กฟผ.-กฟภ. รับเหตุการณ์ไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ในภาคใต้ เหตุสุดวิสัย ยันไม่ใช่ก่อวินาศกรรม วิปฝ่ายค้าน จี้ รบ.หามาตรการป้องกัน รมว.พลังงาน ตั้งกก.สอบ เห็นชอบขยายสายส่งปรับวิธีการสั่งการใหม่ วอนแยกออกจากการสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่ม
22 พ.ค.56 จากเหตุการณ์ไฟฟ้าดับวานนี้(21 พ.ค.)ในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ และอีกบางส่วนของจังหวัดเพชรบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นานประมาณ 1 ชั่วโมง ในระหว่างเวลา 18.55 น-20.00 น. นายวรพจน์ อินทร์ทอง ผู้อำนวยการปฏิบัติการภาคใต้ ศูนย์ควบคุมระบบกำลังไฟฟ้าภาคใต้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งเทศไทย (กฟผ.) ตำบลลำภูรา อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง กล่าวว่า ขณะนี้ศูนย์ควบคุมระบบกำลังไฟฟ้าภาคใต้ ได้จ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับประชาชน ใน 14 จังหวัดภาคใต้ทั้งหมดตามปกติแล้ว ส่วนสาเหตุเกิดมาจากการที่สายส่งขนาด 500 กิโลวัตต์ ที่อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เกิดขัดข้อง และยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพียงการขัดข้องของระบบสายส่งไฟฟ้าเท่านั้น ไม่ใช่การก่อวินาศกรรมแต่อย่างใด
ทั้งนี้ เมื่อเกิดเหตุได้ระดมเจ้าหน้าที่และวิศวกรไฟฟ้า จำนวนกว่า 30 คน เข้าแก้ไข และกู้ระบบไฟฟ้าให้กลับมาใช้ได้เหมือนเดิม ดังนั้น ทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ต้องขออภัยพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์ดังกล่าว เนื่องจากเหตุที่เกิดขึ้นนั้นถือเป็นการเกิดขึ้นครั้งแรก ส่วนเหตุของการที่สายส่งเกิดขัดข้องมาจากสาเหตุใดนั้น ยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่
ด้าน นายวัฒนา แพกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เขต 2 (ภาคใต้) กล่าวว่า ขณะนี้ได้ประสานงานกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคใน 14 จังหวัดภาคใต้ โดยขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าให้ออกไปช่วยเหลือประชาชนผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการเกิดไฟฟ้าดับ พร้อมเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ไฟฟ้าให้สามารถปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง หากได้รับแจ้งเหตุไฟฟ้าขัดข้อง
วิปฝ่ายค้าน จี้ รัฐบาลหามาตรการป้องกันไฟใต้ดับทั้งภาค
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า เรียกร้องให้รัฐบาลมีมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไฟดับในพื้นที่ใต้เหมือนกับที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมาซ้ำอีก เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวครั้งนี้ถือเป็นครั้งใหญ่ที่สุด โดยที่ไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า และส่งผลให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจนับหมื่นล้านบาท ทั้งนี้วิปฝ่ายค้านจะขอให้คณะกรรมาธิการการพลังงาน สภาผู้แทนราษฎรตรวจสอบเรื่องนี้เพื่อหาสาเหตุของไฟฟ้าดับต่อไป
รมว.พลังงาน ตั้งกก.สอบไฟดับ14จังหวัดใต้
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้เรียกประชุมผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง พร้อมแถลงข่าว ขณะนี้ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการแก้ไขจนสามารถจ่ายไฟได้เป็นปกติแล้ว ตั้งแต่เวลา 23.45 น.และได้มีการสั่งการให้ตั้งคณะทำงานเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป
"ยอมรับว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ ถือเป็นไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง และจะนำบทเรียนครั้งนี้มาศึกษาเพื่อหาแนวทางป้องกัน ทั้งในระยะสั้นและยาว"รมว.พลังงาน กล่าว และว่า สำหรับการแก้ไขสถานการณ์นั้น กฟผ.ได้เร่งการผลิตไฟฟ้าจากทุกโรงไฟฟ้าในภาคใต้อย่างเต็มกำลังการผลิต และเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าจากดีเซลที่ จ.สุราษฎร์ธานี และได้มีการซื้อไฟฟ้าจากมาเลเซีย
สาเหตุไฟดับเป็นวงกว้างนั้น จากการให้ กฟผ. ตรวจสอบข้อมูล พบว่าเกิดจากการขัดข้องของระบบสายส่งไฟฟ้าแรงสูง ที่จ่ายไฟฟ้าจากภาคกลางไปยังภาคใต้ ซึ่งเดิมสายส่งที่จ่ายไฟฟ้าไปยังภาคใต้มี4เส้น และได้ มีการปลดสายส่งออก1เส้น คือขนาด 500kv เพื่อซ่อมบำรุง ประกอบกับสายส่งเส้นที่2 ขนาด 200kv เกิดการชำรุดเนื่องจากฟ้าผ่า จึงจำเป็นต้องใช้สายส่งเส้นที่มีขนาดเล็ก ขนาด230kv จนทำให้เกิดเหตุสายส่งจ่ายไฟฟ้าเกินพิกัด ส่งผลให้สายส่งหลุดจากระบบ
เห็นชอบขยายสายส่ง
ที่ประชุมเห็นชอบให้ กฟผ.ไปดำเนินการขยายสายส่งไฟฟ้าให้เป็นขนาด 500 kV. ตลอดเส้นทางตั้งแต่บางสะพาน-หาดใหญ่ จากเดิมที่ใช้สายส่งขนาด 230 kV. เพื่อให้สามารถเพิ่มปริมาณการส่งไฟฟ้าได้มากขึ้น รวมทั้งขยายสายส่งไฟฟ้าจากขนอม-ภูเก็ต จากปัจจุบันที่ใช้สายส่งขนาด 115 kV. ให้เป็นขนาด 500 kV.ด้วยเช่นกัน เนื่องจากจังหวัดภูเก็ตมีปริมาณความต้องการใช้ไฟสูง เพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งธุรกิจ
ปรับวิธีการสั่งการใหม่ในศูนย์ควบคุมการสั่งจ่ายไฟฟ้า
พร้อมกันนี้ ยังเห็นควรให้มีการปรับวิธีการสั่งการใหม่ในศูนย์ควบคุมการสั่งจ่ายไฟฟ้า โดยต้องการให้มีการตั้งบุคคลที่สามารถมีอำนาจเบ็ดเสร็จในการสั่งการในสถานการณ์ที่ฉุกเฉินได้ ซึ่งปัจจุบันอำนาจดังกล่าวเป็นของคณะกรรมการกำกับกิจการไฟฟ้า(เรกูเลเตอร์) รวมทั้งมอบหมายให้นายณอคุณ สิทธิพงศ์ ปลัดกระทรวงพลังงาน ไปหารือกับ 3 การไฟฟ้าและเรกูเลเตอร์ เพื่อดูแลปัญหาไฟฟ้าตก-ไฟฟ้าดับเพื่อแก้ปัญหาภาพรวมในทั้งระบบด้วย
วอนแยกเรื่องไฟดับออกจากการสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่ม
อย่างไรก็ดี จากปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้น ทำให้มีผู้มองว่ามีความจำเป็นจะต้องเร่งก่อสร้างโรงไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้เพิ่มขึ้นเพื่อรองรับกับปริมาณความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นด้วยนั้น รมว.พลังงาน กล่าวว่า ขอให้แยกกรณีการสร้างโรงไฟฟ้านี้ออกจากเรื่องปัญหาไฟฟ้าดับใน 14 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งการสร้างโรงไฟฟ้านั้นรัฐบาลจะพิจารณาในทุกพื้นที่ และก่อนจะมีการก่อสร้างต้องได้รับการยอมรับจากประชาชนในพื้นที่ก่อน
"อยากจะให้แยกประเด็นเรื่องการสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ กับปัญหาที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ออกจากกัน โดยการพิจารณาสร้างโรงไฟฟ้าต้องพิจารณาในทุกพื้นที่อยู่แล้ว และต้องให้ประชาชนในพื้นที่ยอมรับ"นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว
ส่วนกรณีที่ไทยต้องซื้อไฟฟ้าจากมาเลเซียเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเมื่อวานนี้ถึงหน่วยละ 16 บาท คิดเป็นเงิน 12 ล้านบาทนั้น รมว.พลังงาน ยอมรับว่าค่อนข้างแพง แต่มีความจำเป็นที่ต้องยอมจ่าย พร้อมเห็นว่าในอนาคตพื้นที่กรุงเทพฯ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือก็จำเป็นต้องพิจารณาเรื่องขนาดของสายส่งไฟฟ้าเช่นกัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเช่นเดียวกับเหตุการณ์ไฟฟ้าดับใน 14 จังหวัดภาคใต้ขึ้นอีก
เรียบเรียงจาก โพสต์ทูเดย์ดอทคอม