พล.ท.ปรีชาจันทร์ โอชา ขึ้นแม่ทัพภาค 3 พล.ท.สกล ชื่นตระกูล เป็นแม่ทัพภาค 4 ด้านนายทหารในเหตุสลายชุมนุม 10 เมษา 53 ได้เลื่อนเป็นแม่ทัพน้อยที่ 1
เมื่อวานนี้ (26 มี.ค.) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา มีการเผยแพร่ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ให้นายทหารรับราชการ โดยมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารรับราชการสนองพระเดชพระคุณ จำนวนทั้งสิ้น 332 ตำแหน่ง โดยมีผลตั้งแต่ 1 เม.ย. เป็นต้นไป
สำหรับตำแหน่งโยกย้ายที่น่าสนใจ เช่น พล.ท.ปรีชา จันทร์โอชา แม่ทัพน้อยที่ 3 น้องชายของ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ผบ.ทบ. ขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 3 ขณะที่ พล.ท.ชาญชัยณรงค์ ธนารุณ แม่ทัพภาคที่ 3 ขึ้นเป็น ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก อัตรา พล.อ.
ด้าน พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 ขึ้นเป็นผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก อัตรา พล.อ. เช่นกัน และ พล.ท.สกล ชื่นตระกูล เลื่อนตำแหน่งเป็นแม่ทัพภาคที่ 4
ส่วน พล.ต.เฉลิมชัย สิทธิสาท รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ เป็นผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ พล.ต.สาธิต พิธรัตน์ รองแม่ทัพภาคที่ 3 เป็น แม่ทัพน้อยที่ 3 พล.ต.สมชาย ฤกษ์พิชัย ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เป็นผู้บัญชาการกองพลทหารปืนใหญ่ พล.ต.ราชรักษ์ เรียนพืชน์ เสนาธิการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ เป็นผู้บัญชาการศูนย์สงครามพิเศษ พล.ต.เครือนาค เกิดขำ ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกราชบุรี เป็นผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 15 โดยมี พล.ต.ชัยกร ประเสริฐสุข ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เป็นผู้บังคับการจังหวัดทหารบกราชบุรีแทน
ขณะที่ พล.ท.วลิต โรจนภักดี ผู้ช่วยเสนาธิการทหารบกฝ่ายส่งกําลังบํารุง ได้เลื่อนตำแหน่งเป็น แม่ทัพน้อยที่ 1 โดยก่อนหน้านี้ในช่วงสลายการชุมนุม 10 เม.ย. 53 ขณะนั้นมียศ พล.ต. และมีตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร.2 รอ.) ปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณ ถ.ดินสอ และได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิดในวันดังกล่าว