เลขาธิการ กปปส. ระบุเคลื่อนขบวนไปสักการะอนุสาวรีย์ ร.5 - ร.7 เพื่อประกาศเจตนารมณ์ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง จะไม่ยอมให้มีการเลือกตั้งและการเปิดสภาอย่างเด็ดขาดจนกว่าจะปฏิรูปเสร็จ โดยจะเร่งเกมให้ชนะภายในเมษายนนี้ และเมื่อได้อำนาจรัฐเป็นรัฏฐาธิปัตย์แล้วจะตั้งสภาประชาชน ปฏิรูปประเทศโดยใช้เวลาปีครึ่ง
ที่มาของภาพ: เพจสุเทพ เทือกสุบรรณ
ตามที่เมื่อวานนี้ (29 มี.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. นำผู้ชุมนุมเดินขบวนจากสวนลุมพินี มายังลานพระบรมรูปทรงม้า เพื่อสักการะพระบรมรูปทรงม้า รัชกาลที่ 5 เพื่อความเป็นสิริมงคล และประกาศเจตนารมณ์ต้องปฏิรูปประเทศให้แล้วเสร็จก่อนมีการเลือกตั้งใหม่ เพื่อนำระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์กลับคืนสู่ประชาชน จากนั้นเคลื่อนขบวนไปยังรัฐสภา สักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 7 โดยนายสุเทพ กล่าวย้ำว่าจะไม่ให้รัฐสภาเป็นสถานที่ใช้ดำเนินการใดๆ จนกว่าจะได้รับการปฏิรูปอย่างสมบูรณ์ และได้เดินเท้ากลับสวนลุมพินีนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 21.20 น. ที่เวที กปปส. สวนลุมพินี นายสุเทพขึ้นปราศรัยว่า วันนี้เป็นวันประวัติศาสตร์ที่จะได้จารึกถึงความรัก ความสามัคคี ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวของประชาชนผู้รักชาติ รักแผ่นดินที่เสียสละอย่างที่ไม่สามารถจะบรรยายได้หมด ได้ออกมาแสดงพลังร่วมกันด้วยความรักที่ยิ่งใหญ่คือ รักประเทศไทย รักชาติไทย รักแผ่นดินไทย รักระบอบประชาธิปไตย
ต้องเรียนกับพี่น้องว่า วันนี้เป็นวันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดวันหนึ่งในการต่อสู้ของมวลมหาประชาชน และจะต้องเป็นวันที่มีผู้คนกล่าวขวัญถึงไปอีกนาน ประวัติศาสตร์ในเรื่องนี้ พี่่น้องมวลมหาประชาชนทุกท่าน ทุกฝ่าย ทุกองค์กรร่วมเขียนขึ้นด้วยหัวใจที่แข็งแกร่ง ห้าวหาญ สมควรได้รับการชื่นชม เชื่อว่าเหตุการณ์ในวันนี้พวกเราทั้งหลายจะได้ไปพูดคุยบอกเล่าให้ญาติมิตร ลูกหลาน ได้ร่วมรับรู้ว่าสิ่งที่เราทั้งหลายร่วมกันทำมาจากเช้ามืดวันนี้ จนถึงขณะนี้ เป็นการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่และสมควรแก่การยกย่อง
เพราะว่าเป็นการต่อสู้ของมวลมหาประชาชนนับล้านคนที่เลือกวิธีการต่อสู้อย่างสันติ สงบ อหิงสา ไม่มีที่ไหนในโลกที่คนเป็นล้านๆ คนออกมาชุมนุมต่อสู้แล้วไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับใครเลย ไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายกับผู้หนึ่งผู้ใดหรือกับสังคมโดยรวมแต่อย่างใดทั้งสิ้น ตรงกันข้ามบรรยากาศในการต่อสู้วันนี้เต็มไปด้วยความคึกคัก แจ่มใส สวยงาม สวยจนเห็นแล้วน้ำตาไหลครับ
ผมตื่นแต่เช้าเตรียมตัวทีจะออกมาเดินถนนกับพี่น้องทั้งหลายตามที่เราได้นัดหมายกันไว้ แต่กว่าจะมาถึงบริเวณพิธีที่เราจะเริ่มถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ ร. 6 เจอกล้องถ่ายรูปซะเพลีย เยอะจริงๆ กล้องถ่ายรูปสมัยนี้ แต่ผมก็มีความสุขที่ได้ถ่ายรูปกับพี่น้องทั้งหลายในวันประวัติศาสตร์วันนี้
ทางฝ่ายบริหารจัดการเดินขบวน วางแผนขบวนไว้อย่างสวยสดงดงาม ขบวนที่ 1 ประกอบด้วยกลุ่มนั้น องค์กรนี้ มหาวิทยาลัยโน้น พี่น้องจังหวัดนี้ ใครต่อใคร จัดเตรียมไว้หมด แต่เอาเข้าจริงๆพี่น้องประชาชนมามากมายกว่าที่เราคาดคิดไว้ แล้วทำอย่างที่เราคาดไว้เหมือนกันว่าฉันไม่สนขบวนไหน ฉันจะเข้าตรงนี้ ไม่รู้จักกันมาก่อนก็จะเป็นเพื่อนกันวันนี้ ไม่เห็นหน้ากันมาก่อนจะเป็นญาติกันวันนี้ ใครจะทำไม ผู้ใหญ่สาทิตย์ คุณณัฐฐพล วางแผนให้ผมไปยืนบนแท่นให้กำลังใจริ้วขบวนที่จะเดินผ่านไปเรื่อยๆ แล้วผมก็จะออกเดินพร้อมขบวนที่ 4 จะอยู่ประมาณกลางๆ ของขบวนประชาชนชุดใหญ่ แต่ที่ไหนได้ไม่มีใครออกเดินยืนอยู่กับผมตรงนั้น ขบวนก็เคลื่อนไม่ได้ ในที่สุดผมก็ตัดสินใจ บอกว่าถ้าอย่างนั้นผมเดินไปกับขบวนชุดแรก ขบวนจะได้เคลื่อนไปได้ ผู้ใหญ่สาทิตย์ก็ค้อนผมว่าเสียแผน แต่พอผมเริ่มออกเดิน พี่น้องก็เดินไปกับผม แล้วก็ร้องเพลง ร่าเริง คล้องแขนกันเดินกันไป คุณณัฐฐพลก็วางแผนว่าให้ผมดูความสวยงามทุกขบวนให้ได้ พอไปถึงสยามดิสคัฟเวอรี่ ก็พยายามให้ผมไปดูริ้วขบวนที่เตรียมการไว้ แสดงให้ผมดูถึงความสวยงาม พอพี่น้องเห็นผมยืนก็เลยยืนตรงนั้น นึกว่าผมจะปราศรัย ขบวนก็ไม่ไปอีก คุณณัฐฐพลก็จนแต้มเลย พี่จะไปไหนเชิญพี่ตามสบายเลย
เมื่อผ่านหน้าวังศุโขทัย ผมเห็นที่ว่างอยู่ ผมเลยหยุดนิดหนึ่งให้ขบวนเขาเดินเคลื่อนไปก่อน เสียดายไม่ได้เห็นความสวยงามทุกขบวนได้ดูจากคลิปที่คุณอัญชะลีนำมาแสดงให้เดิน ทั้งนี้ตลอดเวลาที่เดินไปสองฟากฝั่งถนนมีพี่น้องออกมาให้กำลังใจ วันนี้ร้อนมากก็กังวลใจเพราะมีรุ่นใหญ่เยอะ ประเภท ส.ว. ผมก็กังวลใจมาก แต่ก็อุ่นใจเพราะบุคลากรทางการแพทย์เขาเพียบพร้อมจริงๆ ขอถือโอกาสนี้กราบขอบพระคุณบรรดาคุณหมอ พยาบาล ทางการแพทย์ท่านได้ทำหน้าที่สุดยอด ดูแลพี่น้องเราอย่างดีเยี่ยมเลย นอกจากนี้สุเทพได้ขอบคุณผู้ที่นำอาหาร น้ำดื่มมาแจก และขอบคุณทุกกลุ่มทุกองค์กร ที่นำของมาแจก และขอบคุณเจ้าหน้าที่ของ กทม. ที่มาดูแล สุเทพกล่าวด้วยว่า "ผมถึงบอกว่าบรรยากาศในการเดินขบวนวันนี้มันสวยสดงดงาม ยังนึกไม่ออกมาเคยมีขบวนต่อสู้ทางการเมืองที่ไหนที่สวยสดงดงามอย่างที่พี่น้องชาวไทยเราทำวันนี้ ต้องถือว่าวันนี้ยอดเยี่ยม"
ต่อมาสุเทพกล่าวว่า เมื่อเดินไปถึงลานพระบรมรูปฯ จะนัดองค์กรต่างๆ ทำพิธีสักการะพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 แต่ไปรออยู่เป็นชั่วโมงไม่มีทีท่าว่าขบวนหลังๆ จะตามไปถึง พื้นที่ลานพระบรมรูปก็เต็มไปหมดแล้ว ก็เลยตัดสินใจว่าเอาเฉพาะกลุ่มที่ไปถึงก็แล้วกันได้ถวายสักการะ และทำพิธีที่นั่น
สำหรับพี่น้องต่างจังหวัดนะครับ ขอกราบเรียนอธิบายว่าพระพุทธเจ้าหลวง หรือรัชกาลที่ 5 พระองค์ท่านเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทันสมัยมาก และได้ทรงปฏิรูปการบริหารราชการของประเทศไทย ในทุกด้าน ทั้งเรื่องการปกครอง ทั้งการบริการประชาชน การแพทย์ สาธารณสุข กฎหมายทุกอย่าง โดยเฉพาะการคมนาคม ประเทศไทยในสมัยรัชกาลที่ 5 เราเจริญพอๆ กับญี่ปุ่นเรียกว่าแข่งกันเลย เพิ่งมาล้าหลังตอนเป็นประชาธิปไตยมากๆ เลยปฏิรูปหรือพัฒนาช้าไป สมัยพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวท่านได้ปฏิรูปประเทศอย่างจริงจัง วันนี้มวลมหาประชาชนได้ประกาศเจตนารมณ์ต่อหน้าพระพักตร์ของพระพุทธเจ้าหลวง ว่าจะดำเนินรอยตามเบื้องพระยุคลบาท คือจะปฎิรูปประเทศไทยขนานใหญ่ และจะต้องทำให้ได้ด้วยมือของประชาชน ไม่หวังพึ่งพรรคการเมือง นักการเมืองแล้ว
และ ณ ที่นั้น หลังจากที่ได้ถวายราชสดุดี ผมก็ได้ประกาศเจตนารมณ์ของมวลมหาประชาชนว่า เราจะทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจ ต่อสู้เพื่อให้สามารถปฏิรูปประเทศไทยให้ได้ด้วยมือของประชาชน นั่นเป็นสัตย์ปฏิญาณที่เราประกาศต่อหน้าพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 เป็นความสำคัญของนักสู้เพื่อชาติ เพื่อแผ่นดินทุกคน
ออกจากตรงนั้นเราก็เดินต่อไปที่รัฐสภา เมื่อผมไปถึงพี่น้องประชาชนแน่นหมดแล้ว ผมและแกนนำทั้งหลายก็ขึ้นไปถวายสักการะพระบรมรูปพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 7 ของกรุงรัตนโกสินทร์ พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์เป็นกษัตริย์ที่พระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับแรกให้แก่คนไทย แล้วได้แสดงพระราชปณิธานไว้ชัดเจนว่าพระองค์ท่านยินดีสละพระราชอำนาจซึ่งเป็นของพระมหากษัตริย์ให้กับปวงชนชาวไทยทั้งมวล โดยมีพระราชปณิธานแน่วแน่ว่าให้อำนาจนี้ถึงมือประชาชน เป็นของประชาชนจริงๆ ไม่ได้ต้องการให้อำนาจอธิปไตยไปอยู่กับคณะหนึ่งคณะใด พระองค์ท่านไม่ยินยอม เมื่อมีคนทำอย่างนั้นก็ทรงสละราชสมบัติเพราะมีคนนำพระราชอำนาจไปใช้ ทั้งที่พระองค์มุ่งพระราชทานให้ประชาชน
วันนี้เราได้ถวายสักการะ และได้ประกาศเจตนารมณ์ว่าเราประชาชนจะต่อสู้เพื่อให้อำนาจอธิปไตยกลับมาเป็นของประชาชนชาวไทย และเราจะใช้อำนาจนั้นปฏิรูปประเทศนี้ให้เป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์ เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบจริงๆ
ผมเป็นตัวแทนของมวลมหาประชาชนประกาศเจตนารมณ์ชัดเจน และประกาศไว้เป็นการเด็ดขาดว่า "เราจะไม่ยอมให้มีการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรขึ้นได้อีกเป็นอันขาด นอกจากจะมีการปฎิรูปให้เสร็จสิ้นเรียบร้อยก่อน มิฉะนั้นอย่าหวังเลยจะว่ามีสภาผู้แทนราษฎร"
"คำประกาศนี้เป็นเรื่องสำคัญ เพราะขณะนี้การเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ เป็นโมฆะไปแล้ว ไม่มีผลโดยสิ้นเชิง แต่ฝ่ายรัฐบาลทรราชย์พยายามผลักดัน พยายามใช้เล่ห์ต่างๆ นานา หว่านล้อม เกลี้ยกล่อม ให้ผู้คนในบ้านเมืองนี้เข้าใจผิด คิดว่าประชาธิปไตยต้องไปเลือกตั้งเท่านั้น แต่เรามวลมหาประชาชนได้รู้แจ้งเห็นชัดแล้วว่า การเลือกตั้ง ตามกฎหมายที่มีอยู่ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายพรรคการเมืองหรือกฎหมายเลือกตั้ง ไม่สามารถทำให้ประเทศนี้ปกครองโดยระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ได้ ในทางตรงกันข้าม กลับเปิดช่องให้ทุนสามานย์เข้ามาครอบงำ การเมืองของประเทศ เกิดการทำธุรกิจการเมืองขึ้น และตัวการที่ทำให้ระบบทุนสามานย์ ธุรกิจการเมืองได้ครอบงำการเมืองประเทศไทยในขณะนี้คือระบอบทักษิณ เพราะฉะนั้นเรามวลมหาประชาชนจึงได้ประกาศว่าต้องขจัดระบอบทักษิณให้หมดสิ้นไป จากการเมืองประเทศไทย และลงมือปฏิรูปโดยทันที ก่อนจะไปเลือกตั้งกันอีกครั้งหนึ่ง"
"คำประกาศของเราวันนี้ต้องการสื่อไปถึงบรรดา องค์กรที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการเลือกตั้ง คือ กกต. และฝ่ายที่พยายามให้มีการเลือกตั้ง คือกลุ่มของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร บอกกันให้รู้ให้ชัดไปเลยว่าเราไม่ยินยอมให้มีการเลือกตั้งจนกว่าจะมีการปฏิรูปประเทศเสร็จ นี่เป็นคำประกาศที่เบ็ดเสร็จ เด็ดขาด มีความหมายชัดเจนในตัวเอง"
"ส่วนถ้าฝ่ายผู้มีอำนาจยังสงสัยอยู่ว่าเราประกาศอย่างนี้ เราทำได้หรือไม่ เราก็จะขออนุญาตเรียนให้ทราบว่าคราวที่แล้วการเลือกตั้งเมื่อ 2 ก.พ. มีเฉพาะไม่กี่แห่ง 20-30 แห่งเท่านั้นที่สมัครไม่ได้ เลือกตั้งไม่ได้ แต่การรวมตัวแสดงพลังของมวลมหาประชาชนในวันนี้ บอกให้ท่านทั้งหลายได้รู้ชัดว่า ถ้ายังดื้อดึงดันให้มีการเลือกตั้งกันอีก แม้แต่ใน กทม. ก็จะไม่สามารถดำเนินการให้มีการเลือกตั้งได้อย่างแน่นอน"
"รวมถึงจังหวัดต่างๆ ที่วันนี้มีมวลมหาประชาชน ได้ออกมาเจตนารมณ์ แสดงพลังของประชาชนเหมือนที่พวกเราได้ดำเนินการในกรุงเทพฯ วันนี้เช่นกัน นั่นหมายความว่าอีกหลายสิบจังหวัดในประเทศไทย จะไม่ยอมให้จัดการเลือกตั้งได้ ถ้ายังมีการดื้อดึงดันให้มีการเลือกตั้งกันอีก"
