สภาองค์การลูกจ้างฯ และสหพันธ์แรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอฯ แถลงวันกรรมกรสากลเรียกร้องให้ กกต.จัดการเลือกตั้งโดยเร็ว เพื่อมีรัฐบาลใหม่แก้ปัญหาแรงงาน ค้านรัฐประหาร วอนรัฐจัดงบพัฒนาสหภาพแรงงาน
1 พ.ค.2557 สภาองค์การลูกจ้างสภาศูนย์กลางแรงงานแห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์เนื่องในวันกรรมกรสากล เรียกร้องให้เรียกร้ององค์กรที่รับผิดชอบดำเนินการให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว โดยเฉพาะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อนำไปสู่การมีรัฐบาลใหม่และคลี่คลายสถานการณ์การว่างงาน
โดยแถลงการณ์ระบุว่า สถานการณ์การเมืองปัจจุบันเป็นสงครามแย่งชิงอำนาจส่งผลให้ 4 เสาหลักเศรษฐกิจกำลังป่วยขั้นโคม่า คือการบริโภคหดตัวลงมาต่อเนื่อง มาอยู่ที่ 59.7 ต่ำสุดในรอบ 12 ปี การลงทุนภาคเอกชนหดตัวลงต่อเนื่อง ทั้งปริมาณนำเข้าสินค้า ยอดจำหน่ายรถยนต์ การลงทุนหมวดก่อสร้าง นักลงทุนหยุดรอนโยบายส่งเสริมการลงทุน จากบอร์ดบีโอไอ ชุดใหม่ ที่มีปริมาณคั่งค้างอยู่มูลค่า 800,000 บาท การใช้นโยบายภาครัฐ เจอทางตันหลังยุบสภา เลือกตั้งเป็นโมฆะ จัดตั้งรัฐบาลใหม่ไม่ได้ รัฐบาลรักษาการมีข้อจำกัดการเบิกจ่ายงบประมาณ ทั้งงบเก่าและงบใหม่ และการส่งออกขยายตัวไม่ถึง 51% ส่งผลกระทบต่อการจ้างงานและแนวโน้มมีการว่างงานเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะ มี.ค. 57 สูงถึง 2.43 แสนคน
เช่นเดียวกับ สหพันธ์แรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอ การตัดเย็บเสื้อผ้าและผลิตภัณฑ์หนังแห่งประเทศไทย (ส.พ.ท.) กลุ่มสหภาพแรงงานอุตสาหกรรมเบอร์ล่า (LUBG), องค์การแรงงานเพื่อประชาธิปไตย (WOD), สมาพันธ์กรรมกรเพื่อประชาธิปไตยและกรรมกรแดงเพื่อประชาธิปไตย ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ กกต.ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว ต่อต้านนายกรัฐมนตรีมาตรา 7 และคัดค้านการทำรัฐประหารทุกรูปแบบ
พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐไทยให้สัตยาบันในอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ หรือ ILO ฉบับที่ 87 ว่าด้วยเรื่อง เสรีภาพในการสมาคมและการคุ้มครองสิทธิในการรวมตัว และฉบับที่ 98 ที่ว่าด้วยเรื่องการรวมตัวและร่วมเจรจาต่อรอง รวมทั้งรณรงค์ให้สังคมไทยต้องเป็นรัฐสวัสดิการมีการเก็บภาษีในอัตราก้าวหน้า เรียกร้องค่าจ้างที่พอเพียงต่อการดำรงชีพ รวมทั้งเรียกร้องให้รัฐต้องจัดสรรงบประมาณแผ่นดินเพื่อการพัฒนาสหภาพแรงงาน
แถลงการณ์ : สภาองค์การลูกจ้างสภาศูนย์กลางแรงงานแห่งประเทศไทย
“วันกรรมกรสากล” หรือ “วันเมย์เดย์” (May Day)กำเนิดมาจากการต่อสู้ของชนชั้นกรรมาชีพในยุโรปและอเมริกา ในยุคของ “การปฏิวัติอุตสาหกรรม” จากสังคมเกษตรไปสู่สังคมอุตสาหกรรมที่ส่งผลให้ผู้คนอพยพจากการผลิตภาคเกษตรกรรมไปเป็นแรงงานภาคอุตสาหกรรม ซึ่งผู้ใช้แรงงานต้องทุนกับการถูกกดขี่ขูดรีดจากนายทุนโรงงานอุตสาหกรรม เช่น ถูกบังคับให้ใช้แรงงานเยี่ยงทาส ต้องทำงานหนักถึงวันละ 14-16ชั่วโมงโดยไม่มีวันหยุด รวมทั้งไม่มีสวัสดิการและมาตรฐานคุ้มครองความปลอดภัยในการทำงาน ทำให้มีการเคลื่อนไหวเพื่อต่อสู้ การกดค่าจ้างแรงงานและให้ลดชั่วโมงการทำงาน ซึ่งแนวความคิดนี้ได้ขยายไปในหลายประเทศทางยุโรป อเมริกา ละติลอเมริกา ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย เดือนพฤษภาคม ค.ศ.1886 คนงานแห่งเมืองชิคาโก ประเทศอเมริกา ได้นัดหยุดงานครั้งใหญ่และจัดการชุมนุมเดินขบวนเพื่อเรียกร้อง “ระบบสามแปด” คือ ทำงาน 8ชั่วโมง พักผ่อน 8ชั่วโมง และศึกษาหาความรู้ 8ชั่วโมงการต่อสู้ครั้งนั้นอำนาจรัฐนายทุนได้ใช้กำลังเข้าปราบปรามอย่างรุนแรง สหพันธ์คนงานแห่งอเมริกาได้ฟื้นการต่อสู้เรียกร้องระบบสามแปด โดยมีมติให้เดินขบวนทั่วประเทศในวันที่ 1พฤษภาคม ค.ศ.1890 ในช่วงนั้นก็เริ่มมีแนวคิดจากกรรมกรในหลายประเทศแถบยุโรป ที่จะประกาศวันที่แน่นอนให้เป็นวันสามัคคีต่อสู้ของขบวนการกรรมกรทั่วโลก ที่ประชุมสภาสังคมนิยมสากล ณ กรุงปารีส ฝรั่งเศส จึงมีมติให้วันที่ 1พฤษภาคม 1890 เป็นวันเดินขบวนเรียกร้องให้ลดชั่วโมงทำงานตามที่สหพันธ์คนงานแห่งอเมริกาได้กำหนดไว้แล้ว และให้วันที่ 1พฤษภาคม ของทุกปี เป็น“วันกรรมกรสากล”และเป็นวันเดินขบวนแสดงพลังของชนชั้นกรรมาชีพทั่วโลก มติดังกล่าวได้แพร่ขยายออกไปอย่างกว้างขวาง และการยืนหยัดต่อสู้ของคนงานชิคาโกและคนงานอื่นๆ ก็สามารถทำให้นายจ้างลดชั่วโมงการทำงานลงเหลือ 8ชั่วโมงในทุกๆ แห่ง 1พฤษภาคม ของทุกปี คือ “วันกรรมกรสากล” เป็นสัญลักษณ์แห่งการสามัคคีต่อสู้เพื่อปลดปล่อยชนชั้นกรรมกรซึ่งกรรมกรทั่วโลกจะจัดให้มีการชุมนุมเดินขบวน เพื่อสร้างวัฒนธรรมการต่อสู้เพื่อปลดปล่อยจากการกดขี่ขูดรีดของระบบทุนนิยม ในประเทศไทย การจัดงานวันกรรมกรสากลในที่สาธารณะอย่างเปิดเผยครั้งแรก มีขึ้นในวันที่ 1พฤษภาคม พ.ศ. 2489 ที่สนามหน้าสำนักงานสมาคมไตรจักร์ (สามล้อ) พระราชวังอุทยานสราญรมย์ จัดโดยสมาคมกรรมกรสงเคราะห์กรุงเทพรวมกับสมาคมไตรจักร์ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประมาณ 3พันคน การชุมนุมวันกรรมกรสากล พ.ศ.2490 มีขึ้นที่ท้องสนามหลวง ภายใต้คำขวัญ “กรรมกรทั้งหลายจงสามัคคีกัน”ซึ่งถือว่าเป็นการแสดงพลังความสามัคคีของชนชั้นกรรมกรไทยครั้งใหญ่ที่สุดเป็นประวัติการณ์ เพื่อเฉลิมฉลองการจัดตั้งสหพันธ์กรรมกรระดับชาติแห่งแรกในประเทศไทย คือ “สมาคมสหอาชีวะกรรมกรแห่งประเทศไทย”วันกรรมกรสากลปีนั้นมีผู้เข้าร่วมกว่าแสนคน นับเป็นการจัดงานที่มาจากจิตสำนึกของกรรมกร โดยกรรมกรและเพื่อกรรมกรอย่างแท้จริง แต่แล้ว เมื่อวันที่ 8พฤศจิกายน 2490 เกิดการรัฐประหารยึดอำนาจ โดยรัฐบาลเผด็จการได้สั่งห้ามจัดงานวันกรรมกรสากลในปี พ.