40 ส.ว. 'สมชาย แสวงการ'ชี้คำวินิจฉัยศาลทำให้เกิดดุลยภาพประชาธิปไตย 'สายล่อฟ้า'ชี้คำวินิจฉัยศาลสอนมวยแกนนำ นปช. ที่ปลุกระดมเสื้อแดงว่าจะยุบพรรค ทั้งที่ ปชป. ยื่นศาล รธน. ตีความเนื้อหา-กระบวนการแก้ขัด รธน. หรือไม่ พร้อมท้า 'ณัฐวุฒิ'ลาออก รมช. มานำชุมนุมเหมือน 'สุเทพ'
ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับที่มา ส.ว. ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 68 เข้าข่ายเป็นการกระทำเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีทางที่ไม่ได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ โดยลงมติ 6 ต่อ 3 ว่าเนื้อหาการแก้ไขขัดรัฐธรรมนูญ และลงมติ 5 ต่อ 4 ว่ากระบวนการแก้ไขเช่น เอกสารประกอบการพิจารณา ระยะเวลาการแปรญัตติ การลงคะแนนแทนกัน ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ และยกคำร้องการยุบพรรคและเพิกถอนสิทธิทางการเมืองผู้บริหารพรรคนั้น (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)
'เทพไท'ท้า 'ณัฐวุฒิ'ลาออก รมช. มานำการชุมนุมเหมือน 'สุเทพ เทือกสุบรรณ'
ปฏิกิริยาภายหลังศาลมีคำวินิจฉัยนั้น 16.00 น. ขณะเดียวกันในรายการสายล่อฟ้า ทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม Blue Sky Channel นั้น ศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา และผู้ดำเนินรายการ กล่าวว่า ได้ฟังคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญวันนี้ ถือเป็นการให้ข้อคิดที่ดีแก่นักการเมืองในประเทศ เป็นการสอนมวยแกนนำเสื้อแดง ที่ปราศรัยที่สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถานด้วย ว่าแต่ว่าจะฟังรู้เรื่องหรือเปล่า เพราะปราศรัยก่อนหน้านี้ว่าศาลจะยุบพรรค ทั้งที่ตอนที่พรรคประชาธิปัตย์ไปยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญนั้นไม่ได้ยื่นให้ยุบพรรคหรือตัดสิทธิ์ แต่ยื่นในประเด็นที่ว่ากระบวนการแก้ไข รธน. ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ไม่ได้ยื่นให้ยุบพรรค
ส่วนเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช ผู้ดำเนินรายการ กล่าวว่า ปล่อยให้หลงประเด็นไป ทั้งยังกล่าวด้วยว่า ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพานิช ไปยืนอยู่หัวม็อบได้อย่างไร เพราะเป็นรัฐมนตรี โดยเรียกร้องให้ณัฐวุฒิลาออก เหมือนกับสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ลาออกจาก ส.ส. เพื่อไปเป็นแกนนำการชุมนุม
ทั้งนี้ในรายการยังเปิดคลิปภาพ นริศร ทองธิราช ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย ซึ่งเก็บบัตร ส.ส.ในพรรคไว้ 8 คน และดำเนินการเสียบบัตร โดยผู้ดำเนินรายการสายล่อฟ้าระบุว่าเป็นการเสียบบัตรช่วงลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญเสียบบัตรลงคะแนนแทนกัน
40 ส.ว. พอใจคำวินิจฉัยศาล รธน. หวังเป็นบรรทัดฐาน สร้างดุลยภาคประชาธิปไตย
นอกจากนี้คมชัดลึกรายงานความเห็นของกลุ่ม 40 ส.ว. โดย สมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า บรรทัดฐานคำวินิจฉัยทำให้เกิดดุลยภาพในระบอบประชาธิปไตยอย่างชัดเจน ส่วนการดำเนินการต่อไปคงต้องดูอีกหลายเรื่อง ทั้งในเรื่องการขัดกันของผลประโยชน์ การทุจริตต่อหน้าที่ใช้ผลประโยชน์ส่วนตนมาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งได้ยื่นต่อ ป.ป.ช.ไว้แล้ว
ส่วน รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กรุงเทพฯ กล่าวว่า ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ต้องรับผิดชอบต่อร่างรัฐธรรมนูญที่ต้องตกไปตามคำสั่งศาล โดยต้องแสดงสปิริตด้วยการลาออก ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกที่ประเทศญี่ปุ่นก็มีการสลับให้สมาชิกคนอื่นขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีแทน แต่สำหรับประเทศไทยสปิริตของนักการเมืองค่อนข้างต่ำและคงไม่แสดงความรับผิดชอบถ้าไม่ถึงที่สุดจริงๆ
ส่วนกรณีที่ ส.ส.และ ส.ว.ไม่รับอำนาจศาลก็คงเห็นแค่วาทะกรรม เพราะในทางปฏิบัติเราต้องยอมรับแม้กระทั่งอำนาจตำรวจจราจรที่แจกใบสั่ง จะปฏิเสธไม่รับก็ไม่ได้ ส่วนตัวรู้สึกพอใจที่ร่างรัฐธรรมนูญหมดสภาพไปต่อไม่ได้ ส่วนจะทำอย่างไรจะต้องไปดูรายละเอียดคำวินิจัยซึ่งชัดเจนว่า ต้องมีการเช็คบิลรายตัวกับกลุ่ม ส.ส. และ ส.ว.ที่ดำเนินกระบวนการเสนอร่างแก้รัฐธรรมนุญที่มีผลประโยชน์ทับซ้อน