ครอบครัวเจมส์ โฟลีย์ ผู้ถูกกลุ่มติดอาวุธไอซิสจับเป็นตัวประกันและสังหารเผยแพร่ผ่านวิดีโอ ตั้งกองทุนเพื่อเป็นเกียรติแก่ลูกและเพื่อช่วยเหลือนักข่าวรวมถึงญาติของผู้ที่ถูกจับเป็นตัวประกัน ขณะเดียวกันก็ยังมีข้อถกเถียงเรื่องควรให้เงินประกันเพื่อไถ่ตัวประกันจากกลุ่มก่อการร้ายหรือไม่
20 ก.ย. 2557 ครอบครัวของเจมส์ โฟลีย์ นักข่าวชาวอเมริกันที่ถูกกลุ่มติดอาวุธไอซิสจับเป็นตัวประกันและสังหารโหดเผยแพร่ผ่านวิดีโอตั้งกองทุนเพื่อส่งเสริมนักข่าวชาวอเมริกันที่ทำงานในพื้นที่เสี่ยงภัย ให้ความช่วยเหลือครอบครัวชาวอเมริกันที่มีญาติถูกจับเป็นตัวประกัน และส่งเสริมโอกาสการศึกษาของวัยรุ่นในเมือง
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (19 ก.ย.) จอห์น และไดแอน โฟลีย์ พ่อและแม่ของเจมส์ประกาศก่อตั้งกองทุนเจมส์ ดับเบิลยู โฟลีย์ "เพื่อส่งเสริมความใฝ่ฝันและอุดมคติของคนยุคอนาคต"
หลังข่าวการสังหารโฟลีย์โด่งดังไปทั่วโลกครอบครัวโฟลีย์ซึ่งอาศัยในเขตนิวอิงแลนด์ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ ก็กลายเป็นที่สนใจของสาธารณชนและได้ร่วมถกเถียงว่าจะจัดการกับปัญหาการลักพาตัวและเรียกค่าไถ่โดยกลุ่มติดอาวุธไอซิสอย่างไร
ก่อนหน้านี้เมื่อ 2 ปีที่แล้ว เจมส์ โฟลีย์ ถูกจับตัวไปขณะกำลังทำข่าวความขัดแย้งอยู่ในซีเรีย ในช่วงเวลานั้นเขาถูกทุบตีและทารุณกรรมจนกระทั่งถูกสังหารโดยกลุ่มไอซิสในที่สุด แต่กองทุนของโฟลีย์ซึ่งถูกตั้งขึ้นเพื่อให้ความช่วยเหลือครอบครัวที่ต้องทนทุกข์กับการที่ญาติถูกจับเป็นตัวประกัน ก็ทำให้นักข่าวผู้กล้าคนนี้เสมือนได้รับการเชิดชูเกียรติ
ครอบครัวโฟลีย์แถลงข่าวว่า "เป้าหมายอย่างแรกของกองทุนคือการสร้างศูนย์ทรัพยากรเพื่อช่วยเหลือครอบครัวของตัวประกันชาวอเมริกันในขณะที่พวกเขาต่อสู้เพื่อให้บุคคลอันเป็นที่รักของตนได้กลับบ้าน"
นี่เป็นประเด็นที่ครอบครัวโฟลีย์มีความรู้สึกร่วมอย่างลึกซึ้งกับครอบครัวที่ถูกกลุ่มไอซิส รวมถึงกลุ่มก่อการร้ายหรือกลุ่มอาชญากรอื่นๆ จับเป็นตัวประกัน
กองทุนของเจมส์ โฟลีย์ ไม่เพียงแค่ต้องการช่วยเหลือญาติของผู้ถูกลักพาตัวเท่านั้น แต่ยังต้องการให้เกียรติสิ่งที่โฟลีย์เคยทำไว้เช่นการเป็นครูสอนผู้ด้อยโอกาส
ข้อถกเถียงเรื่องเงินประกันตัว
