26 ส.ค.2557 ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือพีมูฟ ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ปล่อยตัวสมาชิกเครือข่าย ‘ขาหุ้นปฏิรูปพลังงาน’ จำนวน 8 คน ซึ่งถูกจับกุมระหว่างเดินรณรงค์เรียกร้องให้มีการปฏิรูปพลังงานในกรุงเทพฯ ระหว่างสวนจตุจักรและอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ช่วงบ่ายของวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา
ในแถลงการณ์ระบุข้อเรียกร้อง 4 ข้อ ได้แก่ 1) ปล่อยตัวสมาชิกเครือข่ายขาหุ้นโดยเร็วและไม่มีเงื่อนไข 2) เปิดให้มีการถกเถียง แลกเปลี่ยน อย่างเป็นทางการระหว่างเครือข่ายขาหุ้นกับตัวแทน ปตท. 3) คสช. ต้องอำนวยความสะดวก ตามสมควร แก่การเท้าเดินรณรงค์ของเครือข่ายขาหุ้น และ 4) ขปส.ขอสนับสนุนกิจกรรมการเดินเท้ารณรงค์ของเครือข่ายขาหุ้น
ในแถลงการณ์กล่าวว่า “การเดินเท้าของเครือข่ายขาหุ้นเพื่อการปฏิรูปพลังงานในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นอันตรายหรือก่อให้เกิดภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศได้เลย ดังนั้น คสช. ไม่ควรมีเหตุผล หรือการอ้างความชอบธรรมใด ในการใช้กฎหมายเพื่อจับกุม หรือกระทำการคุกคามแก่เครือข่ายขาหุ้น การปล่อยตัวสมาชิกเครือข่ายขาหุ้นในทันที อันเป็นการคืนสิทธิ์ขั้นพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดในขณะนี้”
ขปส.ระบุในแถลงการณ์ด้วยว่า กฎอัยการศึก หรือมาตรการฉุกเฉินใดใด ควรคำนึงถึงสิทธิ์ขั้นพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ และพันธสัญญาด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ ตามกฎหมายระหว่างประเทศที่ประเทศไทยเป็นภาคีอยู่ด้วย
ทั้งนี้ ผู้ที่ถูกควบคุมตัวทั้ง 8 คนประกอบด้วย 1. นายวีระ สมความคิด 2. นายอิฐบูรณ์ อ้นวงษา 3. น.ส.บุญยืน ศิริธรรม 4. น.ส.ดาลิน สิริสุวรรณกิจ 5. น.ส.ภาณี ถิรังกูร 6. น.ส.จงกลนีย์ หล่อพานิช 7. นางอาภรณ์ ถิ่นวัฒนากูล และ 8. น.ส.นวพร มัชฌเวทย์ ถูกคุมตัวในข้อหาฝ่าฝืนประกาศกฎอัยการศึก และคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ที่ห้ามชุมนุมเกิน 5 คน
รายละเอียดของแถลงการณ์ ดังนี้
แถลงการณ์ฉบับที่ 2
คืนสิทธิ์ขั้นพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ ปล่อยตัวเครือข่าย “ขาหุ้น” โดยไม่มีเงื่อนไข
................................
ตามที่เครือข่าย “ขาหุ้น” ได้เดินเท้าจากจังหวัดสงขลาตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม 2557 เพื่อทำการรณรงค์ให้ข้อมูล เกี่ยวกับพลังงานต่อสังคม โดยเครือข่ายขาหุ้นมีเจตนาเพื่อกระตุ้นให้สังคมเกิดการตระหนักเรื่องพลังงาน อันจะนำไปสู่การปฏิรูปพลังงานที่มีอยู่ในแผ่นดินไทย ให้มีประโยชน์แก่ประชาชนโดยรวมและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย
การเดินเท้ารณรงค์ที่ดำเนินการอย่าง สงบ สันติ อหิงสา อันเป็นวิธีการสำคัญของกระบวนการสัตยาเคราะห์ ที่อารยะประเทศในสังคมโลกให้การยอมรับ แต่การเดินของพี่น้องเครือข่าย “ขาหุ้น” กลับถูกจับกุมและจำกัดเสรีภาพ ด้วยเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ ทั้งที่จังหวัดสงขลา (ปล่อยตัวแล้ว) และใน กทม. (อยู่ระหว่างควบคุมตัว)
ต่อสถานการณ์ดังกล่าวขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) เห็นว่า แม้ประเทศไทยจะอยู่ในสภาพการบังคับใช้ กฎอัยการศึก ที่มีบทบัญญัติไม่ให้มีการชุมนุมกันเกิน 5 คน นั้น ก็จำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ใช้กฎหมาย จะต้องใช้อย่างมีขอบเขต และชอบธรรม การจับกุมคุมขังสมาชิกเครือข่ายขาหุ้น แม้จะถูกต้องตามบทบัญญัติของกฎหมาย แต่ก็ไร้ซึ่งความชอบธรรมอย่างยิ่ง ที่สำคัญเจตจำนงในการเดินรณรงค์ครั้งนี้ ก็เพื่อมุ่งหวังที่จะปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติโดยรวม ซึ่ง คสช. ควรอย่างยิ่งที่จะรับฟังความจริงจากพวกเขา
ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) ซึ่งเป็นเครือข่ายภาคประชาชน และเป็นหุ้นส่วนหนึ่งของสังคมไทย พวกเราขอเรียกร้อง ดังนี้
1) ให้ คสช. ปล่อยตัวสมาชิกเครือข่ายขาหุ้น โดยเร็ว และไม่มีเงื่อนไขใดใด
2) ให้ คสช. เปิดให้มีการถกเถียง แลกเปลี่ยน อย่างเป็นทางการระหว่าง เครือข่ายขาหุ้น กับ ตัวแทน ปตท.
3) คสช. ต้องอำนวยความสะดวก ตามสมควร แก่การเท้าเดินรณรงค์ของเครือข่ายขาหุ้น ด้วยการใช้หลักคุณธรรมนำกฎหมาย
4) พวกเราขอสนับสนุนการเดินเท้ารณรงค์ของเครือข่ายขาหุ้น ในครั้งนี้
อย่างไรก็ตามขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) ยืนยันว่า กฎอัยการศึก หรือมาตรการฉุกเฉินใดใด ควรคำนึงถึงสิทธิ์ขั้นพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ และพันธสัญญาด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ ตามกฎหมายระหว่างประเทศที่ประเทศไทยเป็นภาคีอยู่ด้วยนั้น
ที่สำคัญการเดินเท้าของเครือข่ายขาหุ้นเพื่อการปฏิรูปพลังงานในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นอันตรายหรือก่อให้เกิดภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศได้เลย ดังนั้น คสช. ไม่ควรมีเหตุผล หรือการอ้างความชอบธรรมใด ในการใช้กฎหมายเพื่อจับกุม หรือกระทำการคุกคามแก่เครือข่ายขาหุ้น การปล่อยตัวสมาชิกเครือข่ายขาหุ้นในทันที อันเป็นการคืนสิทธิ์ขั้นพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด ในขณะนี้
ด้วยความเชื่อมั่นในพลังประชาชน
ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.)
26 สิงหาคม 2557