียม ตัวแทนจาก กปปส. ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้ส่งตัวแทนเข้าร่วมหารือ โดยนายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรคแจ้งว่า หัวหน้าพรรคติดภารกิจ จึงมอบจดหมายมาแทน โดยมีเนื้อหายืนยันขอให้เลื่อนวันเลือกตั้งออกไปก่อน เพราะเกรงจะเกิดความวุ่นวายช่วงการเลือกตั้ง
นายอุทิน กล่าวว่า การมาร่วมหาทางออกในวันนี้ ทุกคนต่างมีเจตนาให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และหลังการเลือกตั้งเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย แต่ท่ามกลางความเห็นต่าง เราจะทำอย่างไรให้ประชาชนยอมรับทุกฝ่ายได้ในห้วงที่มีความขัดแย้ง เพื่อให้ประเทศมีความสงบสุข สมานสามัคคี ไม่มีความขัดแย้งหลงเหลืออยู่ เพราะต้องยอมรับว่าสถานการณ์วันนี้ไม่ปกติ และอาจมีปัญหา หากทุกฝ่ายไม่พูดคุยกัน ดังนั้น พรรคภูมิใจไทยจึงเป็นคนกลางเชิญทุกพรรคมาหารือด้วยเจตนารมณ์ต้องการเห็นบ้านเมืองเดินไปได้
พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน กล่าวว่า เป็นเรื่องสำคัญของประเทศที่ปกครองระบอบประชาธิปไตย ย่อมหนีไม่พ้นการเลือกตั้ง แต่ต่างคนก็ต่างทัศนคติ และวิกฤตชาติวันนี้เกิดจากความคิดที่ต่างกันของทุกภาค แต่เมื่อรัฐบาลยอมถอยไปในระดับหนึ่งแล้วคือการยุบสภา วิถีทางการเมืองจากนี้จึงต้องเข้าสู่การเลือกตั้งใหม่ ถึงจะมีประชาชนบางส่วนมองว่าการเลือกตั้งอาจไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม เพราะระบอบการเลือกตั้งยังไม่สมบูรณ์เท่าที่ควร แต่ในส่วนพรรคมาตุภูมิยังยืนยันจะส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง เพราะเราเห็นด้วยกับการเลือกตั้ง และยังเห็นด้วยกับการปฏิรูป เพราะ 80 ปีมาแล้วที่ประเทศเคยมีการปฏิรูป มาวันนี้ก็ควรต้องปรับสิ่งเก่าๆ บ้าง ใเพื่อห้ทันต่อสถานการณ์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการเลือกตั้งหรือการปฏิรูป อะไรจะมาก่อนหรือหลัง ตนตอบไม่ได้ และไม่ทราบว่ามวลมหาชนคิดอะไรอยู่ เราไม่ทราบจริงๆ เลยต้องพูดกั๊กๆ แบบนี้
ด้านตัวแทนพรรคเล็ก อาทิ นายวิบูลย์ แสงกาญจนวนิช ตัวแทนพรรคพลังคนกีฬา กล่าวว่า เชื่อว่าทุกพรรคการเมืองมีหัวใจเดียวกันที่ต้องการให้บ้านเมืองสงบ และถึงแม้พรรคเล็กต้องการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง แต่ก็ยังไม่เห็นความปลอดภัยที่จะพาผู้สมัครไปสมัครยังบริเวณศูนย์เยาวชนกีฬากรุงเทพมหานครไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ในวันที่ 23 ธ.ค.นี้ได้เลย
ขณะที่นายนพดล ฤทธิเดช หัวหน้าพรรคชาติสามัคคี เห็นว่า ในนามพรรคชาติสามัคคีมีหน้าที่ทำกิจกรรมทางการเมืองตามกฎหมายพรรคการเมือง ดังนั้น เราจะส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งทั้งระบบบัญชีรายชื่อและเขต แม้จะมีอุปสรรคอย่างไร ก็จะไป
ส่วนนายถาวร เสนเนียม กล่าวว่า ถึงแม้ตัวเลขผู้ชุมนุมที่เคลื่อนไหวจะมีไม่ถึง 15 ล้านคน เชิงปริมาณจะมากหรือน้อยไม่รู้ แต่ในเมื่อประชาชนออกมาเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องอำนาจประชาชนเอง และเป็นการเตือนสตินักการเมืองและฝ่ายบริหาร ก็ควรฟังบ้าง แม้จะไม่รู้ว่า กปปส.จะทำได้ถึง 95 เปอร์เซ็นต์หรือไม่ แต่ถ้าหากมีการเลือกตั้ง และมีพรรคที่ได้จัดตั้งรัฐบาล แต่ก็เชื่อว่ายังอาจมีปัญหาที่ไม่ได้รับการยอมรับอยู่ ดังนั้น ทุกพรรคจึงควรหยุดการเลือกตั้งไว้ระยะหนึ่ง แล้วมาคุยกันเพื่อสร้างกติกาใหม่
