21 ส.ค.56 เว็บไซต์ Voice Labourรายงานว่า เครือข่ายบำนาญภาคประชาชน (คบช.) คัดค้าน ร่าง พ.ร.บ.ยุบกองทุนการออมแห่งชาติ พร้อมรวมกลุ่มองค์กรเครือข่ายพันธมิตร เตรียมดำเนินการคัดค้านการเสนอร่างพระราชบัญญัติยุบเลิกกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. … ในทุกรูปแบบ นัดรวมพลคัดค้านหน้าสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง 22 ส.ค. 56 เวลา 10.00 – 12.00 น. และจัดระดมรณรงค์ให้ประชาชนกดไลค์ความเห็นผ่าน http://www.change.org ถึงกระทรวงการคลังให้หยุดการเสนอร่างพระราชบัญญัติยุบเลิกกองทุนการออมแห่งชาติ (ร่วมได้ที่ http://chn.ge/1dpsQAE)
สุนี ไชยรส รองประธานคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย (คปก.) กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่าเศร้า ที่รัฐบาลชุดนี้ไม่ยอมบังคับใช้ผ่านมาแล้วปีกว่า ทำให้ต้องศาลปกครอง และแทนที่รัฐบาล กระทรวงการคลังจะเร่งดำเนินการแก้ไขกลับพยายามผลักดันให้เข้าสู่ประกันสังคมมาตรา 40ในทางเลือกที่ 3 ซึ่งก็ยังไม่ได้ดำเนินการ ล่าสุดทางกระทรวงการคลังก็มีการร่างกฎหมายเพื่อขึ้นมาเพื่อยกเลิกพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ซึ่งเป็นเรื่องที่สร้างความมึนงงเหมือนกัน เพราะว่าไม่เคยมีในประวัติสาสตร์เรื่องการออกกฎหมายเพื่อยกเลิกกฎหมายที่ประชาชนส่งเสียงเรียกร้องให้มีการบังคับใช้ เพื่อให้เกิดคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งกฎหมาย กอช. ฉบับนี้มีความเป็นอิสระ และมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการกองทุน ซึ่งต่างจากกองทุนประกันสังคมที่ใช้ระบบไตรภาคี และรัฐเป็นผู้บริหารจัดการ ที่ไม่เป็นอิสระ และยังมีความไม่ชัดเจนรอการพิจารณาร่างกฎหมายใหม่ แม้ว่าทางกระทรวงการคลังจะแจงว่า การไปอยู่ในระบบประกันสังคมมาตรา 40 เมนู 3 ดีกว่าเดิมด้วยหลักการรัฐร่วมจ่าย แต่ในความต้องการของประชาชนคือความเป็นองค์กรอิสระ และการมีส่วนร่วม ความโปรงใส ตรวจสอบได้ ซึ่งระบบประกันสังคมยังไม่มี เท่าที่รู้กันว่าร่างกฎหมายประกันสังคมของภาคประชาชนที่สภาผู้แทนราษฎรได้ใช้เสียงข้างมากของรัฐบาลโหวตไม่รับร่างและตกไป
การที่มีการร่างกฎหมายเพื่อยกเลิกกำหมายกอช. โดยใช้เวลาไม่ถึงอาทิตย์ พร้อมส่งให้ใครก็ไม่รู้ตอบแบบสอบถามว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับการยกเลิกกฎหมายกอช. มีอย่างน้อยสามประเด็นที่น่าสนใจคือ
1 . กฎหมายแต่ละฉบับกว่าจะผ่านรัฐสภามีผลใช้ ยากลำบากมาก และกฎหมายฉบับนี้ประชาชนให้การสนับสนุนและผลักดันมาหลายปีกว่าจะออกมา รัฐสภาจะมีประโยชน์อะไรในการร่างกฎหมาย แสดงว่ารัฐสภาร่างกฎหมายไม่ดี จนต้องยกเลิกทั้งที่ยังไม่ได้ใช้ใช่หรือไม่
2. การนำไปไว้กับกองทุนประกันสังคม ที่คณะกรรมการบอร์ดไม่มีตัวแทนแรงงานนอกระบบ และอีกหลากหลายที่ออกแบบไว้ในกรรมการกองทุนกอช. และกองทุนประกันสังคมก็ใหญ่โต มีปัญหาถูกวิจารณ์เรื่องบริหารไม่มีประสิทธิภาพและความโปร่งใสอยู่แล้ว กม.ประกันสังคมก็ไม่ยอมรับหลักการการแก้ไขโดยร่างฉบับประชาชน จึงมีปัญหาในตัวอยู่แล้ว จึงไม่ชอบธรรมที่จะยุบกอช.ไปอยู่กับสำนักงานประกันสังคม ( สปส.)
