ศูนย์ศึกษาเศรษฐศาสตร์การเมือง และชมรมศิษย์เศรษฐศาสตร์การเมือง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยวันนี้ (30 ส.ค.) ว่า ได้ร่วมกันจัดละครเวทีเรื่อง “เพื่อชาติ เพื่อ HUMANITY” ว่าด้วยวีรกรรมของนายจำกัด พลางกูร หนึ่งในสมาชิกขบวนการเสรีไทย สายในประเทศ ที่ปฏิบัติภารกิจข้ามเขตทหารของกองทัพญี่ปุ่น เพื่อไปเจรจากับฝ่ายสัมพันธมิตรที่เมืองจุงกิง ประเทศจีน ซึ่งส่งผลให้ประเทศไทยไม่ถูกปรับให้เป็นประเทศผู้แพ้สงคราม ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติ วีรกรรมของเขาจึงถือเป็นจุดเปลี่ยนทางประวัติศาสตร์ แต่ชื่อเสียงและภารกิจนี้ กลับไม่เป็นที่รับรู้ในสังคมเท่าที่ควร ละครเวทีประวัติศาสตร์เรื่องนี้ จัดแสดงโดยศิษย์เก่าและนิสิตปัจจุบันของคณะเศรษฐศาสตร์การเมือง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
โดย ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.ฉัตรทิพย์ นาถสุภา ผู้เขียนต้นฉบับแรกของบทละครกล่าวว่า “ในการค้นคว้าเรื่องขบวนการเสรีไทย ผมพบว่าคุณจำกัด พลางกูร มีความสำคัญอย่างมากต่อประวัติศาสตร์ชาติไทย เพราะเขาคือผู้ที่ยอมสละชีวิต เสี่ยงภัยเดินทางไปยังเมืองจีนเพื่อขอเจรจากับฝ่ายสัมพันธมิตร ให้รับทราบการเกิดขึ้นของขบวนการเสรีไทยในประเทศ และให้การยอมรับสถานะของขบวนการจนกระทั่งส่งผลให้ประเทศรอดพ้นจากการตกเป็นประเทศผู้แพ้สงครามในที่สุด” (อ่านข่าวอภิปรายของฉัตรทิพย์)
การปฏิบัติภารกิจของนายจำกัด ได้รับมอบหมายจากนายปรีดี พนมยงค์ ผู้นำขบวนการ เดินทางเสี่ยงการถูกฝ่ายทหารญี่ปุ่นจับตัว เพื่อไปยังเมืองจุงกิง เมืองหลวงของรัฐบาลจีนคณะชาติ เพื่อหาโอกาสเจรจากับนายพล เจียงไคเช็ค ผู้นำกองกำลังทหารพรรคก๊กมินตั๋ง และประเทศฝ่ายสัมพันธมิตร โดยเฉพาะอังกฤษและสหรัฐอเมริกา ให้ถือคำประกาศสงครามกับฝ่ายสัมพันธมิตรโดยรัฐบาลไทยขณะนั้น ซึ่งนำโดย จอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นโมฆะ และขอให้ฝ่ายสัมพันธมิตรรับรองความชอบธรรมของขบวนการเสรีไทยที่กำลังต่อต้านฝ่ายอักษะ นอกจากนี้ ยังขอการสนับสนุนหาทางให้นายปรีดี พนมยงค์ จัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นในประเทศอินเดียด้วย
บันทึกประจำวัน เขียนด้วยลายมือ ความหนานับพันหน้าของนายจำกัด พลางกูร และจดหมายโต้ตอบนับหลายฉบับระหว่างเขากับ พ.ท.ม.จ.ศุภสวัสดิ์วงศ์สนิท สวัสดิวัฒน คณะกู้ชาติสายอังกฤษ ได้เผยความนึกคิดและสภาพความเป็นอยู่อันยากแค้นของเขาระหว่างปฏิบัติภารกิจนี้อย่างโดดเดียวในแผ่นดินจีนจวบจนวาระสุดท้ายของชีวิต ที่สำคัญที่สุด จากบันทึกฉบับนี้ ความจริงหลายเรื่องในประวัติศาสตร์ช่วงปีพ.ศ.2486 ก็ปรากฏชัดขึ้น ความจริงเบื้องหลังที่ทำให้ชาติไทยธำรงเอกราชไว้ได้
