เลขาธิการ กปปส. ปราศรัยก่อนชุมนุมใหญ่ 22 ธ.ค. ย้ำต้องขับไล่รัฐบาลรักษาการ เปิดทางให้มีการปฏิรูปประเทศ ยืนยันไม่ได้ต่อต้านการเลือกตั้ง แต่ต้องปฏิรูปก่อนจากนั้นเชิญเลือกตั้งกันให้เพลิน ลั่นจะไปชุมนุมวันรับสมัคร ส.ส. พร้อมชี้แจงชุมนุมพรุ่งนี้จะต้องปิดกรุงเทพครึ่งวัน ตั้ง 5 เวทีใหญ่ 10 เวทีย่อย เชิญประชาชนมาปิคนิคกลางถนนหลวง
การปราศรัยของสุเทพ เทือกสุบรรณ เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2556 ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย (ที่มา: Blue Sky Channel)
สุเทพยืนยันรัฐบาลสิ้นสภาพแล้วทั้งกฎหมายและการเมือง แต่ยังเป็นจระเข้ขวางคลองอยู่ต้องไล่ออกไป
21 ธ.ค. 2556 - เมื่อเวลา 20.00 น. วันนี้ (21 ธ.ค.) สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ได้ปราศรัยในการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ระบุว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์สิ้นความชอบธรรมไปแล้ว เพราะไม่ยอมรับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่เป็นกฎหมายสูงสุด จึงไม่ชอบธรรมที่จะเป็นรัฐบาลต่อไป และพยายามออกกฎหมายพิเศษเพื่อนิรโทษกรรมล้างผิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรที่ศาลพิพากษาแล้วว่าใช้อำนาจหน้าที่ในฐานะนายกรัฐมนตรีขัดต่อกฎหมาย และศาลยังลงโทษยึดทรัพย์ 46,000 ล้านบาท ใช้อำนาจหน้าที่มิชอบหาเงินจำนวนนั้นมา ทั้งสองกรณีนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรต่อสู้คดีแล้ว ถึงขนาดให้ทนายเอาถุงขนมไปลืมไว้ที่ศาล 2 ล้าน ศาลเลยจำคุกทนายฐานหมิ่นศาล ไม่มีประเทศไหนในโลกที่จะออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้คนทุจริต แต่รัฐบาลนี้ทำเพราะเป็นน้องสาวของนักโทษหนีคดี
"ขอเรียนพี่น้องที่เพิ่งมาว่าตรงที่ ถ.ดินสอนั้น สมุนบริวารของทักษิณมาสู้เพื่อทักษิณเท่านั้น ชุมนุมตรงนี้ เอาปืนตรงนี้ไปยิงทหาร พล.อ.ร่มเกล้า ตายตรงนั้น ทหารตาย 5 คน บาดเจ็บ 400 คน หลังจากนั้นฆ่าตำรวจ ก่อจลาจล ก่อการร้าย ฆ่าตำรวจ ทหาร ประชาชน เพื่อทักษิณ คนเดียว แต่ยิ่งลักษณ์จะออกกฎหมายพิเศษนิรโทษกรรมคนเหล่านั้น ไม่ต้องนับเรื่องอื่น สองเรื่องนี้เพียงพอที่จะพิพากษาได้แล้วว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์หมดความชอบธรรมที่จะเป็นรัฐบาล เป็นพระก็ปราชิกแล้ว แต่แกไม่ออก กอดเก้าอี้แข็ง ประชาชนออกมาชุมนุม เดินขบวนต่อต้านเป็นล้านคนแล้ว เมื่อ 24 พ.ย. และเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. แปลว่าประชาชนที่รัฐบาลนี้ปกครองอยู่ เขาปฏิเสธการบริหารของรัฐบาลนี้ รัฐบาลนี้หมดความชอบธรรมทางการเมืองด้วย นอกจากหมดความชอบธรรมทางกฎหมายแล้ว"
"ทางกฎหมายเป็นต่อไม่ได้ ทางการเมืองเป็นต่อไม่ได้ แต่แกอ้างหน้าตาเฉยว่าไม่ออก พอเราเดินขบวนแกก็ยุบสภา บอกว่ายอมแล้ว ถอยแล้ว เลือกตั้งเถอะ คืนอำนาจให้แล้ว ประชาชนไม่ยอม เพราะเอ็งถอยไม่จริง ถอยแบบมีเชิง เราก็เรียกร้องในเมื่อคุณไม่มีสิทธิแล้ว ไม่มีความชอบธรรมเป็นรัฐบาลแล้ว แม้จะยุบสภาจะรักษาการเป็นนายกรัฐมนตรี ยังมีอิทธิพลเหนือตำรวจ ข้าราชการฝ่ายปกครอง และคุณยังมีเงินมหาศาล ถ้าขืนเลือกตั้งต่อก็โกงเข้ามาอีก ซื้อคะแนนเสียงอีก พวกคุณมาเป็นรัฐบาลอีก ทุจริตคอร์รัปชั่นทำร้ายประเทศไทยอีก เราถึงไม่ยอม"
"เราบอกแกแล้วอำนาจอธิปไตยของประชาชนคนไทย ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 3 เป็นของปวงชนชาวไทย ซึ่งมอบอำนาจให้สภา ให้รัฐบาล แต่ปรากฏว่าทั้งสภา และรัฐบาลสุมหัวสมคบกันทรยศความไว้วางใจของประชาชน ประชาชนจึงเอาอำนาจอธิปไตยคืน เขาต้องออกไป เมื่อเขาไม่ออกไป เราถึงมาไล่เขาในวันพรุ่งนี้ยังไงครับ ต้องไล่ออกให้ได้ ไม่อย่างนั้นประเทศไทยไปไม่ได้ นายกรัฐมนตรี รัฐบาลนี้ และระบอบทักษิณนอนเป็นจระเข้ขวางคลองอยู่ เราพัฒนาประเทศไม่ได้ ถ้าไม่เขายังอยู่ในอำนาจ เราจึงต้องไล่เขาในวันพรุ่งนี้"
ยืนยันขับไล่รัฐบาลรักษาการ เพื่อปฏิรูปประเทศ ใช้เวลาไม่เกินปีครึ่ง
สุเทพกล่าวด้วยว่า "เชื่อว่าพรุ่งนี้จะมีพี่น้องประชาชนมืดฟ้ามัวดิน ออกมาชุมนุม แสดงตนเปิดเผยกล้าหาญ เพื่อไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตรออกไป พี่น้องทั้งหลาย เหตุผลประการที่สอง ที่เราออกมาชุมนุมในวันพรุ่งนี้แล้วนอกจากไล่ยิ่งลักษณ์ คือต้องการยืนยันให้คนทั้งประเทศ ทั้งโลก ได้เข้าใจ ว่าเจตนารมณ์มวลมหาประชาชนทั้งหลาย ต้องการปฏิรูปประเทศไทย เปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ไม่ใช่ประชาธิปไตยแบบอื่น ปฏิรูปการเลือกตั้ง ทั้งกฎหมายเลือกตั้ง พรรคการเมือง กฎหมายควบคุมตรวจสอบเลือกตั้ง ปฏิรูปกฎหมายปราบปรามคอร์รัปชั่น ปฏิรูปกฎหมายปกครองกระจายอำนาจให้ประชาชน ให้ประชาชนจัดการเอง เลือกผู้ว่าราชการจังหวัดเองทุกจังหวัด ปฏิรูปประเทศช่วยเหลือให้คนยากจนลืมตาอ้าปาก อยู่อย่างมีศักดิ์ศรี ดูแลเรื่องที่อยู่อาศัย อาชีพ การรักษาพยาบาล การศึกษา ของลูกหลานเขา และเรื่องสำคัฐคือปฏิรูปโครงสร้างตำรวจให้ตำรวจอยู่ใต้กำกับประชาชน ไม่ใช่เป็นนายประชาชน"
"ใช้เวลาปฏิรูป 8 เดือน 12 เดือน ไม่เกินปีครึ่ง แล้วเราไปเลือกตั้ง ผมเองไม่คิดเป็นนักการเมือง ผมเองเลิกแล้ว พี่น้องก็กลับบ้าน พูดอย่างนี้ อธิบายอย่างนี้ มันก็แกล้งไม่เข้าใจ ออกมาแด๊ะๆๆ บอกว่าไปไหนไม่ได้ ต้องรักษาการเป็นนายกรัฐมนตรี การเลือกตั้งมีพระราชกฤษฎีกาแล้ว เลื่อนไม่ได้ นี่ท่องอย่างแผ่นเสียงตกร่อง เราต้องยืนยันพี่น้อง ว่าเลือกตั้งไม่ได้ ต้องเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศก่อน เลือกตั้งภายใต้กติกาเดิมพวกมึงกลับมาขี่คอพวกกูอีก เพราะฉะนั้นต้องปฏิรูปก่อน ไม่ต้องตีสำบัดสำนวนว่าไม่มีกฎหมายรองรับ เออ พูดไปเรื่องกฎหมาย กูมีตีนของประชาชน ไล่มึงออกไป"
ยืนยันไม่ต่อต้านเลือกตั้ง แต่ต้องปฏิรูปก่อนจากนั้นเชิญเลือกตั้งให้เพลิน ลั่นจะไปชุมนุมวันรับสมัคร ส.ส.
