Quantcast
Channel: พันศักดิ์ วิญญรัตน์
Viewing all articles
Browse latest Browse all 14385

ให้ ‘นิวัฒน์ธำรง’ นำแทนยิ่งลักษณ์ ดันเลือกตั้ง – พท.ออกแถลงการณ์ค้านคำวินิจฉัย

$
0
0

7 พ.ค.2557  นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมกันแถลงภายหลังจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พร้อมรัฐมนตรีที่มีมติเห็นชอบให้ย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. พ้นจากตำแหน่ง ว่า รัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่งจำนวน 10 คนนั้นมีบางส่วนพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว ทางรัฐบาลเกิดประเด็นสงสัยทางกฎหมายว่าการดำรงตำแหน่งของรัฐมนตรีที่เปลี่ยนไปจากคณะรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ 1 นั้น จะมีการพิจารณาอย่างไร ทั้งนี้จะให้คณะกรรมการกฤษฏีกาตีความ และสอบถามไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ต่อไป

อย่างไรก็ตาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้มอบหมายให้นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานในการประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อหารือ แนวทางต่อจากนี้ นอกจากนี้นายนิวัฒน์ธำรงค์จะปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีและจะดำเนินการให้เกิดการเลือกตั้งใหม่ โดยคณะรัฐมนตรีที่เหลืออยู่จะทำหน้าที่รักษาการต่อไป ซึ่งจะร่วมกับ กกต.ในการกำหนดรายละเอียดวันเลือกตั้ง และเมื่อมีรัฐมนตรีชุดใหม่ก็จะถือเป็นการสิ้นสุดการทำหน้าที่ ทั้งนี้ได้ต้องรอความชัดเจนในการหารือกับ ประธาน กกต. ช่วงบ่ายของวันที่ 9 พ.ค.ต่อไป

รายงานข่าวแจ้งว่า นายนิวัฒน์ธำรง เป็นรองนายกรัฐมนตรี อันดับสอง ที่อยู่ในลำดับรองจากนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกูล ที่พ้นตำแหน่งไปพร้อมนางสาวยิ่งลักษณ์ และที่สำคัญนายนิวัฒน์ธำรงเป็นรัฐมนตรีสายตรงของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร   นอกจากนี้ความเสี่ยงทางการเมืองจากคดีทุจริตจำนำข้าว ซึ่งป.ป.ช. จะชี้มูลความผิดในวันพรุ่งนี้ นายนิวัฒน์ธำรง ก็เป็นเพียงพยานในคดีเท่านั้น ไม่อยู่ในฐานะของผู้ถูกร้องเช่นนางสาวยิ่งลักษณ์

ทั้งนี้ รายชื่อรัฐมนตรีผู้เข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 6 พฤษภาคม 2554 ในการลงมติแต่งตั้งโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี  ได้แก่ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง, .ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง, นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล, นายปลอดประสพ สุรัสวดี, พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก, ศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์, พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา, นายสันติ พร้อมพัฒน์, น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ

ส่วน รายชื่อ ครม.ที่ยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อ มีดังนี้ 1. นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ 2. นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกฯ 3. นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ 4. นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักฯและรมช.เกษตรฯ 5. นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ รมว.กระทรวงคมนาคม

 6.  นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี รมว.กระทรวงทรัพยากรฯ 7. นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.กระทรวงพลังงาน 8. นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย 9. นายชัยเกษม นิติสิริ รมว.ยุติธรรม 10. นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รองนายกฯและ รมว.เกษตรฯ 11. นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.คลัง 12. นางเบญจา หลุยเจริญ รมช.คลัง 13. นายสมศักดิ์ ภูรีศรีศักดิ์ รมว.ท่องเที่ยว 14. นางปวีณา หงสกุล รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 15. พล.อ.พฤณฑ์ สุวรรณทัต รมช.คมนาคม 16. นายพ้อง ชีวานันท์ รมช.คมนาคม 17. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ 18. นายยรรยง พวงราช รมช.พาณิชย์ 19. นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ รมช.มหาดไทย

 20. นายสนธยา คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม 21. นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ 22. นายประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข 23. นายสรวงศ์ เทียนทอง รมช.สาธารณสุข 24. นายประเสริฐ บุญชัยสุข รมว.กระทรวงอุตสาหกรรม

 

วันเดียวกันที่พรรคเพื่อไทย นำโดยนายโภคิน พลกุล แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายรัฐมนตรีพ้นสภาพเฉพาะตัว และให้คณะรัฐมนตรีที่เข้าร่วมประชุมและลงมติโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี โดยมิชอบ ซึ่งล่าสุดทางพรรคเพื่อไทยได้มีการประชุมถึงผลการตัดสินที่ออกมา และได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการเพื่อแสดงจุดยืนและท่าทีของพรรคต่อคำวินิจฉัยในครั้งนี้ โดยไม่ยอมรับคำตัดสินศาลรัฐธรรมนูญ และให้ กกต. และรัฐบาล เร่งตรา พ.ร.ฏ.เลือกตั้งให้เร็วที่สุด เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง

โดยแถลงการณ์ของพรรคเพื่อไทย ระบุ 8 ข้อ ดังนี้ 

1.     พรรคเพื่อไทยได้มีแถลงการณ์ถึงพี่น้องประชาชนและทุกองค์กรที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่องว่า ประเทศจะเดินหน้าไปตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขได้ และจะแก้ปัญหาความขัดแย้งที่เป็นอยู่ไม่ให้บานปลายจนเกิดกลียุคได้ ก็ด้วยการเลือกตั้งและการตั้งอยู่บนความเที่ยงธรรม ปราศจากอคติของทุกฝ่าย และทุกองค์กรตามรัฐธรรมนูญ

2.      พรรคเพื่อไทยได้ย้ำและชี้ให้เห็นมาโดยตลอดว่า มีขบวนการสมคบคิดกันเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยฯ ล้มล้างการเลือกตั้ง มุ่งทำลายล้างฝ่ายประชาธิปไตยมาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยความร่วมมือของพรรคการเมืองบางพรรค กปปส.และองค์กรตามรัฐธรรมนูญบางองค์กร ด้วยการไม่ยอมรับการเลือกตั้ง การเสนอให้มีนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีที่มิได้มาจากการเลือกตั้ง การกลั่นแกล้งรัฐบาลที่ยึดหลักประชาธิปไตยตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน จนมาถึงพรรคเพื่อไทย ด้วยการยุบพรรคและตัดสิทธิการเมืองกรรมการบริหารพรรคทุกคนเป็นเวลา 5 ปี จนถึงการใช้ทุกกระบวนการเพื่อทำลายนายกรัฐมนตรีตั้งแต่นายสมัคร สุนทรเวช นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์จนถึงนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยไม่สุจริต

3.      พรรคเพื่อไทยขอเรียนพี่น้องประชาชนว่า พรรคอาสาเข้ามารับใช้ประชาชนด้วยจิตสำนึกที่เคารพในอำนาจของประชาชน ด้วยการนำเสนอนโยบายต่างๆ ที่จะทำให้ประชาชนมีความผาสุก มุ่งมั่นทำงานทุกอย่างให้เป็นไปตามนโยบาย  แม้จะถูกขัดขวางและใส่ร้ายป้ายสีมาโดยตลอดโดยขบวนการสมคบคิดดังกล่าว พรรคเชื่อมั่นในวิจารณญาณของพี่น้องประชาชนที่ต้องการเห็นประเทศก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืนบนพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตย ความเที่ยงธรรมและความเมตตาปรารถนาดีต่อกัน

