8 ส.ค.2557 รายงานข่าวแจ้งว่าศาลอุทธรณ์มีคำสั่งไม่ให้ประกันตัว นายอัครเดช (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาในคดี 112 และพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 โดยระบุเหตุผลว่า พิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหาประกอบบันทึกการจับกุมผู้ต้องหาแล้ว ผู้ต้องหารับว่าเป็นเจ้าของเฟซบุ๊คและเป็นผู้โพสต์ข้อความที่ถูกกล่าวหาลงในเฟซบุ๊คจริง พฤติการณ์ของผู้ต้องหานับว่าร้ายแรง ที่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวในระหว่างการสอบสวนชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง”
อัครเดช อายุ 24 ปี เป็นนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร กำลังจะขึ้นชั้นปีที่ 4 โดยวันที่ 18 มิ.ย.57 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สุทธิสารกว่า 10 นาย นำหมายจับไปจับกุมตัวเขาจากบ้านพักในเขตหนองจอก พร้อมทั้งยึดโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะเป็นของกลาง ก่อนนำตัวมาสอบสวนที่สน.สุทธิสาร จากนั้นในวันที่ 20 มิ.ย.ตำรวจได้นำตัวไปฝากขังที่ศาล อัครเดชถูกควบคุมตัวที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ จนถึงปัจจุบันรวมแล้ว 49 วัน ขณะที่ครอบครัวยื่นคำร้องขอประกันตัวทั้งสิ้น 5 ครั้งโดยใช้เงินสด 150,000 – 200,000 บาทแต่ศาลไม่อนุญาต
เขาถูกกล่าวหาว่า เป็นผู้ใช้นามแฝง “น้าดมก็รักในหลวงนะ” โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก 1 ข้อความในวันที่ 15 มี.ค.57 จากนั้นในช่วงปลายเดือนมีนาคมมีผู้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษเขากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สุทธิสารพร้อมนำหลักฐานเชื่อมโยงมายังตัวอัครเดชมาให้เจ้าหน้าที่ด้วย เขาถูกแจ้งข้อกล่าวหาตามมาตรา 112 ของประมวลกฎหมายอาญา และมาตรา 14 (1) , (2) , (3) , (4) , (5) ของ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ
ทั้งนี้ ในการยื่นขอประกันตัวครั้งหนึ่งในวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา ศาลไม่อนุญาตโดยให้เหตุผลว่า "พิเคราะห์คำร้องขอฝากขังประกอบพยานหลักฐานชั้นที่ศาลมีคำออกหมายผู้ต้องหาแล้วเห็นว่า การกระทำของผู้ต้องหา ก่อให้เกิดการแพร่หลายซึ่งข้อความที่กระทบต่อความรู้สึกของประชาชน ทั้งตามคำร้องประกอบขอปล่อยตัวชั่วคราวระบุว่า ผู้ต้องหามีอายุ 24 ปี ศึกษาในระดับอุดมศึกษาปีที่ 3 นับว่ามีวุฒิภาวะแล้ว พฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดจึงถือว่ามีความร้ายแรง หากได้รับการปล่อยชั่วคราว ผู้ต้องหาอาจหลบหนีหรือก่อเหตุความเสียหายประการอื่น จึงไม่อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ยกคำร้อง”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการอุทธรณ์คำสั่งไม่ให้ประกันตัวของศาลชั้นต้นในครั้งนี้ ทนายจำเลยได้ระบุในคำร้องเกี่ยวกับสิทธิการประกันตัวและการเป็นผู้บริสุทธิ์ก่อนจะถูกพิพากษา นอกจากนี้ยังระบุเหตุผลด้านการศึกษาด้วยว่า ในการยื่นคำร้องครั้งที่ 1-3 ผู้ต้องหายังอยู่ระหว่างปิดภาคเรียนการศึกษา แต่ปัจจุบันนี้ผู้ต้องหากำลังขึ้นชั้นปีที่ 4 และจะเปิดเรียนในวันที่ 9 สิงหาคม นี้ หากไม่เข้าเรียนต่อเนื่องจะไม่มีสิทธิสอบไล่ อีกทั้งพนักงานสอบสวนได้ยึดของกลาง หลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องไปหมดแล้วจึงไม่มีกระบวนการสอบสวนผู้ต้องหาอีกต่อไป
ด้านนายสุรพล (สงวนนามสกุล) พ่อของผู้ต้องหากล่าวว่า ที่ผ่านมาพยายามยื่นประกันตัวเพราะคิดว่าเป็นสิทธิของผู้ต้องหาทุกคน และยังไม่เข้าใจว่าทำไมคดี 112 ผู้ต้องหาจึงมักไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัว
“กำลังใจเขายังดีอยู่และเชื่อมั่นว่าไม่ได้กระทำผิด เขาทะเลาะกับคนในเฟซบุ๊กที่มีความคิดทางการเมืองไม่ตรงกัน และโพสต์ข้อความตั้งคำถามไป ไม่ได้ใช้คำหยาบคายดูหมิ่นแต่อย่างใดเพียงแต่มีการพาดพิง อันเนื่องมาจากบทสนทนาทางการเมือง ต่อจากนี้ก็ต้องทำใจ ทำได้แค่หมั่นไปเยี่ยมเขาบ่อยๆ” สุรพลกล่าว
อ่านรายละเอียดคดี http://freedom.ilaw.or.th/case/577#detail