"และประชาชนจะลุกขึ้นต่อสู้ยืนยันว่าไม่เอาเลือกตั้งจนกว่าจะปฏิรูปเสร็จ ไม่ใช่เราต่อต้านการเลือกตั้ง เฉพาะเลือกตั้งครั้งนี้ เท่านั้นปฏิรูปให้เสร็จก่อน แล้วเชิญไปเลือกตั้งกันให้เพลินไปเลย"เลขาธิการ กปปส. กล่าว
สุเทพยืนยันด้วยว่า เสียงของคนในทุกภาคส่วนเห็นด้วยกับมวลมหาประชาชนว่าต้องปฏิรปก่อน รัฐบาลนี้ไม่เป็นที่ปรารถนาของประชาชน ประชาชนเขาจึงขออำนาจคืน
ตอนหนึ่งสุเทพปราศรัยเรียกร้องให้ข้าราชการตัดสินใจเลือกข้างด้วยว่า "ส่วนข้าราชการยังตัดสินใจไม่ได้สักที เราออกมาแสดงพลังเพิ่มขึ้นๆ ตอนแรกๆ ฝ่ายรัฐบาลเขาก็วางแผนปล่อยให้พวกเราชุมนุมไป ปล่อยให้พวกเราเดินขบวนไป ไม่เท่าไหร่ก็หมดแรง เบื่อไปเอง กลับบ้านเอง เขาแกล้งอยู่เฉย อยู่กรุงเทพไม่ได้ก็ไปแรดแถวภาคเหนือ ภาคอีสาน แต่พี่น้องประชาชนก็สุดยอด ไม่เบื่อสักที ไม่หมดแรงสักที เพิ่มขึ้นทุกวัน มันใช้วิธีการอุบาทว์ เอากฎหมายของไอ้ธาริตอายัดทรัพย์เราหมด แม้กระทั่งค่ากับข้าวให้พวกเราหมดจะได้กลับบ้าน พี่น้องประชาชนของเราก็แน่มากยึดบัญชีกูได้ยึดไป เงินกูไม่มีหมด เพราะเงินของมวลมหาประชาชนมีเยอะมาก เห็นไหมครับ ศิษย์เก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยนักธุรกิจขึ้นมาบนเวทีบอกว่ามาทุกอาทิตย์ มากินอาหารปักษ์ใต้เสร็จก็บริจาคสองพัน ห้าพัน พอเห็นธาริตอายัดบัญชีค่ากับข้าวเลยชวนเพื่อนฝูงบริจาค นี่เฉพาะศิษย์เก่าสามรุ่น ได้สามแสนสามหมื่นบาทแล้ว แล้วยังมีประเภทใส่ซองมาอีก เหมือนคณะครู นักเรียน ประชาชน จาก จ.ชุมพร อย่างนี้พวกกูสู้ได้เป็นปี ยิ่งลักษณ์เอ๋ย ไม่มีหมดแรง ประกาศให้ข้าราชการ พลเรือน ทหาร ตำรวจให้ทราบ ให้ออกมาดูบ้าง ว่ามีประชาชนมาชุมนุมเท่าไหร่"
ทั้งนี้สุเทพปราศรัยด้วยว่า ในวันที่ 23 ธ.ค. จะรวมตัวเดินไปยืนหน้าสนามกีฬาไทยญี่ปุ่นดินแดง เพื่อแสดงว่าเราไม่ต้องการให้มีการเลือกตั้ง
ชี้แจงปิดกรุงเทพครึ่งวัน ตั้ง 5 เวทีใหญ่ 10 เวทีย่อย เชิญ ปชช. ปิคนิคกลางถนนหลวง
ต่อมาสุเทพชี้แจงกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 22 ธ.ค. ว่าจะมีการทำ 5 เวทีใหญ่ ได้แก่ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แยกปทุมวัน แยกราชประสงค์ สีลม และแยกอโศก และเวทีย่อย 10 จุด ได้แก่ แยกอุรุพงษ์ แยกราชเทวี ประตูน้ำ แยกราชปรารภ แยกเจริญผล แยกหัวลำโพง แยกบางรัก แยกคลองเตย แยกเพลินจิต และแยกทองหล่อ