4.      พรรคเพื่อไทยขอเรียนว่า ตราบใดที่ขบวนการสมคบคิดยังดำเนินต่อไป จะมีการละเมิดหลักการประชาธิปไตยและบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญอย่างไม่จบสิ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ถือเป็นการรัฐประหารในรูปแบบใหม่เพื่อสร้างระบอบการปกครองใหม่ที่ทำลายความหวังของพี่น้องประชาชนที่จะเห็นประเทศก้าวหน้าไปบนวิถีทางประชาธิปไตยและหลักนิติธรรม พี่น้องประชาชนจะได้เห็นความพยายามของพรรคประชาธิปัตย์ กปปส.และองค์กรตามรัฐธรรมนูญบางองค์กร ที่จะไม่ให้เกิดการเลือกตั้งในวันที่ 20 กรกฎาคม 2557 และให้มีนายกฯ และคณะรัฐมนตรีที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง

5.      พรรคเพื่อไทยเห็นว่าการใช้อำนาจหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญก็ดี ป.ป.ช.ก็ดีที่กระทำต่อรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ฯ ล้วนเป็นไปด้วยความเร่งรัด เร่งรีบ ผิดปกติ ไม่ให้โอกาสอ้างอิงพยานและรับฟังคำพยานได้เต็มที่อย่างที่ควรจะเป็น และบ่อยครั้งสอดคล้องกับการแถลงของ กปปส. และฝ่ายที่ต้องการล้มล้างระบอบประชาธิปไตย คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้และที่ผ่านมาได้วางบรรทัดฐานนอกเหนือจากตัวบทกฎหมายและเจตนารมณ์ของบทบัญญัติรัฐธรรมนูญอย่างชัดแจ้ง จนทำให้ฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายจากประชาชนได้ และคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ก็ไม่เป็นไปตามมาตรา 181 ที่บัญญัติว่าคณะรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่งไม่ว่าด้วยเหตุใดๆ ตามมาตรา 180 ต้องอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่ นั่นคือถ้ายังมีสภาผู้แทนราษฎรอยู่ก็ไปเลือกนายกรัฐมนตรีกันใหม่แล้วมีคณะรัฐมนตรี แต่ถ้าไม่มีสภาผู้แทนราษฎรก็ต้องไปเลือกตั้งจนได้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีต่อไป 

6.      พรรคเพื่อไทยขอเรียกร้องให้ประชาชนผู้รักประชาธิปไตยและความถูกต้องเที่ยงธรรมทั้งหลาย ร่วมกันต่อต้านขบวนการสมคบคิดดังกล่าวโดยใช้สิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะเป็นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การชุมนุม การร้องเรียน แจ้งความร้องทุกข์ ดำเนินคดีและการต่อต้านโดยสันติวิธีทุกรูปแบบตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 69 เพื่อมิให้การดำเนินการของขบวนการสมคบคิดบรรลุผล

7.      พรรคเพื่อไทยขอให้อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกพรรคทุกคน ชี้แจงให้พี่น้องประชาชนเข้าใจสถานการณ์ที่เป็นอยู่ และความมุ่งหมายของขบวนการสมคบคิดที่ต้องการทำลายระบอบประชาธิปไตย และร่วมมือกับพี่น้องประชาชนเพื่อต่อต้านขบวนการดังกล่าวอย่างถึงที่สุด เพื่อรักษาไว้ซึ่งระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และสันติสุขของสังคมต่อไป

8.      พรรคเพื่อไทยขอย้ำอีกครั้งว่า กกต.และรัฐบาลต้องเร่งรัดให้มีการตราพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป ในวันที่ 20 กรกฎาคม 2557  และขอให้ทุกพรรคการเมือง ทุกฝ่ายร่วมมือกับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นโดยสุจริต  เพื่อเป็นทางออกของความขัดแย้ง  ดังที่ปฏิบัติกันในนานาประเทศและประเทศไทยในอดีตที่ผ่านมา

 

ที่มา: มติชนออนไลน์ สปริงนิวส์

ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai

Viewing all articles
Browse latest Browse all 14385

Trending Articles