กสทช.เผยมีผู้ร้องเรียนว่า ซีรีส์ “ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น” อาจมีเนื้อหาขัดต่อมาตรา 37 แห่ง พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงฯ ในด้านความไม่เหมาะสมเชิงคุณธรรม และจริยธรรม
มติชนออนไลน์รายงานว่า พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ด้านกำกับผังและเนื้อหารายการ เปิดเผยว่า เมื่อไม่นานมานี้ ทางเครือข่ายเฝ้าระวังของอนุกรรมการ กสท.ด้านกำกับผังและเนื้อหารายการ ได้แย้งมายังคณะอนุกรรมการให้พิจารณาเนื้อหารายการของละครชุด “ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น” ที่ออกอากาศทางช่องจีเอ็มเอ็มวัน ของ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เนื่องจากละครเรื่องดังกล่าวอาจมีเนื้อหาขัดต่อมาตรา 37 แห่ง พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 ในด้านความไม่เหมาะสมเชิงคุณธรรม และจริยธรรม
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น ทางคณะอนุกรรมการได้ถอดเทปของละครผ่านช่องทางที่มีการเผยแพร่อินเทอร์เน็ต พบว่าละครเรื่องดังกล่าวได้มีการนำเสนอเนื้อหาที่ชวนให้ผู้รับชมคิดและจินตนาการในทางที่ไม่ดีได้ เช่น ฉากการมีเพศสัมพันธ์ทั้งที่ยังสวมชุดนักเรียนอยู่ ในสถานที่ห้องวิทยาศาสตร์ หรือห้องน้ำของโรงเรียน และฉากที่มีเด็กที่กำลังอยู่ในวัยเรียนไปยังคลินิกทำแท้งเถื่อน และไปซื้อยาคุมกำเนิดมาใช้เอง
“การนำเสนอของละครเรื่องฮอร์โมน แม้จะไม่ได้มีการถ่ายทำฉากต่างๆ ให้เห็นภาพโดยตรง เช่น ในเรื่องของเพศสัมพันธ์ แต่ก็สามารถชวนให้เราจินตนาการถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ อีกทั้งมีหลายเสียงบอกว่าเรื่องที่นำเสนอต่างเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในสังคมของเด็กสมัยนี้ แต่ในฐานะผู้ใหญ่ในสังคมจะต้องมาทบทวนว่าเรายอมรับได้หรือไม่ที่จะให้สังคมไทยเข้าใจว่าเป็นเช่นนั้นจริง และควรยอมรับให้เป็นเช่นนั้นหรือไม่ ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าการพิจารณาเรื่องที่ กสทช. ใช้อำนาจในครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องของการที่ กสทช. จะใช้อำนาจของตัวเอง แต่เป็นเรื่องของการบริหารควบคุมความเหมาะสมในสังคม”
พล.ท.พีระพงษ์กล่าวว่า ตามกำหนดเดิมได้มีการเชิญผู้ประกอบการที่ผลิตละครเรื่อง ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น ของทางแกรมมี่ มาพบในวันที่ 24 กรกฎาคม แต่ทางแกรมมี่แจ้งขอเลื่อนเวลาเข้าพบเป็นวันที่ 5 สิงหาคม โดยให้เหตุผลว่าช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาตรงกับวันหยุดยาวหลายวัน ซึ่งสำหรับประเด็นที่เชิญเข้าพบก็เพื่อหารือร่วมกันในด้านของกระบวนการการคิด การนำเสนอเนื้อหาของละคร ไปจนถึงกระบวนการคัดเลือกของช่องในการเลือกนำละครเรื่องดังกล่าวมาออกอากาศ พร้อมทั้งขอต้นฉบับของละครที่ได้ใช้ในการเผยแพร่จริงบนช่องจีเอ็มเอ็มวัน เพื่อการถอดเทปเนื่องจากเนื้อหาที่นำเสนออาจไม่ตรงกันกับในอินเทอร์เน็ต ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาของคณะอนุกรรมการเท่านั้น ยังไม่ได้เป็นการพิจารณาความผิดแต่อย่างใด ซึ่งท้ายสุดกระบวนการอาจจะจบเพียงให้แค่ตักเตือน ขอความร่วมมือในการปรับแก้เนื้อหาบางส่วน ไม่ต้องถึงขั้นลงโทษความผิดก็เป็นได้
มาตรา 37 ตาม พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 ระบุไว้ว่า ห้ามมิให้ออกอากาศรายการที่มีเนื้อหาสาระที่ก่อให้เกิดการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือมีการกระทำซึ่งเข้าลักษณะลามกอนาจาร หรือมีผลกระทบต่อการให้เกิดความเสื่อมทรามทางจิตใจหรือสุขภาพของประชาชนอย่างร้ายแรง