ผู้สนับสนุนพรรคฝ่ายค้านเรือนแสนชุมนุมที่สนามกีฬา ใกล้กัวลาลัมเปอร์ "หลิม กิต เสียง"ระบุการเลือกตั้งที่ไม่ชอบมาพากลมีผลต่อการแพ้ชนะของ ส.ส.ฝ่ายค้านไม่ต่ำกว่า 30 ที่นั่ง ขณะที่ตำรวจเล็งดำเนินคดีฐานปลุกระดมต่อผู้ปราศรัยเมื่อคืนนี้ 28 ราย
ภาพการชุมนุมของพรรคฝ่ายค้านมาเลเซีย เมื่อวันที่ 8 พ.ค. ที่สนามกีฬา Kelana Jaya รัฐสลังงอร์ ทางใต้ของกัวลาลัมเปอร์ (ที่มาของภาพ: DPP Malaysia) ขณะที่ KiniTV ระบุว่ามีผู้ชุมนุมประมาณหนึ่งแสนคน ผู้ชุมนุมจำนวนมากเข้าไปในสนามกีฬาไม่ได้ และเมื่อหลังการชุมนุมสิ้นสุดยังคงมีผู้ชุมนุมจำนวนมากเข้าไปในสนามกีฬาเพื่อขอสัมผัสบรรยากาศ ชมคลิปของ KiniTV ที่นี่
ภาพเมื่อวันที่ 6 พ.ค. 56 หลังการเลือกตั้ง 1 วัน ที่ป้ายรอรถแท็กซี่ หน้าสถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งหนึ่งในกัวลาลัมเปอร์ ถูกติดสติ๊กเกอร์รูปนาจิป ราซัก ผู้นำพรรครัฐบาล "แนวร่วมแห่งชาติ" (Barisan Nasional/BN) พื้นหลังเป็นสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นสีประจำพรรครัฐบาล พร้อมข้อความ "เราเชื่อมั่นใน นาจิป"ทั้งนี้แม้พรรครัฐบาลจะได้ ส.ส. รวมทั่วประเทศ 133 ที่นั่ง แต่พ่ายแพ้การเลือกตั้งให้กับพรรคฝ่ายค้าน "ภาคีประชาชน"ในหลายเมืองใหญ่ทั่วมาเลเซีย รวมทั้งกัวลาลัมเปอร์ และรัฐสลังงอร์ โดยเป็นการพ่ายแพ้ในเมืองหลวง 2 ครั้งติดต่อกันของพรรครัฐบาล (ที่มาของภาพ: ประชาไท)
ตามที่มาเลเซียจัดการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อ 5 พ.ค. โดยผลการเลือกตั้ง "แนวร่วมแห่งชาติ" (Barisan Nasional/BN) ยังคงชนะการเลือกตั้งโดยได้ที่นั่ง ส.ส. 133 ที่นั่ง ขณะที่พรรคฝ่ายค้าน "ภาคีประชาชน" (Pakatan Rakyat/PR) ได้ที่นั่งเพิ่มขึ้นอีก 7 ที่นั่ง เป็น 89 ที่นั่ง ท่ามกลางรายงานข่าวความไม่ชอบมาพากลของพรรครัฐบาลในช่วงจัดการเลือกตั้ง เช่น การซื้อเสียง การให้แรงงานต่างชาติสวมสิทธิเลือกตั้ง คะแนนผีจากการขนคนมาลงคะแนน ไฟดับระหว่างที่มีการนับคะแนนในบางหน่วยเลือกตั้งนั้น
ล่าสุดเมื่อค่ำวานนี้ (8 พ.ค.) ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน "ภาคีประชาชน" (Pakatan Rakyat - PR) ของมาเลเซีย อันวาร์ อิบราฮิม ได้นัดหมายผู้สนับสนุนชุมนุมที่สนามกีฬา Kelana Jaya รัฐสลังงอร์ ทางใต้ของกัวลาลัมเปอร์ เพื่อประณามการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ 13 เมื่อ 5 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งพวกเขาเห็นว่าเป็นการปล้นชัยชนะโดยพรรครัฐบาล "แนวร่วมแห่งชาติ" (Barisan Nasional - BN) ที่ปกครองประเทศมานับตั้งแต่ได้รับเอกราชในปี พ.ศ. 2510 ทั้งนี้ในการชุมนุมเมื่อคืนนี้ มีผู้ร่วมชุมนุมจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่สวมเสื้อสีดำเพื่อเป็นการประท้วงการจัดเลือกตั้งที่พวกเขาเห็นว่าไม่เสรีและยุติธรรม
