ศาลปกครองพิษณุโลกนัดพิพากษาคดีแคดเมียมแม่ตาววันพรุ่งนี้ หลังชาวบ้านเจ็บป่วยเป็นโรคพิษแคดเมียมมานานนับสิบปี ชาวบ้านมั่นใจศาลปกครองจะประสาทความยุติธรรมให้หวังเกิดการแก้ไขฟื้นฟูอย่างจริงจัง
นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยว่าในวันพุธที่ 14 สิงหาคม 2556 นี้ เวลา 9.30 น. ศาลปกครองพิษณุโลกได้นัดหมายคู่กรณีมาฟังคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ 398/2552 ระหว่างสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ที่ 1 กับพวกรวม 32 คน ที่ได้ยื่นฟ้องคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติที่ 1 คณะกรรมการควบคุมมลพิษที่ 2 คณะกรรมการพัฒนาที่ดินที่ 3 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ 4 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมที่ 5 อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ที่ 6 เป็นคดีฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ หรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร ซึ่งคดีดังกล่าวได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองพิษณุโลกมาตั้งแต่วันที่ 11 ธันวาคม 2552 หลังจากที่หน่วยงานภาครัฐที่ถูกฟ้องคดีดังกล่าว ปล่อยปละละเลย และใช้อำนาจอนุญาตให้มีเหมืองแร่สังกะสี ในบริเวณพื้นที่ต้นน้ำของชาวบ้าน จนทำให้เกิดการแพร่กระจายของสารแคดเมียมกระจายไปในพื้นที่นาข้าวของชาวบ้านใน 3 ตำบล คือ ตำบลแม่ตาว ตำบลแม่กุ และตำบลพระธาตุผาแดง ทำให้ผลผลิตนาข้าวของชาวบ้านปนเปื้อนด้วยสารแคดเมียม จนไม่สามารถทำนาได้ตามปกติ
กรณีดังกล่าวชาวบ้านทั้ง 3 ตำบลกว่า 800 คนได้ร่วมกันฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายและค่าสินไหมทดแทนเป็นเงินกว่า 3,000 ล้านบาทกับผู้ประกอบการเหมืองแร่ต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้ไว้แล้ว ส่วนในคดีปกครองได้มอบอำนาจให้สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ฟ้องร้องหน่วยงานภาครัฐที่ใช้อำนาจอนุมัติอนุญาตให้มีการประกอบการเหมืองแร่ในพื้นที่อนุรักษ์ดังกล่าว จนก่อให้เกิดผลกระทบเป็นวงกว้างต่อชาวบ้านจำนวนมาก ซึ่งในการอ่านคำพิพากษาในวันดังกล่าว ตัวแทนชาวบ้านจะเหมารถบัสมาฟังคำพิพากษากันเป็นจำนวนมาก เพราะเชื่อว่าศาลปกครองจะประสาทความยุติธรรมให้กับชาวบ้าน และนำไปสู่การดำเนินการแก้ไขและฟื้นฟูสภาพที่ดินและสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง เพื่อให้ชาวบ้านปลอดภัยและกลับมาใช้วิถีชีวิตได้ตามปกติต่อไป นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด