1 พ.ค. 2557 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติออกแถลงการณ์คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เรื่อง "ขอประณามการใช้ความรุนแรง และการกระทำที่ทารุณโหดร้ายไร้มนุษยธรรมต่อกลุ่มประชาชนผู้บริสุทธิ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้"หลังเกิดเหตุรุนแรงต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ โดยเรียกร้องให้ผู้ที่ก่อเหตุยุติการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม ผิดกฎหมาย และละเมิดสิทธิมนุษยชนทันที ให้รัฐบาลเพิ่มมาตรการในการรักษาความสงบเรียบร้อยแก่ประชาชนในพื้นที่ให้เข้มงวดรัดกุมให้มากยิ่งขึ้น พร้อมขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินการตามกฎหมายอย่างรวดเร็ว เพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กับประชาชน และดำรงชีวิตอย่างปกติสุข
รายละเอียดมีดังนี้
แถลงการณ์คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)
เรื่อง ขอประณามการใช้ความรุนแรง และการกระทำที่ทารุณโหดร้าย ไร้มนุษยธรรมต่อกลุ่มประชาชนผู้บริสุทธิ์ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ในห้วงเวลาที่ผ่านมา คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ มีความกังวลต่อสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และได้ติดตามตรวจสอบสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดมา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การใช้ความรุนแรงต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ด้วยอาวุธสงคราม และการกระทำที่ทารุณโหดร้าย ไร้มนุษยธรรม และป่าเถื่อน เช่น การใช้ระเบิดสังหารในที่ชุมชน การใช้อาวุธสงครามสังหารเด็ก สตรี และการสังหารด้วยวิธีทารุณโหดร้าย รวมถึงการฆ่าตัดคอ การทำลายศพ ซึ่งนอกจากจะก่อให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิต ร่างกายของประชาชนผู้บริสุทธิ์แล้ว ยังเกิดความเศร้าสลดใจแก่ผู้ที่พบเห็นและสังคมโดยรวม โดย กสม.ขอแสดงความเสียใจ อย่างสุดซึ้งต่อทุกเหตุการณ์ ต่อทุกชีวิต ต่อทุกครอบครัวที่สูญเสียดังกล่าว
เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2557 เวลาประมาณ 14.00 น. ได้มีคนร้ายจำนวน 4 คน แฝงตัวปะปนกับชาวบ้านบริเวณตลาดนัดโรงพยาบาลศรีสาคร อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส จากนั้นได้ใช้อาวุธปืนยิงเจ้าหน้าที่สาธารณสุขหญิง จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต จำนวน 1 ราย ซึ่งเป็นผู้หญิงอยู่ในระหว่างตั้งครรภ์ 2 เดือน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส จำนวน 1 ราย ยังความเศร้าสลดใจ และหวาดกลัวต่อการกระทำที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม ดังปรากฏเป็นข่าวแล้ว นั้น
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งมีบทบาทและหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ในอันที่จะส่งเสริมการเคารพและปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชนและปกป้องหลักการเคารพต่อสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย อันจะละเมิดมิได้ ขอประณามการกระทำที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม ป่าเถื่อน เช่นนี้ และขอเสนอแนะให้ทุกภาคส่วนคำนึงและควรปฏิบัติดังนี้
1. ขอให้ผู้ที่ก่อเหตุการณ์ความรุนแรงได้ยุติการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม ผิดกฎหมาย และละเมิดสิทธิมนุษยชนทันที เพราะการกระทำดังกล่าวนอกจากจะละเมิดสิทธิมนุษยชนแล้ว ยังเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ขัดต่อมนุษยธรรมอีกด้วย
2. รัฐบาลต้องเพิ่มมาตรการในการรักษาความสงบเรียบร้อย แก่ประชาชนในพื้นที่ให้เข้มงวดรัดกุมให้มากยิ่งขึ้น ประชาชน และผู้บริสุทธิ์ ต้องได้รับการปกป้องและคุ้มครองจากเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อสร้างความมั่นใจและความรู้สึกปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน และการดำรงชีวิตอย่างปกติสุข ด้วยความร่วมมือของภาคประชาชนในการสร้างระบบการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย การเฝ้าระวัง และการป้องกันเหตุการณ์ความรุนแรง
3. รัฐบาล กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานด้านความมั่นคง ต้องเร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินการตามกฎหมายอย่างรวดเร็ว เพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กับประชาชน และดำรงชีวิตอย่างปกติสุข
4. ประชาชนและทุกภาคส่วนของชุมชน จะต้องช่วยกันสอดส่อง และระมัดระวังถึงภยันตรายทั้งปวงที่ส่งผลกระทบต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สิน จากการก่อความไม่สงบในพื้นที่ในประการสำคัญหากทุกภาคส่วนจะได้แสวงหาหนทาง และแนวทางอยู่ร่วมกันในฐานะประชาชนชาวไทยอย่างสันติสุขแล้ว จะเป็นพลังอย่างมหาศาลในการขับเคลื่อนมาตรการและแนวทางการแก้ไขปัญหาให้ลุล่วง
5. รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือ เยียวยา ความเสียหาย อย่างรวดเร็วและเป็นธรรม ดำเนินการฟื้นฟูสภาพจิตใจของผู้ที่ได้รับผลกระทบและครอบครัวจากเหตุการณ์ดังกล่าว
ทั้งนี้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จะติดตามสถานการณ์และติดตามผลการปฏิบัติของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือเยียวยา และจะประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การช่วยเหลือเยียวยา ตามหลักเกณฑ์ต่อไป อีกทั้งจะดำเนินการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และนำเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบต่อไป
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
1 พฤษภาคม 2557