3. เรื่องนี้มีการฟ้องศาลปกครองอยู่ ไม่ควรรีบยกเลิกกฎหมายหนีการตรวจสอบของศาล แต่ควรรีบดำเนินการตามกฎหมายกอช.จะดีกว่า ฯลฯ
ทั้งนี้ เครือข่ายบำนาญภาคประชาชน องค์กรภาคประชาชน และองค์กรพัฒนาเอกชน ได้แก่ ศูนย์ประสานงานแรงงานนอกระบบ สมาคมส่งเสริมสิทธิชุมชนเพื่อการพัฒนา สมาคมวิถีทางเลือกเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน มูลนิธิเพื่อนหญิง และมูลนิธิอารมณ์ พงศ์พงัน มีมติร่วมกันในการติดตามหนังสือที่ยื่นเพื่อคัดค้านการทำประชาพิจารณ์ ร่าง พระราชบัญญัติยุบกองทุนการออมแห่งชาติฯ ต่อกระทรวงการคลัง ในวันที่ 22 สิงหาคม 2556 เวลา 10.00- 12.00 น. ณ หน้าสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง พร้อมทั้งแบบสำรวจความคิดเห็นที่ไม่เห็นชอบต่อ ร่าง พระราชบัญญัติดังกล่าว จากเครือข่ายบำนาญภาคประชาชนในแต่ละภูมิภาค เพื่อให้รัฐบาลหยุดการกระทำดังกล่าว
ตามที่ เมื่อวันที่ 15 ส.ค.2556 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดทำประชาพิจารณ์เกี่ยวกับ การยกเลิกพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ.2554 (พ.ร.บ. กอช.) ผ่านเว็บไซต์ http://www.fpo.go.th มีกำหนดให้ประชาชนและผู้ส่วนได้ส่วนเสีย ร่วมแสดงความคิดเห็นภายในวันที่ 21 ส.ค. 2556 หรือเป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์
อย่างไรก็ตาม ช่วงเช้าวันที่ 16 ส.ค.2556 แบบสอบถามเรื่องการยกเลิก พ.ร.บ.กอช.ถูกถอดออกจากเว็บไซต์ และเมื่อสอบถามไปยังสำนักนโยบายและการลงทุนของ สศค. ได้รับคำตอบว่ามีความผิดพลาดทางเทคนิค และเตรียมที่จะนำแบบสอบถามขึ้นเว็บไซต์อีกครั้งในเร็วๆ นี้ โดยจะชดเชยเวลาการทำแบบสอบถามให้ครบ 1 สัปดาห์ตามกำหนดเดิมที่วางไว้
รายงานข่าวระบุว่า การยกเลิก พ.ร.บ.กอช. เป็นแนวคิดของ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง ที่เห็นว่า พ.ร.บ.กอช.นั้น เป็นการทำงานที่ซ้ำซ้อน พ.ร.บ.ประกันสังคม มาตรา 40 โดยในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.2556 ได้เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) กำหนดหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงิน สมทบประเทศของประโยชน์ทด แทน ตลอดจนหลักเกณฑ์และเงื่อนไขแห่งสิทธิ์ในการรับประ โยชน์ทดแทนของบุคคลซึ่งสมัครเป็นผู้ประกันตนไปแล้ว
พ.ร.บ.กอช. ถูกผลักดันโดยรัฐบาลประชาธิปัตย์ ซึ่งหลังจากมีผลบังคับใช้แล้ว จะต้องจัดตั้งกองทุนและเปิดให้ประชาชนมาออมภายใน 1 ปี ตามกำหนดคือช่วงกลางปี 2555 แต่เมื่อรัฐบาลเพื่อไทยเข้ามา ไม่เห็นด้วยกับการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว และสั่งการให้ สศค.ไปดำเนินการยกเลิก ซึ่งในการยกเลิกกฎหมายทำได้หลายวิธี แต่ สศค.เห็นว่าควรจะทำประชาพิจารณ์เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียก่อน ซึ่งข้อสรุปจากการจัดทำประชาพิจารณ์ จะเสนอไปยังฝ่ายการเมือง เพื่อนำเสนอไปยัง ครม.ให้เสนอยกเลิก พ.ร.บ.กอช.ไปยังรัฐสภาตามขั้นต่อไป (ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ วันที่ 19 สิงหาคม 2556)
======================
ร่างพระราชบัญญัติยุบเลิกกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. ….
