หลังจากที่ศาลอียิปต์ตัดสินจำคุกนักข่าวหลายคนโดยอ้างข้อหาที่ไม่สามารถหาหลักฐานได้ หนึ่งในนักข่าวที่ถูกตัดสินคือปีเตอร์ เกรสต์ ได้แสดงความคิดเห็นผ่านสื่อเป็นครั้งแรก บอกว่ารู้สึก 'ถูกย่ำยี'และ 'เจ็บแค้น'อีกทั้งให้คำมั่นว่าจะทำทุกอย่างเพื่อพลิกคำตัดสิน
26 มิ.ย. 2557 สำนักข่าวอัลจาซีรานำเสนอคำข้อความจากปีเตอร์ เกรสต์ หนึ่งในนักข่าวที่ถูกศาลอียิปต์ตัดสินสั่งจำคุก 7 ปี โดยอ้างข้อหารายงานข่าวเท็จและให้ความช่วยเหลือกลุ่มภราดรภาพมุสลิม ทั้งๆ ที่ในกระบวนการดำเนินคดีมีการอ้างพยานหลักฐานที่ไม่เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาของจำเลย
เกรสต์ได้ออกมากล่าวแสดงความคิดเห็นเป็นครั้งแรกหลังจากที่เขาถูกตัดสิน เขาบอกว่าเขารู้สึกถูกย่ำยีและรู้สึกเจ็บแค้นมากจากคำตัดสินเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
"ตลอดช่วงเวลาการดำเนินคดี ฝ่ายอัยการไม่สามารถหาหลักฐานที่มีน้ำหนักมากพอจะสนับสนุนข้อกล่าวหาที่สบประมาทพวกเราเลยแม้แต่ชิ้นเดียว"เกรสต์กล่าว
ในถ้อยแถลงของเกรสต์ระบุอีกว่า ทนายความของเขาได้ชี้ให้เห็นถึงความผิดพลาดในกระบวนการดำเนินคดี ซึ่งมีการฝ่าฝืนระเบียบการและปฏิบัติมิชอบในกระบวนการกฎหมาย โดยปกติควรจะมีการยกเลิกคดีนี้ตั้งหลายครั้งแล้ว
"นั่นคือเหตุผลว่าทำไมผมถึงต้องการทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้และพิจารณาทุกวิธีการเพื่อพลิกคำตัดสินนี้"เกรสต์กล่าว
"คำตัดสินครั้งนี้แสดงให้เห็นชัดเจนว่าการดำเนินคดีกับพวกเราไม่ใช่แค่เป็นการตั้งข้อหากับพวกเราเท่านั้น แต่เป็นความพยายามที่จะใช้ศาลเป็นเครื่องมือคุกคามและสยบเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสื่อ"เกรสต์กล่าว
ในถ้อยแถลงของเกรสต์ยังได้เรียกร้องว่าเสรีภาพของพวกเขาและเสรีภาพของอียิปต์จะไม่มีทางกลับมาถ้าหากไม่มีการเรียกร้องกดดันทั้งจากบุคคลทั่วไป จากกลุ่มสิทธิมนุษยชน จากภาครัฐของประเทศต่างๆ และจากใครก็ตามที่เข้าใจว่าเสรีภาพสื่อมีความสำคัญต่อประชาธิปไตยในอียิปต์
"พวกเรารู้สึกซาบซึ้งใจต่อการสนับสนุนจากมวลชนจำนวนมากอย่างไม่เคยมีมาก่อนในช่วงที่พวกเราถูกดำเนินคดี มันทำให้พวกเราเข้มแข็งและพวกเราก็จะยังคงยืนหยัดต่อไป พวกเราทุกคนสัญญาว่าจะต่อสู้กับความอยุติธรรมที่เลวร้ายนี้ต่อไปตราบเท่าที่ยังจำเป็นต้องทำ"เกรสต์กล่าว
ทางด้านสำนักข่าวอัลจาซีราได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมดที่มีต่อนักข่าวของพวกเขามาโดยตลอดและเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนักข่าวที่ถูกกุมขังโดยทันที
หลังการตัดสินคดีเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาทำให้มีเสียงเรียกร้องแสดงความไม่พอใจจากนานาชาติ โดยในโลกออนไลน์ยังมีการรณรงค์ให้ปล่อยตัวนักข่าวผ่านโซเชียลมีเดียอย่างทวิตเตอร์ผ่านแฮชแท็กที่ชื่อ #freeajstaff โดยมีสื่อหลายแห่งแสดงภาพปิดปากประท้วงคำตัดสินของศาลอียิปต์
ทางด้านจอห์น แคร์รี่ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ ซึ่งได้เดินทางไปพบผู้นำคนใหม่ของอียิปต์เมื่อไม่นานมานี้ กล่าวประณามวคำตัดสินของศาลอียิปต์ว่าเป็นคำตัดสินที่ "เข้มงวดรุนแรงและขัดขวางการใช้สิทธิ"อีกทั้งยังนับเป็นการก้าวถอยหลังสำหรับการเปลี่ยนผ่านการปกครองในอียิปต์
แคร์รี่ กล่าวผ่านแถลงการณ์ว่าก่อนหน้านี้เขาได้เข้าพบประธานาธิบดี อับเดล ฟัตตาห์ อัลซีซี เพื่อหารือให้อียิปต์คุ้มครองสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานในระยะยาว แถลงการณ์ระบุอีกว่าทางสหรัฐฯ จะจับตาดูอียิปต์ในเรื่องเสรีภาพสื่อ บทบาทในเชิงประชาสังคม และหลักนิติธรรม รวมถึงเรียกร้องให้ทางการอียิปต์พิจารณาคำตัดสินต่อนักโทษการเมืองในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาอีกครั้ง ทั้งเรื่องการชดเชยและการอภัยโทษ
เรียบเรียงจาก
Peter Greste decries Egypt court ruling, Aljazeera, 26-06-2014
http://www.aljazeera.com/news/middleeast/2014/06/peter-greste-decries-court-ruling-2014625202834194433.html
John Kerry: Egypt’s conviction of Al Jazeera journalists is ‘chilling, draconian’, The Washington Post, 23-06-2014
http://www.washingtonpost.com/blogs/worldviews/wp/2014/06/23/john-kerry-egypts-conviction-of-al-jazeera-journalists-is-chilling-draconian/
การรณรงค์ปล่อยตัวนักข่าวอัลจาซีร่าในทวิตเตอร์ (เข้าดูล่าสุดเมื่อ 26 มิ.ย. 2557)
https://twitter.com/search?q=%23freeajstaff