"จะทำเวทีใหญ่ 5 เวที ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ สำหรับประชาชนที่มาทางด้านเหนือ ถัดลงมาเป็นเวทีสี่แยกปทุมวัน สยามแสควร์ ชาวจุฬาจะมาที่นั่น ประชาชนก็ไปสมทบที่นั่น ลากลงไปเราตั้งเวทีที่หัวถนนสีลม สวนลุมพินี พี่น้องประชาชนฝั่งธนบุรี ด้านสีลมไปชุมนุมที่นั่น เราไปตั้งที่กลางแยกราชประสงค์เหมือนเสื้อแดงไปตั้ง แต่พวกนั้นอุบาทว์ เผาบ้านเมือง ฆ่าคน เราตั้งเวทีแบบคนดีๆ ชวนคนมาร่วมชุมนุม เลยไปทางสุขุมวิท เราไปตั้งที่อโศก ตัดสุขุมวิท รวม 5 เวที พี่้น้องใกล้ตรงไหน ไปตรงนั้น เปิดเวทีพร้อมกันบ่ายโมงตรง 13.00 น. รวมทั้งที่เวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แล้วจะมีเวทีย่อยๆ กระจายตามถนนต่างๆ อีก 10 เวที เรียกว่ามาตรงไหนได้ตรงนั้น มาเลย ปิคนิคกลางถนนหลวง ปิดเมืองกรุงเทพครึ่งวันพรุ่งนี้"
"พรุ่งนี้ไม่ต้องใช้รถยนต์ครับ เดินไม่ได้ใช้รถไฟฟ้า พรุ่งนี้ถนนทุกสายเป็นถนนคนเดินไปหมดแล้ว พี่น้องราชดำเนินก็ชุมนุมที่นี่ เวทีนี้เป็นเวทีหลัก พี่น้องตรงอื่น สะดวกตรงไหน ชอบใจตรงไหนไปตรงนั้น นั่งรถไฟฟ้า นั่งรถใต้ดินไป ไม่ต้องเอารถยนต์ไป เพราะไม่มีที่ให้ขับรถยนต์พรุ่งนี้ เราจะกระจายคนไปตามเวทีต่างๆ"
ทั้งนี้จะมีแกนนำรับผิดชอบกิจกรรมที่ 5 เวทีใหญ่ ได้แก่ หนึ่ง อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ นำโดย อิสระ สมชัย, สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์, สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม, สมศักดิ์ โกศัยสุข และคณะกรรมการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ สอง สี่แยกปทุมวัน จะมีคณะอาจารย์ศิษย์เก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ และนายสุริยะใส กตะศิลา สาม ที่สวนลุมพินี จะตั้งเวทีที่หัวถนนสีลม ชุมชนสีลมนำโดยสาธิต เซกัล แซมดิน เลิศบุศย์ วิทยา แก้วภราดัย และจิตภัสร์ ภิรมย์ภักดี สี่ที่ราชประสงค์โดยชุมพล จุลใส ดนัย จันทร์เจ้าฉาย และกลุ่มนักธุรกิจ และห้า ที่แยกอโศก โดยนายถาวร เสนเนียม และกลุ่มนักธุรกิจอโศก
อยากจัดกิจกรรมอะไรเชิญเต็มที่ เพราะประชาชนมีโอกาสแสดงความเป็นเจ้าของก็หนนี้
สุเทพปราศรัยด้วยว่า "ใครมีความคิดอะไรสนุกสนาม ขึ้นไปพูดบนเวทีได้ทุกคน แล้วอยากปิดเวทีห้าทุ่ม สองยาม ตีสองไม่มีใครว่าอะไร เชิญเต็มที่เพราะบ้านนี้เมืองนี้ ประชาชนอย่างแล้วได้มีโอกาสแสดงความเป็นเจ้าของประเทศก็หนนี้แหละครับ สำหรับสุภาพสตรี คุณอัญชะลี ไพรีรักษ์ นัดหมายแล้วใช่ไหมครับ ไปเยี่ยมนายกรัฐมนตรี เอาดอกไม้ไปให้ เอานกหวีดไปฝาก เธอลาออกได้แล้ว ฉันไม่เอาแล้ว"
"ทั้งหมดทั้งนี้ทั้งนั้น กระบวนการต่อสู้เราจะยึดหลักสันติ สงบ ไม่รุนแรง ไม่มีอาวุธ เราเป็นพลเมืองดี สู้ด้วยหัวใจกับมือเปล่าไม่มีความรุนแรงใดๆ เกิดขึ้นเด็ดขาด เพราะเราต้องการชนะแบบขาวสะอาด แล้วต้องการสร้างประวัติศาสตร์ให้ลูกหลานได้จดจำการต่อสู้ครับ วันนี้ถือเป็นวันสุกดิบ ไม่ใช้เวลากับพี่น้องมาก ออมแรงไว้เดินพรุ่งนี้ ไว้ทำงานพรุ่งนี้ และเมื่อเสร็จภารกิจพรุ่งนี้จะมีภารกิจมะรืนนี้ที่จะทำต่อไป ผมยืนยันว่าผมทุ่มเทชีวิตจิตใจทุกอย่าง ร่วมต่อสู้กับพี่น้องทั้งหลาย ไม่ท้อถอย"