"ปราโบโว"อดีตนายทหารซึ่งผันตัวลงชิงประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ขู่ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งที่ "โจโกวี"มีแนวโน้มเป็นผู้ชนะ โดยเรียกร้องให้ กกต. นับคะแนนใหม่ - ส่วนประธานาธิบดีที่กำลังหมดวาระระบุว่าการเลือกตั้งเป็นไปอย่างมีสันติและประชาธิปไตย
ปราโบโว สุเบียนโต ผู้สมัครจากพรรค Gerindra (ที่มา: วิกีพีเดีย)
21 ก.ค. 2557 - วันนี้ (21 ก.ค.) ว่าผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ปราโบโว สุเบียนโต กล่าวว่าเขาจะไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง และกล่าวหาคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าไม่ตั้งใจสอบสวนข้อร้องเรียนการโกงเลือกตั้ง ทั้งนี้ตามรายงานของ สำนักข่าว ABC ของออสเตรเลีย
โดยคณะกรรมการการเลือกตั้งอินโดนีเซียจะประกาศผลการเลือกตั้งในวันอังคาร (22 ก.ค.) นี้
สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ซึ่งเป็นการชิงชัยระหว่าง ปราโบโว สุเบียนโต อดีตนายทหาร อดีตลูกเขยของอดีตประธานาธิบดีซูฮาร์โต ที่ผันตัวลงเล่นการเมืองจากพรรค Gerindra และโจโก วีโตโต อดีตนายกเทศมนตรีเมืองสุระกาตา และผู้ว่าราชการการกรุงจาการ์ตา เกาะชวา จากพรรค PDI-P โดยในการเฝ้าสังเกตการนับคะแนนโดยหน่วยงานเอกชนเมื่อสัปดาห์ก่อน ภายหลังการเลือกตั้ง 9 ก.ค. ที่ผ่านมา พบว่าคู่แข่งของปราโบโว คือโจโก วิโดโด หรือ "โจโกวี"มีแนวโน้มจะเป็นผู้ชนะ
อย่างไรก็ตาม สุเบียนโต กล่าวว่า ต้องมีการจัดเลือกตั้งใหม่ในพื้นที่ซึ่งกลุ่มเฝ้าระวังการเลือกตั้งแห่งหนึ่งเสนอมา "ถ้าพวกเขาไม่ยอม ก็จะถือเป็นการกระทำผิด สิ่งนี้จะต้องถูกตั้งคำถามถึงความชอบธรรมของกระบวนการเลือกตั้งทั้งหมด"สุเบียนโตกล่าวกับผู้สื่อข่าว
ด้านฟาดลี ซอน รองเลขาธิการพรรคเกรินดรา ที่สุเบียนโตสังกัด กล่าวว่า พบหลักฐานจำนวนมากแสดงว่ามีการโกงการเลือกตั้ง และเรียกร้องคณะกรรมการการเลือกตั้งแก้ไขปัญหาด้วยการนับคะแนนใหม่ "เราจะไม่ยอมรับผล"เขากล่าว และระบุว่าการประกาศผลการเลือกตั้งควรเลื่อนออกไปจนกว่าปัญหาจะได้รับการแก้ไข ขณะที่เจ้าหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้งยังไม่ให้คำตอบดังกล่าว
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีซุซีโล บัมบัง ยุโดโยโน เรียกร้องชาวอินโดนีเซียให้ช่วยกัน "ปกป้องขั้นตอนสุดท้าย"ของการเลือกตั้งประธานาธิบดี และกล่าวว่าการเลือกตั้งเมื่อ 9 ก.ค. เป็นประชาธิปไตยและมีสันติภาพ
ทั้งนี้ยุโดโยโนแสดงความเห็นระหว่างการพบกับสองผู้สมัครประธานาธิบดี "ผมขอเรียกร้องประชาชนอินโดนีเซียทั้งมวล ปกป้องขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการเลือกตั้ง"
สำหรับอินโดนีเซียเป็นประเทศสมาชิกกลุ่ม G-20 โดยหลังเหตุปราบปรามอย่างนองเลือดที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตนับร้อย ทำให้ประธานาธิบดีซูฮาร์โตซึ่งครองอำนาจยาวนานนับสามทศวรรษ ยอมลงจากอำนาจในปี พ.ศ. 2541 และนับจากนั้นมาประเทศก็เปลี่ยนผ่านเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตย โดยมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีโดยตรงมาแล้ว 3 ครั้ง
พอล โรลด์แลนด์ นักวิเคราะห์ซึ่งอยู่ในจาการ์ตา ระบุว่า เป็นเรื่องยากที่สุเบียนโตจะแสดงหลักฐานที่เพียงพอที่จะทำให้การประกาศผลการเลือกตั้งเลื่อนออกไป
"ทีมงานของปราโบโวจำต้องหาไอเดียบางอย่าง เพื่อแสดงเหตุความไม่ชอบมาพากลเพื่ออธิบายและร้องเรียนคณะกรรมการการเลือกตั้งไม่ให้ประกาศผลการเลือกตั้ง"
"ปัญหาเรื่องกระบวนการนับคะแนน หรือแม้แต่เหตุข่มขู่ หรือหลักฐานว่าเกิดความรุนแรงในวันเลือกตั้ง ยังไม่ใช่หลักฐานที่มีความสำคัญเพียงพอ"เขากล่าว