ทั้งนี้อันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำของพรรคฝ่ายค้านจะกล่าวปราศรัยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสภาพการจราจรรอบสนามกีฬา Kelana Jaya ติดขัดเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร เนื่องจากมีผู้สนับสนุนจำนวนมากเดินทางยังสนามกีฬาดังกล่าว ทำให้อันวาร์ รวมทั้งผู้นำพรรคฝ่ายค้านคนอื่นๆ อย่าง หลิม กิต เสียง นักการเมืองอาวุโสจากพรรค ต้องนั่งรถมอเตอร์ไซค์เดินทางเข้ามายังสนามกีฬาแทน
โดยหนังสือพิมพ์ออนไลน์ มาเลเซียกินีรายงานการปราศรัยของอันวาร์ อิบราฮิม ซึ่งประกาศว่าประชาชนของมาเลเซีย ทั้งชาวมลายู จีน อินเดีย กันดาซาน หรือดายัค ต่างต้องการการเลือกตั้งที่เสรีและยุติธรรม เขากล่าวด้วยว่าชาวมาเลเซียไม่ว่าจะเป็นคนเชื้อชาติอะไรต่างต้องการสิทธิของพวกเขาคืน และต้องการให้พรรครัฐบาลพ่ายแพ้
ต่อมาหลิม กิต เสียง ส.ส. พรรคกิจประชาธิปไตย "DAP"ได้ปราศรัยโดยกล่าวเชิญชวนชาวมาเลเซียทุกคน ไม่ว่าจะสนับสนุนแนวร่วมฝ่ายค้านหรือไม่ ขอให้มาทำให้ประเทศและประชาชนเข้มแข็งยิ่งขึ้น และว่าถึงเวลาแล้วที่จะเปลี่ยนความมุ่งมั่นนี้ ไปสู่การทำงานหนักเพื่อขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า
เขากล่าวด้วยว่า การเลือกตั้งที่ไม่ชอบมาพากลมีผลต่อการแพ้ชนะการเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 30 เขตเลือกตั้ง และผลกระทบของความไม่ชอบมาพากลที่มากกว่า 21 เขต ก็มีผลต่อการแพ้ชนะการเลือกตั้งระดับชาติของพรรคฝ่ายค้าน รวมทั้งการเลือกตั้งระดับรัฐบาลท้องถิ่นในรัฐเประ และรัฐตรังกานู
หลิม กิต เสียง กล่าวด้วยว่า จะร่วมมือกับพันธมิตรฝ่ายค้าน "ภาคีประชาชน" (PR) เพื่อหาหลักฐานการทุจริตการเลือกตั้ง เขาเชื่อว่าถ้าการเลือกตั้งมาเลเซียเป็นไปอย่างยุติธรรม พรรคของพวกเขาน่าจะเข้าไปทำงานที่เมืองหลวงปุตราจายาแล้ว รวมทั้งรัฐบาลท้องถิ่นในหลายรัฐทั่วประเทศ ซึ่งเรื่องนี้คนมาเลเซียรู้ดี และพรรค "แนวร่วมแห่งชาติ" (BN) ก็รู้ดี
เขาย้ำด้วยว่า ชัยชนะการเลือกตั้งของรัฐบาลที่ได้มาด้วยเงิน คำเท็จ และการปลุกปั่น ไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นชัยชนะ
ขณะเดียวกัน อันวาร์ อิบราฮิม ยังได้ประกาศว่าจะเดินหน้าเปิดโปงการโกงเลือกตั้งต่อไป และจะทวงคืน "ปุตราจายา"กลับมา นอกจากนี้เขากล่าวด้วยว่าจัดนัดหมายชุมนุมอีกที่เกาะปีนัง ในวันเสาร์นี้ (11 พ.ค.) และกำลังพิจารณาจัดชุมนุมในวันศุกร์ (10 พ.ค.) ที่อิโป รัฐเประ
โดยหลังการชุมนุมเมื่อเวลาประมาณ 24.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น อันวาร์ อิบราฮิม ได้โพสต์สเตตัสขอบคุณผู้สนับสนุน และกล่าวในทำนองว่าพวกเขาได้ให้กำลังใจแก่ตัวเขา และความเปลี่ยนแปลงจะอยู่กับพวกเรา โดยอันวาร์โพสต์ว่า "Thank you All for coming and watching! You give me HOPE. Change is upon us."
เกิดเหตุฆาตกรรมทีมงานพรรคฝ่ายค้าน - ตำรวจเล็งเอาผิดผู้ปราศรัยเมื่อคืนวาน
ขณะเดียวกันเมื่อวันที่ 8 พ.ค. มีรายงานข่าวจากมาเลเซียกินีว่า เค. มุรุกัน อายุ 36 ปี ผู้ช่วยรักษาความปลอดภัยประจำตัวของวะสันธะ กุมาร์ ผู้สมัคร ส.ส. พรรคฝ่ายค้าน ถูกฆาตกรรมโดยนำศพไปทิ้งที่สระน้ำที่บาตู กาจา (Batu Gajah) รัฐเประ ทั้งนี้ เค. มุรุกัน หายสาบสูญตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. ก่อนที่จะพบเป็นศพดังกล่าว
และข่าวล่าสุดจาก มาเลเซียกินีนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมเรียกผู้ปราศรัย 28 คนจาก 33 คนเข้าสอบปากคำ ในความผิดตามกฎหมายการปลุกระดมยุยง (the Sedition Act)
สำหรับการชุมนุมเมื่อ 8 พ.ค. นั้น นอกจากการชุมนุมในประเทศแล้ว ชาวมาเลเซียที่อาศัยในต่างประเทศเช่นออสเตรเลีย และไต้หวัน ก็ได้นัดชุมนุมเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ชาวมาเลเซียซึ่งอาศัยอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านใกล้ชิดอย่างสิงคโปร์ ได้ออกมานัดชุมนุมเช่นกันใกล้กับน้ำพุเมอร์ไลออน โดยภาพการชุมนุมดังกล่าวเผยแพร่อยู่ในเฟซบุคเพจของหนังสือพิมพ์สเตรทไทม์อย่างไรก็ตาม ความเห็นที่ระบุท้ายภาพ นอกจากเสียงสนับสนุนแล้ว ยังมีชาวสิงคโปร์โพสต์แสดงความไม่เห็นด้วยและตั้งถาม เช่น ถามหาใบอนุญาตจัดการชุมนุม เพราะตามกฎหมายสิงคโปร์การจัดชุมนุมต้องขออนุญาต หรือถามว่าทำไมจึงไม่ประท้วงในมาเลเซีย หรือทำไมเจ้าหน้าที่ตำรวจสิงคโปร์ไม่จับ ฯลฯ
อนึ่ง ผลการเลือกตั้ง "แนวร่วมแห่งชาติ" (Barisan Nasional/BN) ได้ที่นั่ง ส.ส. 133 ที่นั่ง ขณะที่พรรคฝ่ายค้าน "ภาคีประชาชน" (Pakatan Rakyat/PR) แม้จะแพ้การเลือกตั้งแต่ได้ที่นั่งเพิ่มขึ้น 7 ที่นั่ง เป็น 89 ที่นั่ง ขณะที่เมื่อพิจารณาคะแนนรวมแบบไม่เป็นทางการ พบว่ามีผู้ลงคะแนนให้พรรคฝ่ายค้านรวม 5.62 ล้านคะแนน หรือร้อยละ 47.38 และผู้ลงคะแนนให้พรรครัฐบาล 5.23 ล้านคะแนน หรือร้อยละ 50.87 ล้านคะแนน ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ตั้งประเทศมาเลเซียในปี พ.ศ. 2510 ที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้พรรคฝ่ายค้านมากกว่าลงคะแนนให้กับพรรครัฐบาล อย่างไรก็ตามแม้ฝ่ายค้านจะได้คะแนนรวมมากกว่า แต่จะไม่มีผลอะไรสำหรับการตั้งรัฐบาล เพราะระบบการเลือกตั้งมาเลเซียเป็นแบบแบ่งเขต