“คุณูปการ 3 ข้อ จากบันทึกประจำวันของนายจำกัดฉบับนี้ ชี้ให้สังคมไทยเห็นว่า หนึ่ง จีนเป็นประเทศแรกของฝ่ายสัมพันธมิตรที่รับปากว่าจะให้การรับรองเอกราชของไทย ซึ่งนี่น่าจะเป็นข้อมูลที่บอกว่า จีนมีบทบาทสำคัญพอ ๆ กับสหรัฐฯ ที่ให้การสนับสนุนอาวุธแก่ขบวนการเสรีไทยเลยทีเดียว สอง เรื่องราวในจดหมายระหว่างนายจำกัดกับ ม.จ.ศุภสวัสดิ์ฯ พระเชษฐาในสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระราชินีในรัชกาลที่ 7 สะท้อนให้เห็นการประนีประนอมยอมรับระบอบการปกครองใหม่ ระหว่างฝ่ายเจ้ากับคณะราษฎรอย่างมีนัยยะสำคัญทางประวัติศาสตร์การเมืองไทยคือ การที่ฝ่ายเจ้าก็ให้การยอมรับหลักการของคณะราษฎรที่ชูความสำคัญของรัฐธรรมนูญ และการนำของนายปรีดี ด้วยคำพูดบางตอนของ ม.จ.ศุภสวัสดิ์ฯ ในบันทึกที่ว่า ‘ถึงผมจะเป็นเจ้า แต่ก็บูชาประชาธิปไตย’ และคุณูปการข้อสุดท้ายคือ การทำให้พลังประชาชนในชาติมีส่วนสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงทางประวัติศาสตร์ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสังคมการเมืองไทยครั้งนั้น จำต้องอาศัยความรักและความร่วมมือของคนในชาติอย่างแท้จริง ลำพังการประกาศจุดยืนของเสรีไทยนอกประเทศที่ขาดกำลังคน ย่อมไม่อาจบรรลุผล” ฉัตรทิพย์ นาถสุภา กล่าวย้ำ
ด้าน พรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกูล กรรมการรองเลขาธิการหอการค้าไทย ในฐานะประธานชมรมศิษย์เศรษฐศาสตร์การเมืองและนักแสดงหลักในละครเรื่องนี้ เผยว่า “เราทุกคนได้อ่านเรื่องของนายจำกัดแล้วจากหนังสือชื่อ เพื่อชาติ เพื่อ HUMANITY เขียนโดยท่านอาจารย์ฉัตรทิพย์ นาถสุภา แล้วรู้สึกภูมิใจมากที่ประเทศไทยมีคนกล้า ยอมเสียสละแม้ชีวิตเพื่อชาติ เสี่ยงภัยที่ไม่อาจคาดเดาได้ จนฟันฝ่าไปถึงจุดหมายและมุ่งมั่นจัดการภารกิจที่ได้รับมอบหมายให้ลุล่วง ถ้าขาดเขา ปานนี้ไม่รู้ประเทศไทยจะเป็นอย่างไรเลย”
คณะผู้จัดงานและการแสดงละครเวที คาดหวังว่าการจัดการแสดงละครครั้งนี้ จะลบข้อครหาที่เคยมีผู้กล่าวว่า นายจำกัด พลางกูร ได้มอบชีวิตของเขาให้แก่ประเทศชาติ แต่ทุกวันนี้ กลับมีคนน้อยมากที่รับรู้และสัมผัสได้อย่างลึกซึ้งถึงความรักชาติและความกล้าหาญของเขา โดยการแสดงรอบสื่อมวลชนจะจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม 2556 เวลา 18.30 น. ณ โรงละครสดใส พันธุมโกมล ชั้น 6 อาคารมหาจักรีสิรินธร คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยสามารถสอบถามได้ที่คณะผู้จัดละคร