7 มิ.ย. 56 - ชมรมแพทย์ชนบทเปิดเผยว่าหลังจากการเจรจาเมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 56 ที่ผ่านมา นั้นถือว่าเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ในการขับเคลื่อนของภาคประชาชน และชมรมแพทย์ชนบทและเครือข่ายได้สรุปผลการเจรจาว่าไม่ใช่เป็นแค่ชัยชนะในเรื่อง P4P เท่านั้น แต่เราสามารถหยุดนโยบายที่ไม่เป็นธรรมในหลายเรื่อง เช่น หยุดการผลักดัน co-payment ให้ประชาชนร่วมจ่าย หยุดการทำลายหลัก purchaser-provider split โดยกลไก 12 เขตสุขภาพ และรัฐบาลยอมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการปลดผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรมอย่างไม่เป็นธรรม โดยเป็นคำสั่งที่ลงนามโดยนายกรัฐมนตรี
นายแพทย์อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช แกนนำชมรมแพทย์ชนบท ได้กล่าวต่อกรณีที่ รมต.ประดิษฐ และสารนิเทศ กระทรวงสาธารณสุข ออกมาให้ข่าวที่ไม่ตรงกับสาระการเจรจาโดยเฉพาะในประเด็นเบี้ยเลี้ยงเหม่จ่ายและ P4P ว่า “หัวใจอยู่ที่การนำสาระและข้อสรุปการเจรจาเข้าที่ประชุม ครม.ในวาระแจ้งเพื่อทราบอย่างช้าในวันอังคาร 11 มิถุนายนนี้ หากสาระบิดเบือนไม่ใช่อย่างที่ตกลงกัน เราก็พร้อมจะชุมนุมหน้าบ้านนายก และจะไม่มีการเจรจาอีก และเลขาธิการนายกรัฐมนตรี คุณสุรนันทน์ เวชชาชีวะ ต้องรับผิดชอบกับการบิดเบือนนี้เพราะเป็นผู้จัดการเจรจาและเป็นผู้ทำสรุปรายงานผลการเจรจา ผมจะเชื่อคุณสุรนันทน์อีกครั้ง กว่าจะถึงวันที่ 20 ที่นัดชุมนุมหน้าบ้านนายกปูนั้น ยังมีเวลาอีกตั้งเป็นสิบวัน เราเตรียมตัวทันอยู่แล้ว เพราะทุกคนพร้อมอยู่แล้วที่จะมาต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมที่หน้าบ้านนายก
นายแพทย์อารักษ์ ยังกล่าวเสริมว่า “รายงานการประชุมที่นำเข้าในการประชุม ครม.นั้น ไม่ได้มีแต่ผลการเจรจาเท่านั้น แต่รวมถึงเหตุผลที่ทำไมเครือข่ายและชมรมแพทย์ชนบทต้องขอเปลี่ยนตัว รมต.สาธารณสุขด้วย และจะมีการส่งต่อเอกสารชิ้นนี้แก่นายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป ” ซึ่งนายแพทย์อารักษ์ได้แถลงเหตุผลนี้ก่อนการเริ่มเจรจา เปรียยดังการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีประดิษฐนอกสภา โดยใช้ทำเนียบรัฐบาลเป็นที่แถลง
นายแพทย์วชิระ บถพิบูลย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมพวง จังหวัดนครราชสีมา แกนนำชมรมแพทย์ชนบท กล่าวว่า “ในระหว่างการขับเคลื่อนนโยบาย P4P ของกระทรวงสาธารณสุขนั้น รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.สุพรรณ ศรีธรรมา เป็นคนสำคัญที่จัดทำรายละเอียดนโยบาย P4P ที่ผิดพลาดไปเป็นการเก็บแต้มรายกิจกรรม จนเกิดความเสียหายมากมายต่อระบบในกระทรวงสาธารณสุข อีกทั้งยังแอบอ้างว่าการบรรจุพยาบาลสองหมื่นอัตราเป็นผลงานสำคัญของตนเอง ชอบให้ร้ายผู้อื่น เอาดีเข้าตัว จึงเป็นอีกคนที่แพทย์ชนบทเสนอให้ไล่ไปให้พ้นจากกระทรวงสาธารณสุข”
นายแพทย์วชิระ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ที่สำคัญ นพ.สุพรรณ ได้พูดชัดเจนจากการสัมมนาชี้แจงนโยบาย P4P ที่อุบลราชธานีและที่เชียงใหม่ว่า “พวกหมอที่ค้าน P4P มี 2 ทางเลือกคือ เลิกค้านเสียแล้วหันมาทำ P4P หรือหากไม่คิดจะทำตามนโยบายก็ให้ลาออกไป ” ประโยคนี้หลุดออกมาจากปากของรองปลัดสุพรรณ สะท้อนเป็นความในใจของผู้ใหญ่ในกระทรวงที่คงอยากพูดนานแล้ว แต่เก็บไว้จนทนไม่ไหวจากการเดินสายไปที่ไหนโรงพยาบาลชุมชนตามไปค้านทุกที่ สะท้อนถึงความบ้าอำนาจ ตาบอดมืดมัว ไม่เคยคิดย้อนกลับเลยว่า ทำไมนโยบายนี้ถึงมีการคัดค้านกันมามากถึงขนาดนี้ ดังนั้นชมรมแพทย์ชนบทจึงขอเรียกร้องต่อ นพ.สุพรรณ ที่ต้องรับผิดชอบต่อความแตกแยกที่เกิดขึ้นด้วยการลาออกจากรองปลัดกระทรวง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขต้องไม่ตั้งให้เป็นคนเช่นนี้เป็นใหญ่เป็นโตเป็นอันขาด”
ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai