ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ยกฟ้อง ‘ทิชา ณ นคร’ คดีหมิ่นประมาท พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ ชี้แสดงความเห็นโดยสุจริต ปกป้องสิทธิของสตรี
22 เม.ย.2557 ห้องพิจารณาคดี 405 ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลฎีกามีคำพิพากษายืน ยกฟ้องตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ในคดี พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ เป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการฟ้อง ทิชา ณ นคร หรือ ป้ามล ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนบ้านกาญจนาภิเษก ข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา
โดยก่อนหน้านี้ ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนบ้านกาญจนาภิเษก เขียนบทความและให้สัมภาษณ์ลงตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์มติชน เดือนมิถุนายน 2546 ต่อกรณีข้าราชการตำรวจระดับสูงคนหนึ่งมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมส่อเจตนาในทางชู้สาวกับนักข่าวหญิง
ภาพจากเฟซบุค iLaw
คดีนี้ในศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง โดยให้เหตุผลว่าบทความดังกล่าวไม่ได้กล่าวถึงโจทก์ร่วมโดยตรง จึงไม่ใช่ผู้เสียหายตามฟ้อง ต่อมาโจทก์อุทธรณ์ และศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น โดยให้เหตุผลว่า แม้ในบทความของทิชาจะไม่ได้ระบุชื่อโจทก์ร่วมโดยตรง แต่ช่วงเวลานั้น ประชาชนต่างทราบว่า หมายถึงโจทก์ร่วม ซึ่งจำเลยเห็นว่า เรื่องดังกล่าวเป็นปัญหาสังคม จึงพยายามชี้ให้เห็นปัญหา เพื่อร่วมกันแก้ไข โดยแสดงความเห็นในมุมของสตรี โดยสุจริต ไม่ได้มีเจตนาหมิ่นประมาทโจทก์ร่วม
คำพิพากษาศาลฎีกาสรุปได้ว่า ก่อนที่จำเลยจะให้สัมภาษณ์และเขียนบทความลงหนังสือพิมพ์ มีข่าวเกี่ยวกับพฤติกรรมของโจทก์ปรากฏตามหน้าหนังสือพิมพ์ต่างๆ อยู่ก่อนแล้ว ไม่ใช่เริ่มจากบทสัมภาษณ์และบทความของจำเลยเป็นคนแรก อีกทั้งจำเลยก็ทำงานในองค์กรที่เกี่ยวกับสตรี ย่อมอยู่ในวิสัยที่จะแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตเพื่อปกป้องสิทธิของสตรีไม่ให้ถูกคุกคามทางเพศ และเนื้อหาในบทสัมภาษณ์และบทความก็เป็นเรื่องที่มุ่งนำเสนอปัญหาให้นายกรัฐมนตรีรับทราบว่าพฤติกรรมตามข่าวที่เกิดขึ้นเป็นประเด็นทางสังคมที่คุกคามต่อความปลอดภัยและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้หญิง แม้จะมีการอ้างพฤติกรรมในทำนองชู้สาว แต่ก็เป็นการอ้างจากข่าวที่ปรากฏตามหน้าหนังสือพิมพ์มาก่อนหน้านี้ ไม่ใช่เรื่องที่จำเลยอ้างขึ้นมาเอง การกระทำของจำเลยจึงเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต จึงไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและอุทธรณ์
ที่มาเฟซบุค iLaw
อ่านรายละเอียดคดีได้ที่ http://freedom.ilaw.or.th/case/569#detail