"มูลนิธิกระจกเงา"ซุ่มสังเกตพฤติกรรมขอทานเด็ก พบต้องนั่งขอทานจนมืดค่ำก่อนนั่งรถไฟฟ้ากลับที่พัก โดยเตรียมวางแผนช่วยเหลือเพราะเด็กควรอยู่ในห้องเรียนไม่ใช่ข้างถนน
11 เม.ย. 2557 - วันนี้ (11 เม.ย.) โครงการรณรงค์ยุติธุรกิจเด็กขอทาน มูลนิธิกระจกเงา ได้โพสต์สเตตัสหลังจากเมื่อวันที่ 10 เม.ย. ได้ไปสังเกตพฤติกรรมเด็กขอทานบริเวณสะพานลอยทางเชื่อมสถานีรถไฟฟ้ากับห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านชานเมือง โดยมีรายละเอียดดังนี้
"เมื่อวานนี้เราลงพื้นที่เพื่อสังเกตพฤติกรรมของเด็กขอทานคนหนึ่ง มีเรื่องมาเล่าให้ฟังดังนี้ครับ
1. เด็กที่เราไปเฝ้าเป็นเด็กชาย อายุประมาณ 12 ปี ลักษณะรูปพรรณสันฐานน่าจะเป็นเด็กกัมพูชา เด็กคนนี้จะมานั่งขอทานเป็นประจำทุกวันบนสะพานลอยทางเชื่อมระหว่างสถานีรถไฟฟ้ากับห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านชานเมือง
2. นอกจากเด็กขอทานคนนี้แล้ว บนสะพานลอยยังมีผู้หญิงอุ้มเด็กทารก รวมถึงคุณยายที่พาเด็กชาย อายุประมาณ 4 - 5 ปี มาขอทานอีกด้วย
3. เราไปถึงพื้นที่ดังกล่าวตอนประมาณ 14.00 น. กลุ่มขอทานทั้งหมดได้มานั่งขอทานกันอยู่ก่อนแล้ว
4. คนที่เดินผ่านไป - มาให้เงินกับเด็กเยอะพอสมควร ซึ่งน่าจะมากกว่า 100 คน ถ้าคิดเป็นขั้นต่ำว่าทุกคนให้คนละ 5 บาท เด็กคนนี้น่าจะมีรายได้เฉลี่ย 500 บาท
5. เด็กคนดังกล่าวนั่งขอทานอยู่จนถึงเวลา 21.00 น. ซึ่งหมายความว่าเด็กนั่งอยู่กับที่เพื่อขอทานถึง 7 ชั่วโมงเลยทีเดียว
6. หลังจากที่เด็กขอทานเสร็จแล้ว เราคาดการณ์ว่าเด็กคงเดินทางกลับโดยใช้รถประจำทาง แต่ผิดคาดเด็กนำเศษเหรียญที่ได้จากการขอทานไปกดซื้อบัตรรถไฟฟ้าเพื่อเดินทางกลับที่พัก ซึ่งนอกจากเด็กคนนี้แล้ว กลุ่มขอทานในพื้นที่นี้ล้วนใช้บริการรถไฟฟ้ากันทั้งสิ้น
7. เด็กนั่งไปจนถึงสถานีรถไฟฟ้าแห่งหนึ่ง ก่อนจะนั่งรถประจำทางต่อไปไม่กี่ป้ายและนั่งรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างต่อเพื่อเข้าที่พัก เราติดตามไปจนถึงแหล่งที่พัก พบว่าเป็นบ้านไม้ 2 ชัั้น ซึ่งข้างในน่าจะแบ่งเป็นห้องเช่าหลายๆ ห้อง
8. เราเตรียมวางแผนเพื่อจะทำการลงพื้นที่ช่วยเหลือเด็กคนดังกล่าวอีกครั้ง เพราะแม้ว่าเด็กจะมิได้ถูกใครบังคับให้มาขอทาน แต่อย่างไรก็ตามเด็กวัยนี้ควรอยู่ในห้องเรียนไม่ใช่ข้างถนนครับ
#หยุดการสร้างบุญบนธุรกิจบาป
โครงการรณรงค์ยุติธุรกิจเด็กขอทาน มูลนิธิกระจกเงา"
โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 4 เม.ย. เฟซบุ๊ก มูลนิธิกระจกเงา ได้โพสต์จดหมายเปิดผนึกแสดงความไม่เห็นด้วยกับเนื้อหาบางส่วนของโฆษณา "Unsung Hero"ของไทยประกันชีวิตที่มีภาพการให้เงินเด็กขอทาน โดยในจดหมายเปิดผนึกตอนหนึ่งระบุว่า "การให้เงินกับเด็กขอทานถือเป็นการส่งเสริมการค้ามนุษย์ทางอ้อมรวมถึงจะทำให้เกิดค่านิยมในการนำเด็กมาขอทานเพิ่มมากขึ้นอีกด้วยซึ่งโอกาสที่เด็กจะได้ไปเรียนหนังสือนั้น ต้องเกิดจากการแจ้งเบาะแสไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยเหลือเด็กออกจากข้างถนนและผลักดันเด็กเข้าสู่ระบบการศึกษาครับ ไม่ใช่จากการให้เงินกับเด็กขอทานเป็นประจำทุกวัน"
"เราหวังว่าทาง บริษัทไทยประกันชีวิต จะมีการทบทวนเนื่้อหาในส่วนนี้ เนื่องจากส่งผลกระทบโดยตรงกับปัญหาการค้ามนุษย์ในรูปแบบการนำเด็กมาขอทาน และจะสร้างความเชื่อที่ผิดให้กับคนในสังคมเกี่ยวกับการช่วยเหลือเด็กขอทานด้วยครับ"ตอนหนึ่งของจดหมายเปิดผนึกระบุ