เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ยันโคล่าไม่ได้ไปทำลายแคลเซี่ยมในน้ำนม หลังมีคลิปทดลองผสมเครื่องดื่ม 2 ชนิดเข้าด้วยกันแล้วเกิดตะกอน ระบุเป็นปรากฏการณ์ธรรมดาเมื่อโปรตีนถูกกับกรด
ตัวอย่างคลิปการทดลองนำน้ำนมผสมลงเครื่องดืมโคล่า
11 เม.ย.2557 เมื่อเวลา 22.00 น. ผศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "Jessada Denduangboripant"ยืนยัน โคล่าไม่ได้ไปทำลายแคลเซี่ยมในน้ำนม จากกรณีความกังวลหลังมีคลิปการทดลองผสมนมลงไปในเครื่องดืมโคล่าแล้วเกิดการจับตัวเป็นตะกอน
โดย ผศ.ดร.เจษฎา ระบุว่าตะกอนดังกล่าวที่เกิดขึ้นกลังนมกับโคล่าผสมกันนั้นเป็นธรรมดาเมื่อโปรตีนถูกกับกรด เช่น กรดฟอสฟอริกและกรดคาร์บอนิกในโคล่า หรือ แม้แต่น้ำส้ม น้ำมะนาว เป็นต้น โปรตีนในน้ำนมก็จะเสียสภาพเกิดเป็นก้อนนมแยกตัวจากน้ำ ขณะที่สีดำๆ ก็มาจากสีของโคล่า ซึ่งทำจาก คาราเมล น้ำตาลไหม้ โดยไม่อันตราย
อย่างไรก็ตาม ผศ.ดร.เจษฎา เตือนด้วยว่าหากกินนมผสมโคล่าหรือกระทิงแดง ก็อาจจะปวดท้อง เนื่องจากก้อนนมหรือตะกอนดังกล่าว สำหรับบางคนแล้วอาจจะย่อยยาก
ทั้งนี้มีผู้สอบถามด้วยว่าการดื่มน้ำอัดลม มีผลต่อสมดุลแคลเซียมในร่างกาย ทำให้เกิดการสูญเสียมวลกระดูกหรือฟันหรือไม่ ผศ.ดร.เจษฎา ได้ชี้แจงว่า "มีคนพูดไปเองเยอะครับ แต่ไม่หลักฐานการวิจัยทางวิทยาศาสตร์รองรับว่าโคล่าจะทำให้ร่างกายเสียสมดุลแคลเซี่ยมอย่างว่าจริง สิ่งที่ค้นพบนั้น จริงๆแล้วกลับพบว่าเกี่ยวข้องกับนิสัยการบริโภคมากกว่า เช่น ในแสกนดิเนเวีย ผู้หญิงที่ชอบกินโคล่า จะไม่ค่อยกินนม ทำให้ขาดแคลเซี่ยม เลยมีกระดูกพรุนง่ายครับ"
สำหรับเรื่องฟันผุนั้น ผศ.ดร.เจษฎา กล่าวด้วยว่าหากกินน้ำหวาน น้ำชาเขียว แล้วไม่แปรงฟัน ก็ฟันผุได้ทั้งนั้น เรื่องกินแล้วอ้วน ก็เช่นกัน
ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai