'สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย'ออกแถลงการณ์หลังมีผู้บุกปาประทัดใส่ป้อมยามสำนักงานไทยรัฐเมื่อเช้ามืดวันนี้ วอนเคารพสิทธิสื่อ ชี้ไม่พอใจการทำงาน ฟ้องร้องได้ แต่อย่าใช้ความรุนแรง-คุกคาม เร่ง ตร.จับกุมคนร้าย
(11 พ.ค.56) กรณีที่มีบุคคลไม่ทราบฝ่าย จำนวน 4 คน บุกขว้างลูกเปตองและประทัดใส่ป้อมยาม บริเวณทางเข้า-ออก ประตู 3 สำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. เมื่อเวลาประมาณ 03.20 น.วันที่ 11 พฤษภาคม ที่ผ่านมา สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ผู้ที่ก่อเหตุ และผู้ที่เกี่ยวข้องต้องเคารพสิทธิเสรีภาพ และเข้าใจในการปฏิบัติหน้าที่สื่อมวลชน ที่ปฏิบัติหน้าที่เพื่อนำความจริงมาสู่สังคม พร้อมทั้งขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเคารพในความเห็นที่แตกต่างและหยุดใช้ความรุนแรงในทุกกรณี
นอกจากนี้ แถลงการณ์ระบุด้วยว่า ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ของสื่อเห็นว่าสื่อใช้สิทธิเกินขอบเขต สามารถฟ้องร้องได้ตามกฎหมาย หรือใช้กลไกควบคุมจริยธรรมขององค์กรสื่อผ่านสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ และสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย แต่ต้องไม่ใช้ความรุนแรง คุกคามสื่อ พร้อมทั้งเรียกร้องต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้เร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาลงโทษตามกฎหมายโดยเร็ว
--------------------------
แถลงการณ์สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
กรณีคนร้ายปาประทัดใส่ป้อมยาม สำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
จากกรณีที่มีบุคคลไม่ทราบฝ่าย จำนวน 4 คน บุกขว้างลูกเปตองและประทัดใส่ป้อมยาม บริเวณทางเข้า-ออก ประตู 3 สำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. เมื่อเวลาประมาณ 03.20 น.วันที่ 11 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย มีความเห็นว่า
1.เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการกระทำที่อุกอาจ ใช้ความรุนแรงเพื่อมุ่งข่มขู่ และการคุกคามสิทธิเสรีภาพในการปฏิบัติหน้าที่ขององค์กรสื่อมวลชน ด้วยพฤติกรรมและเจตนาของผู้ก่อเหตุแม้ว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐได้เข้าไปห้ามปรามแล้ว แต่ผู้ก่อเหตุยังไม่หยุดการกระทำ แสดงให้เห็นถึงความจงใจกระทำที่ไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง จึงขอเรียกร้องให้ผู้ที่ก่อเหตุ และผู้ที่เกี่ยวข้องต้องเคารพสิทธิเสรีภาพ และเข้าใจในการปฏิบัติหน้าที่สื่อมวลชน ที่ปฏิบัติหน้าที่เพื่อนำความจริงมาสู่สังคม พร้อมทั้งขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเคารพในความเห็นที่แตกต่างและหยุดใช้ความรุนแรงในทุกกรณี
2.การปฏิบัติหน้าที่สื่อมวลชน สามารถตรวจสอบได้ตามกลไกที่ชอบด้วยกฎหมาย หากผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการทำหน้าที่สื่อมวลชน กรณีเห็นว่าสื่อมวลชนใช้สิทธิเกินขอบเขต สามารถฟ้องร้องได้ตามกฎหมาย หรือใช้กลไกควบคุมจริยธรรมขององค์กรสื่อผ่านสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ และสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย แต่ต้องไม่ใช้ความรุนแรง คุกคามสื่อ
3.ขอเรียกร้องต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้เร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาลงโทษตามกฎหมายโดยเร็ว เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างในการข่มขู่คุกคามสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชน รวมทั้งขอให้แถลงผลความคืบหน้าคดีอย่างต่อเนื่องให้สาธารณชนทราบ เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยแก่ประชาชนและสังคมไทย
ทั้งนี้ในสถานการณ์ที่มีความขัดแย้ง แบ่งฝักแบ่งฝ่ายในสังคม การเมือง ที่ดำรงอยู่ ขอให้สื่อมวลชนทุกแขนงทำหน้าที่ยึดมั่นในกรอบจริยธรรมแห่งวิชาชีพ นำเสนอข่าวสารด้วยข้อมูล ข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง ด้วยข้อมูลที่รอบด้าน ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพื่อรักษาไว้ซึ่งประโยชน์สาธารณะ
สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนสื่อมวลชนหนังสือพิมพ์ไทยรัฐและสื่อมวลชนทุกแขนง ขอให้ทำหน้าที่อย่างเข้มแข็ง ซื่อสัตย์ในวิชาชีพ เพื่อประโยชน์และสิทธิในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชนต่อไป
สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
11 พฤษภาคม 2556