ทั้งนี้ ยืนยันว่าทุกสีทุกอาชีพได้มีส่วนร่วมในการปฏิรูปประเทศ ส่วนถ้ากังวลว่า กปปส.จะเข้ามายุ่มย่ามพวกเราก็พร้อมออกมา เพราะแม้แต่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ยังกล้าออก ประกาศเลิกเล่นการเมือง ส่วนตนยังต้องคิดก่อน หากนับในเชิงปริมาณประชาชนที่ออกมาเคลื่อนไหวไม่สามารถเท่ากับประชาชนทั้งประเทศได้ ก็จริง แต่ก็ควรเงี่ยหูฟังข้อเรียกร้องของพวกตน ที่ให้ทุกฝ่ายปฏิรูปประเทศไทยก่อน แล้วค่อยเลือกตั้ง
ด้านนายวัฒนา เมืองสุข อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่นายสุเทพประกาศเลิกเล่นการเมือง หรือแม้แต่ก่อนหน้านี้ที่ประกาศผูกคอตาย ตนอยากวิงวอนว่าอย่าทำเลย เพราะณะนี้เชื่อว่าความรู้สึกของประชาชนเหมือนกันที่อยากให้การปฏิรูปการเมือง สิ่งที่เป็นพยานได้คือ นายกฯ เคยมีดำริให้ตั้งสภาปฏิรูปการเมือง และปฏิรูปประเทศไทย ซึ่งเป็นทางออกทางเดียวสำหรับประเทศ แต่ก็มีประเด็นอยู่ที่ว่าจะปฏิรูปออกมาทางไหน ใครเป็นเจ้าภาพ นายกฯเคยดำริว่าหากเราเห็นตรงกันว่าจะต้องปฏิรูป ไม่จำเป็นที่รัฐบาลเป็นเจ้าภาพ ใครก็ได้ ขอแค่รมีกาจัดตั้งเวทีและนำความเห็นเสนอต่อรัฐบาล หรือจะออกเป็นกฎหมายเพื่อให้มีผลผูกพันก็ได้ และถ้ามีประเด็นที่เห็นไม่ตรงกัน ก็นำไปทำประชามติก็ได้ หลังจากปฏิรูปเสร็จก็คืนอำนาจให้ประชาชน ให้มีการเลือกตั้ง เว้นแต่จะมีใครกลัวเสียงประชาชน
นายวัฒนา กล่าวต่อว่า หากประเด็นเรื่องการปฏิรูปการเมืองคิดตรงก็เดินได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ ซึ่งองค์ประกอบตรงนี้มีความชัดเจน เป็นรูปธรรมจับต้องได้มากกว่าการเสนอจัดตั้งสภาประชาชนของ กปปส.เสียอีก อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเพื่อไทยไม่เคยกลัวเสียงประชาชนทั้งประเทศ ในเมื่อมีพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้งแล้ว ก็ต้องลงเลือกตั้ง แล้วให้เสียงของมวลมหาประชาชนทั้ง 65 ล้านคน เป็นคนตัดสิน แม้ว่ากฏกติกาที่ใช้อยู่เป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยปฏิเสธตลอดมาก็ตาม แต่เราก็พร้อมลงสนามเลือกตั้ง และยินดีปฏิรูปประเทศที่เป็นไปตามกฎกติกาบ้านเมือง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากทุกพรรคได้แสดงความคิดเห็น พล.อ.สนธิก็ได้เสนอให้มีการเลื่อนวันเลือกตั้ง โดยให้เหตุผลว่า ในเมื่อวันนี้เรามาหาทางออกให้ประเทศ แต่สิ่งที่หลายคนพูดนั้นตันไปหมด เป็นอุปสรรคการเลือกตั้ง จึงเป็นไปได้หรือไม่หากเลือกตั้งไม่ได้ จะทำอย่างไร ตนได้สอบถาม กกต.แล้วระบุว่าอาจเลื่อนได้ เช่น มีเหตุการณ์สุดวิสัย อีกทั้งตอนนี้มีประชาชน 2 ฝ่าย ทั้งต้องการให้เลือกตั้ง อีกฝ่ายให้เลื่อนออกไป ดังนั้นเพื่อให้วิน-วิน ทั้งคู่ อยากเสนอผ่านนายวัฒนา ในการเลื่อนการเลือกตั้งในกรอบของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ มาทำการปฏิรูปอย่างมีขอบเขตมีกำหนดอย่างชัดเจนในระบบที่ใช้เวลาการปฏิรูปที่ไม่ยาว เป็นไปได้หรือไม่เพื่อชะลอสถานการณ์บ้านเมือง ไปสู่จุดที่อยู่ร่วมกันได้
ทั้งนี้ ตนในฐานะผู้รวบรวมข้อมูลและเป็นห่วงประเทศมาก โดยเฉพาะบ้านเมืองที่เกิดวิกฤต ขอให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไปสักหน่อย และใช้ช่องว่างนั้นทำการปฏิรูปให้เกิดขึ้น ทำให้ นายวัฒนา ตอบว่า ขณะนี้อำนาจทั้งหมดในมือรัฐบาลไปอยู่ที่กกต.เป็นผู้จัดการเลือกตั้งหมดแล้วโดยสิ้นเชิง รัฐบาลจึงไม่มีอำนาจใดๆ อีก
ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai