หลังจากเกิดเหตุสู้รบกันระหว่างกลุ่มติดอาวุธชาวปาเลสไตน์กับกองทัพทางการอิสราเอลครั้งล่าสุด ซึ่งฝ่ายอิสราเอลได้โจมตีสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินผู้คนจำนวนมาก แอมเนสตี้ได้แถลงการณ์เรียกร้องให้ยูเอ็นตั้งคณะสืบสวนการใช้ความรุนแรงไม่ว่าจากฝ่ายใด ทั้งยังเรียกร้องให้ประชาคมโลกคว่ำบาตรทางอาวุธทั้งต่ออิสราเอลและกลุ่มติดอาวุธในปาเลสไตน์
14 ก.ค. 2557 ตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาองค์กรแอมเนสตี้อินเตอร์เนชันแนลได้ออกแถลงการณ์หลังเกิดเหตุการณ์โจมตีฉนวนกาซ่าโดยทางการอิสราเอลและการโจมตีอิสราเอลโดยกลุ่มติดอาวุธชาวปาเลสไตน์ ในแถลงการณ์เรียกร้องให้สหประชาชาติคว่ำบาตรอาวุธรวมถึงเรียกร้องสั่งการให้นานาชาติทำการสืบสวนเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะมาจากฝ่ายใดก็ตาม
แอมเนสตี้ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ว่านับตั้งแต่ทางการอิสราเอลมีปฏิบัติการโจมตีดังกล่าวก้มีชาวปาเลสไตน์ถูกสังหารไปแล้วมากกว่า 100 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลเรือนที่ไม่ได้มีส่วนร่วมโดยตรงในการสู้รบ ซึ่งทางสำนักข่าววอชิงตันโพสต์ระบุเมื่อวันอาทิตย์ว่ายอดผู้เสียชีวิตสูงขึ้นมากกว่า 170 คนแล้ว และมีมากกว่า 1,000 คนได้รับบาดเจ็บ
ทางด้านกองทัพอิสราเอลรายงานว่ามีการยิงขีปนาวุธใส่พื้นที่ของอิสราเอลแล้ว 802 ลูกนับตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค. จนถึงบัดนี้ และมีการโปรยใบปลิวให้กับประชาชนในพื้นที่ทางตะวันออกของเมืองอัลอัตตาราอพยพออกจากพื้นที่ลงไปยังตอนใต้
แอมเนสตี้ระบุอีกว่าบ้านเรือนของผู้คนในฉนวนกาซ่าถูกทำลายไปแล้วมากกว่า 340 หลังคาเรือน นอกจากนี้ยังมีสถานพยาบาล สถานที่ทางศาสนา และบ้านพักคนพิการถูกโจมตีได้รับความเสียหาย
ฟิลิป ลูเธอร์ ผู้อำนวยการโครงการตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือของแอมเนสตี้เรียกร้องให้สหประชาชาติมีคำสั่งแต่งตั้งคณะผู้แทนสืบสวนหาความจริงในกรณีความขัดแย้งครั้งนี้เพื่อตรวจสอบเรื่องการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ (International humanitarian law) จากทุกฝ่าย ซึ่งจะถือเป็นก้าวสำคัญในการทำให้ผู้ก่ออาชญากรรมสงครามและการละเมิดสิทธิร้ายแรงอื่นๆ ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตน
ทางแอมเนสตี้ยังได้เรียกร้องให้ยูเอ็นมีมาตรการคว่ำบาตรทางอาวุธต่ออิสราเอล, กลุ่มติดอาวุธฮามาส และกลุ่มติดอาวุธอื่นๆ ของปาเลสไตน์ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนและละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศในเหตความขัดแย้ง ซึ่งการคว่ำบาตรทางอาวุธในที่นี้คือการงดให้ความช่วยเหลือทางการทหารหรือการส่งสรรพาวุธให้แก่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
ในกรณีที่กองทัพอิสราเอลอ้างว่าปฏิบัติการโจมตีบ้านเรือนของประชาชนเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการต่อต้านกลุ่มติดอาวุธฮามาสโดยไม่มีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่าอาคารบ้านเรือนของประชาชนถูกใช้ไปในทางสนับสนุนปฏิบัติการของกลุ่มฮามาส ทางแอมเนสตี้ก็เรียกร้องให้ทางการอิสราเอลนำเสนอข้อมูลอย่างเฉพาะเจาะจงในจุดนี้ มิเช่นนั้นแล้วการโจมตีใส่บ้านเรือนประชาชนจะถือว่าเป็นอาชญากรรมสงคราม โดยถือว่าเป็นทำโทษแบบเหมารวม (Collective Punishment) ต่อครอบครัวผู้ได้รับความเสียหาย
"การยิงขีปนาวุธโดยไม่สามารถโจมตีเป้าหมายทางการทหารได้อย่างเจาะจงถือเป็นอาชญากรรมสงคราม เนื่องจากเป็นการโจมตีเป้าหมายที่เป็นพลเรือนอย่างจงใจ"ฟิลิป ลูเธอร์กล่าว
แอมเนสตี้อินเตอร์เนชั่นแนลยังได้เรียกร้องให้อิสราเอลและอียิปต์เปิดทางให้นำความช่วยเหลือทางการแพทย์และทางมนุษยธรรมเข้าสู่พื้นที่ฉนวนกาซ่าได้ และให้มีการเปิดทางแก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือทางการแพทย์อย่างเร่งด่วน เนื่องจากสถานพยาบาลในกาซ่ามีตำนวนผู้บาดเจ็บมากขึ้นและปัจจัยในการรักษาพยาบาลน้อยลงเรื่อยๆ สาเหตุใหญ่มาจากการปิดล้อมพื้นที่ฉนวนกาซ่าอย่างเข้มงวดของอิสราเอลตั้งแต่ 7 ปีที่ผ่านมา
ภายใต้กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศระบุให้ทุกฝ่ายที่มีการปะทะกันด้วยอาวุธต้องแยกแยะระหว่างเป้าหมายที่เป็นทหารกับเป้าหมายที่เป็นพลเรือนหรือวัตถุของพลเรือน ห้ามมีการโจมตีที่ไม่เหมาะสมและไม่ระบุเป้าหมาย ทุกฝ่ายยังต้องใช้ความระมัดระวังในการโจมตีเพื่อให้เกิดผลเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของพลเรือนน้อยที่สุด อีกทั้งยังต้องปกป้องพลเรือนของตนจากผลกระทบที่ตามมาจากการโจมตี
เรียบเรียงจาก
Israel/Gaza: UN must impose arms embargo and mandate an international investigation as civilian death toll rises, Amnesty International, 11-07-2014
Israeli troops raid rocket-launching sites in Gaza as residents are urged to evacuate, Washington Post, 13-07-2014