ก่อนหน้านี้ครอบครัวโฟลีย์กล่าวให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อหลายสำนักโดยได้พูดถึงความไม่พอใจเรื่องที่ทางการสหรัฐฯ ไม่ได้ให้ความช่วยเหลือมากนักในการสืบสวนเพื่อปลดปล่อยตัวประกัน ทำให้พวกเขามีความรู้สึกโกรธแค้นและเศร้าเสียใจมาเป็นเวลาหลายเดือน ซึ่งครอบครัวอื่นๆ ที่มีญาติถูกจับเป็นตัวประกันก็แสดงความผิดหวังและไม่พอใจความไร้สมรรถภาพของการต่างประเทศสหรัฐฯ และทำเนียบขาวในการจัดการปัญหาตัวประกันเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ประเทศอย่างสหรัฐฯ และอังกฤษอ้างว่าพวกเขาหรือครอบครัวของตัวประกันไม่สามารถจ่ายเงินให้กับกลุ่มไอซิสเป็นค่าไถ่เพื่อให้ปล่อยตัวประกันได้เนื่องจากเป็นเรื่องผิดกฎหมายในประเทศของพวกเขา ซึ่งกฎหมายทำนองนี้มีขึ้นเพราะไม่ต้องการแสดงการสนับสนุนให้มีการลักพาตัวเพิ่มขึ้น สำนักข่าวบางสำนักเช่นโกลบอลโพสต์ บีบีซี และสำนักข่าวใหญ่ๆ ก็มีนโยบายไม่จ่ายเงินค่าไถ่ แต่จะติดต่อกับทางการให้ช่วยดำเนินการเรื่องตัวประกัน
แม้กฎหมายในสหรัฐฯ จะห้าม แต่ในประเทศยุโรปบางประเทศเช่นฝรั่งเศสและสเปนก็มีการพยายามรวบรวมเงินเพื่อช่วยเหลือตัวประกัน ซึ่งไดแอนก็พยายามทำอย่างเดียวกัน
นอกจากนี้ยังมีพนักงานสืบสวนเอกชนที่ไม่ประสงค์ออกนามผู้หนึ่งวิพากษ์วิจารณ์การนำมาปฏิบัติอย่างสับสนและไม่คงที่ในกรณีนโยบายตัวประกัน เช่นกรณีหนึ่งที่พวกเขาปล่อยตัวนักโทษตอลีบาน 5 คน จากคุกกวนตานาโมเพื่อแลกกับการปล่อยตัวทหารยศสิบโทรายหนึ่ง
พนักงานสืบสวนเอกชนกล่าวอีกว่าครอบครัวผู้ถูกลักพาตัวควรมีสิทธิที่จะจ่ายค่าไถ่เพื่อแลกกับอิสรภาพของคนในครอบครัวพวกเขา ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นความรู้สึกปกติของมนุษย์ต่อคนที่ตัวเองรัก
อลัน เดอโชวิตซ์ ศาตราจารย์ด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับกลุ่มก่อการร้ายกล่าวว่าเรื่องที่พ่อแม่ต้องการจะช่วยชีวิตลูกตัวเองเป็นเรื่องปกติและพวกเขาควรจะมีสิทธิช่วยเหลือ ซึ่งทางการอาจจะจ่ายค่าไถ่แต่ในอีกทางหนึ่งก็คิดถึงการทำลายกลุ่มก่อการร้ายไปด้วยได้
เดวิด โรห์ด นักข่าวรางวัลพูลิตเซอร์ที่เคยถูกจับโดยกลุ่มตอลีบานและสามารถแอบหลบหนีออกมาได้เขียนบทความเรียกร้องให้เรื่องการถกเถียงเรื่องเงินค่าไถ่ของคนที่ถูกจับโดยคนต่างชาติกลายเป็นเรื่องที่ยกมาพูดในที่สาธารณะได้โดยไม่มีการปกปิด อีกทั้งยังได้เรียกร้องให้ชาติตะวันตกมีการโต้ตอบการลักพาตัวอย่างคงเส้นคงวามากกว่านี้ ความไม่คงเส้นคงวาของพวกเขาทำให้เสี่ยงต่อความผิดพลาด
เรียบเรียงจาก
Foley family honors son with new nonprofit, Globalpost, 16-09-2014
http://www.globalpost.com/dispatches/globalpost-blogs/groundtruth/foley-family-honors-son-legacy-fund