—————
โดยที่เป็นการสมควรยุบเลิกกองทุนการออมแห่งชาติ
…………………………………………………………………………………….
มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติยุบเลิกกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. ….”
มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา 3 ให้ยุบเลิกกองทุนการออมแห่งชาติที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. 2554
มาตรา 4 กองทุนการออมแห่งชาติซึ่งได้ถูกยุบเลิกตามมาตรา 3 ให้ถือว่ายังคงอยู่ตราบเท่าเวลาที่จำเป็นเพื่อการชำระบัญชี
มาตรา 5 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแต่งตั้งบุคคลขึ้นคณะหนึ่งจำนวนไม่เกินเจ็ดคน เป็นคณะกรรมการผู้ชำระบัญชีของกองทุนการออมแห่งชาติ ซึ่งอย่างน้อยต้องประกอบด้วย ผู้แทนกระทรวงการคลัง และผู้แทนสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน
มาตรา 6 ให้คณะกรรมการชำระบัญชีได้รับเงินเดือนหรือค่าตอบแทนตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกำหนด โดยจ่ายจากทรัพย์สินของกองทุนการออมแห่งชาติ
มาตรา 7 ให้นำบทบัญญัติหมวด 5 ลักษณะ 22 ในบรรพ 3 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาใช้บังคับแก่อำนาจและหน้าที่ของคณะกรรมการชำระบัญชีของกองทุนการออมแห่งชาติ โดยอนุโลม
มาตรา 8 ให้คณะกรรมการชำระบัญชีมีอำนาจดำเนินคดีแทนกองทุนการออมแห่งชาติสำหรับคดีที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลก่อน หรือในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ และให้โอนสิทธิและความรับผิดของกองทุน การออมแห่งชาติที่เกิดจากคดีดังกล่าวไปเป็นของคณะกรรมการชำระบัญชี
มาตรา 9 เมื่อเสร็จการชำระบัญชีแล้ว ให้คณะกรรมการผู้ชำระบัญชีปฏิบัติดังต่อไปนี้
(1) เสนอรายงานการชำระบัญชีภายในสิบสี่วันนับแต่วันที่เสร็จการชำระบัญชีต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเพื่อพิจารณาอนุมัติและเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบแล้วประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป ทั้งนี้ ให้ถือว่าวันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นวันถึงที่สุดแห่งการชำระบัญชี
(2) โอนทรัพย์สินที่ยังคงเหลือให้แก่กระทรวงการคลัง ส่วนเงินที่ยังคงเหลือให้นำส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน ทั้งนี้ ต้องกระทำโดยไม่ชักช้า
(3) มอบสมุด บัญชี และเอกสารทั้งหมดของกองทุนการออมแห่งชาติให้แก่กระทรวงการคลังภายในสิบสี่วันนับแต่วันถึงที่สุดแห่งการชำระบัญชีและให้กระทรวงการคลังเก็บรักษาไว้สิบปีนับแต่วันดังกล่าว
สมุด บัญชี และเอกสารที่มอบให้แก่กระทรวงการคลังตามวรรคหนึ่ง (3) ให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียดูได้โดยไม่ต้องเรียกค่าธรรมเนียม
มาตรา 10 พนักงานและลูกจ้างของกองทุนการออมแห่งชาติ หากสมัครใจจะโอนไปปฏิบัติงาน
กับสำนักงานประกันสังคม และได้แจ้งความจำนงเป็นหนังสือต่อผู้บังคับบัญชาภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้โอนพนักงานผู้นั้นไปเป็นพนักงานของสำนักงานประกันสังคม
การโอนพนักงานตามวรรคหนึ่ง ให้ถือว่าเป็นการให้ออกจากงานเพราะเลิกหรือยุบตำแหน่งโดยให้มีสิทธิได้รับเงินชดเชย และผลประโยชน์ตามข้อบังคับคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติว่าด้วยการพนักงาน
พ.ศ. 2555 และข้อบังคับคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติว่าด้วยลูกจ้าง พ.ศ. 2555
มาตรา 11 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
………………………………………..
นายกรัฐมนตรี