ศ.2499 “กรรมกร 16หน่วย” จัดตั้งรวมตัว โดยมีเป้าหมายเคลื่อนไหวให้รัฐบาลเร่งออกกฎหมายรับรองสิทธิด้านต่าง ๆ และได้เคลื่อนไหวให้มีการจัดงานวันกรรมกรสากลขึ้นอีกครั้ง แต่รัฐบาลเผด็จการมีเงื่อนไขให้เปลี่ยนชื่อ “วันกรรมกรสากล”เป็น “วันแรงงานแห่งชาติ”ใช้มาจนถึงทุกวันนี้ จากการควบคุมโดยรัฐบาลเผด็จการ ทำให้วันกรรกรสากลถูกแทรกแซงจากรัฐบาลมาโดยตลอด เนื้อหา และรูปแบบของการจัดงานมักจะถูกควบคุมโดยรัฐบาล การยื่นข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลในวันที่ 1พฤษภาคม ไม่ได้รับการตอบสนองจากรัฐบาลเท่าที่ควร ไม่มีการติดตามอย่างจริงจัง ทำให้การยื่นข้อเรียกร้องของผู้ใช้แรงงาน เป็นเพียงพิธีการเท่านั้น “วันกรรมกรสากล” พี่น้องกรรมกรทุกคนจะต้องร่วมกันรำลึกถึงการต่อสู้ในอดีตกว่า 200 ปี ที่ปลดปล่อยกรรมกรจากการทำงานเยี่ยงทาส ณ วันนี้ การต่อสู้ของกรรมกรยังคงต้องดำเนินต่อไป เพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรีของชนชั้นกรรมาชีพ ให้เชื่อมั่นในพลังของเรา ต้องปลดปล่อยโซ่ตรวนทางความคิดที่คอยแต่พึ่งพา ร้องขอและยอมจำนน ไม่นำพาการต่อสู้ด้วยตนเอง เพื่อปลดปล่อยโซ่ตรวนของการกดขี่ขูดรีดทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง เฉกเช่นบรรพบุรุษของเราที่ได้ต่อสู้เพื่อทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่าง เสียสละแม้กระทั่งชีวิต เพื่ออนาคตของลูกหลานกรรมกรของเราและสังคมใหม่ สถานการณ์การเมืองปัจจุบันเป็นสงครามแย่งชิงอำนาจส่งผลให้ 4 เสาหลักเศรษฐกิจกำลังป่วยขั้นโคม่า คือการบริโภคหดตัวลงมาต่อเนื่อง มาอยู่ที่ 59.7 ต่ำสุดในรอบ 12 ปี การลงทุนภาคเอกชนหดตัวลงต่อเนื่อง ทั้งปริมาณนำเข้าสินค้า ยอดจำหน่ายรถยนต์ การลงทุนหมวดก่อสร้าง นักลงทุนหยุดรอนโยบายส่งเสริมการลงทุน จากบอร์ดบีโอไอ ชุดใหม่ ที่มีปริมาณคั่งค้างอยู่มูลค่า 800,000 บาท การใช้นโยบายภาครัฐ เจอทางตันหลังยุบสภา เลือกตั้งเป็นโมฆะ จัดตั้งรัฐบาลใหม่ไม่ได้ รัฐบาลรักษาการมีข้อจำกัดการเบิกจ่ายงบประมาณ ทั้งงบเก่าและงบใหม่ และการส่งออกขยายตัวไม่ถึง 51% ส่งผลกระทบต่อการจ้างงานและแนวโน้มมีการว่างงานเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะเดือนมีนาคม2557 สูงถึง 2.43 แสนคน สภาองค์การลูกจ้างสภาศูนย์กลางแรงงานแห่งประเทศไทย พิจารณาจากข้อมูลข้างต้น จะทำให้กรรมกรว่างงานมากขึ้นในเดือนต่อไป ตราบใดที่ยังไม่มีการเลือกตั้ง นำไปสู่การมีรัฐบาลใหม่ให้เร็วที่สุด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นกับนักลงทุน ทั้งในและต่างชาติ ดังนั้น ให้องค์กรที่รับผิดชอบดำเนินการให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว โดยเฉพาะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อคลี่คลายสถานการณ์การว่างงานดังกล่าว จึงแถลงมาให้ทราบโดยทั่วกัน สภาองค์การลูกจ้างสภาศูนย์กลางแรงงานแห่งประเทศไทย 1 พฤษภาคม 2557 |
แถลงการณ์ : สหพันธ์แรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอฯ
ด้วยวันที่ 1 พฤษภาคมของทุกปี เป็นวันกรรมกรสากล หรือ May Day สหพันธ์แรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอ การตัดเย็บเสื้อผ้าและผลิตภัณฑ์หนังแห่งประเทศไทย (ส.พ.ท.) ร่วมกับองค์กรต่างๆ ได้กำหนดจัดงานวันกรรมกรสากลเหมือนเช่นทุกๆ ปี เพื่อร่วมรำลึกถึงวันที่กรรมกรทั่วโลกลุกขึ้นสู้เพื่อชีวิตใหม่ ต่อต้านการบังคับข่มขู่ และการกดขี่ข่มเหงทุกรูปแบบ ให้คนหลุดพ้นจากความหิวโหย ความยากแค้นและไร้ศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ ถึงแม้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กรรมกรและประชาชนผู้รักความเป็นธรรมได้ต่อสู้มาอย่างต่อเนื่อง แต่หาได้หลุดพ้นจากความหิวโหย การกดขี่ ขูดรีด หรือมีสิทธิเสรีภาพมากกว่าเดิมไม่ อันเนื่องมาจากว่าพวกเรายังไม่สามารถหลุดพ้นจากกรอบของระบบทุนนิยมและอำมาตย์นิยมได้อย่างแท้จริง โดยเฉพาะในปัจจุบันการกดขี่ขูดรีดจากระบบทุนนิยมยิ่งทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากสถานการณ์ทางการเมืองในอดีตชนชั้นผู้กดขี่ขูดรีดได้สมคบกันใช้ความรุนแรง และปราบปรามเข่นฆ่าประชาชนอย่างโหดเหี้ยมหลายครั้ง เช่น การรัฐประหาร 2490 การรัฐประหาร 2501 เหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 เหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 เหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 2535 การรัฐประหาร 2549 การปราบปรามประชาชน เดือนเมษายน 2552 และการปรามปราบประชาชนครั้งใหญ่เดือนเมษายน-พฤษภาคม 2553 ปัจจุบันความขัดแย้งในสังคมไทยเป็นความขัดแย้งระหว่างประชาชนกับทุนผูกขาดอนุรักษ์นิยมและทุนนิยมเสรีเนื่องจากกลุ่มทุนเหล่านี้ ต้องการทำลายขบวนการ การรวมตัวของประชาชนคนเสื้อแดง ไม่ยอมให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี พ.ศ. 2550 ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการกำจัดขบวนการประชาธิปไตยของประชาชน ฉะนั้นสหพันธ์แรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอ การตัดเย็บเสื้อผ้าและผลิตภัณฑ์หนังแห่งประเทศไทย (ส.พ.ท.) ร่วมกับองค์กรต่างๆ จึงได้กำหนดจัดงานวันกรรมกรสากลในวันพฤหัสบดีที่ 1 พฤษภาคม 2557 เพื่อรำลึกถึงวีรชนทั่วโลกที่ลุกขึ้นมาต่อสู้และร่วมกันต่อสู้ต่อไปในประเด็นสำคัญดังนี้ 1. กกต.ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว 2. ไม่เอานายกรัฐมนตรีมาตรา 7 และรัฐประหารทุกรูปแบบ 3. รัฐต้องให้สัตยาบันอนุสัญญา ILO 87,98 4. สังคมไทยต้องเป็นรัฐสวัสดิการ 5. รัฐต้องเก็บภาษีแบบก้าวหน้า 6. ค่าจ้างจะต้องพอเพียงต่อการดำรงชีพ 7. รัฐต้องจัดสรรงบประมาณแผ่นดินเพื่อการพัฒนาสหภาพแรงงาน สหพันธ์แรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอ การตัดเย็บเสื้อผ้าและผลิตภัณฑ์หนังแห่งประเทศไทยจะร่วมกับพี่น้องชนชั้นผู้ใช้แรงงานและประชาชนทั้งมวล ดำเนินการรณรงค์ในเรื่องดังกล่าว
ด้วยความสมานฉันท์ 1 พ.ค. 2557 สหพันธ์แรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอฯ(TWFT), กลุ่มสหภาพแรงงานอุตสาหกรรมเบอร์ล่า (LUBG) องค์การแรงงานเพื่อประชาธิปไตย (WOD), สมาพันธ์กรรมกรเพื่อประชาธิปไตย , กรรมกรแดงเพื่อประชาธิปไตย |