นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลังและกรรมการบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ระบุว่า ความคืบหน้าการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวในโครงการรับจำนำข้าวในหลายโกดังช่วงที่ผ่านมา พบว่า มีข้าวไม่ได้คุณภาพเป็นจำนวนมากจนไม่สามารถบริโภคได้ประมาณ 100,000 ตัน จึงต้องบริหารจัดการเพื่อแปรสภาพข้าวดังกล่าว ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการผลิตอาหารสัตว์และเอทานอลได้
“การขายข้าวให้กับ ปตท.นั้นดำเนินการได้เลย เพราะข้าวที่เสื่อสภาพ ก็มาใช้บริโภคไม่ได้ จะได้ไม่ต้องเสียค่าเช่าโกดัง ค่ารักษา โดยใช่เหตุ ซึ่งผมเป็นบอร์ด ปตท.สามารถหารือเรื่องนี้ในที่ประชุมได้ทุกเดือนอยู่แล้ว”
นายรังสรรค์ กล่าวด้วยว่า เบื้องต้นกระทรวงการคลังได้เจรจากับ บมจ.ปตท. เพื่อนำข้าวขาดคุณภาพ 100,000 ตัน ใช้ผลิตเป็นเอทานอล จึงต้องเร่งเจรจาหาข้อสรุปรายละเอียดร่วมกัน เช่น ราคาซื้อขายเอทานอล ปริมาณข้าว โดยต้องรอให้คณะอนุกรรมการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพ ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจโกดังข้าว 1800 แห่ง คาดว่าจะเสร็จภายในสิงหาคมนี้ จากนั้นต้องเสนอคณะกรรมการบริหารนโยบายข้าวพิจารณา หากขายได้ในราคาร้อยละ 20 ของราคารับจำนำ ถือว่าเป็นราคาที่น่าพอใจ
อย่างไรก็ตาม แนวคิดดังกล่าว จะต้องรอให้กระบวนการตรวจสอบของชุดปฏิบัติการตรวจสอบฯ แล้วเสร็จ เพื่อให้ทราบปริมาณและคุณภาพข้าวที่แน่ชัดว่าจะมีข้าวเสียและข้าวดีในปริมาณมากน้อยเพียงใด จากนั้นคณะอนุกรรมการปิดบัญชี จึงจะคำนวณค่าใช้จ่ายและงบประมาณดำเนินโครงการที่ชัดเจนได้ทั้งหมด
เรียบเรียงจาก สำนักข่าวไทย, สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์, เดลินิวส์