"จากการที่มวลมหาประชาชนได้ออกมาแสดงพลังพร้อมเพรียงกันจำนวนมากมายมหาศาล เป็นสิ่งแสดงให้เห็นชัดว่ายิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่มีความชอบธรรมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ต่อไป เพราะประชาชนไม่ยอมรับให้ปกครองบริหารประเทศนี้อีกต่อไปโดยเด็ดขาด"
ก่อนหน้านี้เราได้ประกาศแล้ว และวันนึ้เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ประชาชนออกมายืนยันว่านอกจากไม่มีความชอบธรรมทางกฎหมายแล้ว ยังไม่มีความชอบธรรมทางการเมืองที่จะเป็นรัฐบาลอีกต่อไป เพราะประชาชนเจ้าของประเทศไม่ยินยอมไม่ยอมรับ ปรากฎการณ์ที่ประชาชนออกมาแสดงพลังกันอย่างพร้อมเพรียงเช่นนี้ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบรรดาข้าราชการพลเรือน ตำรวจ ทหาร จะได้ตระหนักว่ามวลมหาประชาชนได้ยืนหยัดประกาศก้องถึงเจตนารมณ์ที่ต้องการให้ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ออกไปเสียจากอำนาจแล้วเอาอำนาจอธิปไตยคืนให้ประชาชน เพื่อตั้งรัฐบาลของประชาชนและปฎิรูปประเทศไทย
นี่คือสิ่งที่ข้าราชการทั้งหลายสมควรต้องรู้ และจะได้ตระหนักชัดว่าวันนี้ที่ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พยายามยื้อยุดเกาะเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ไม่เหลืออำนาจอะไรในมือแล้ว อยู่ไปก็ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง สักแต่ให้เขาเรียกว่าเป็นนายกรัฐมนตรีเท่านั้นเอง ที่เหลือทำอะไรไม่ได้เลย ถือเป็นรัฐบาลที่หมดสภาพ ล้มเหลวแล้ว ไม่มีสภาพเป็นรัฐบาลแล้ว
แต่ว่า เรื่องนี้จะสมบูรณ์ได้ยุติลงอย่างสมบูรณ์ได้เมื่อบรรดาพี่น้องข้าราชการ ไม่ว่าจะเป็นพลเรือน ตำรวจ ทหาร ได้เห็นประจักษ์และมองทะลุว่า ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรและระบอบทักษิณ ไม่มีวันกลับคืนมามีอำนาจโดยผ่านกระบวนการเลือกตั้ง เพราะประชาชนไม่ยอม ถ้าพี่้น้องข้าราชการ พลเรือน ตำรวจ ทหาร เห็นด้วยกับเรื่องนี้ ก็ออกมาประกาศตัวให้ชัดเจนเหมือนพี่น้องกระทรวงสาธารณสุข เมื่อทุกกระทรวงประกาศตัว ความเป็นรัฐบาลของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็หมดสิ้นทันที วันใดที่ข้าราชการประกาศตัว วันนั้นประชาชนก็จะประกาศตัวเป็นรัฏฐาธิปัตย์ มีอำนาจโดยสมบูรณ์ทันทีในวันนั้นเหมือนกัน นี่คือตอนจบของการต่อสู้ องค์กรทุกองค์กร กลไกของรัฐของรัฐในประเทศนี้ขึ้นอยู่กับประชาชนหมดแล้ว ถึงวันนั้นเราก็จะได้ตั้งรัฐบาลประชาชนเพื่อปฏิรูปประเทศ และจะทำให้เสร็จภายใน 1 ปีกับอีก 6 เดือน หลังจากนั้นก็จะเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบและเดินหน้าประเทศต่อไป
เลขาธิการ กปปส. กล่าวด้วยว่า คนที่อยู่ในซีกฝ่ายของระบอบทักษิณ ไม่ยอมเปิดตาดูความเป็นจริง ยกตัวอย่างเฉลิมปรามาสว่าการเดินขบวนของเราในวันนี้อย่างมากก็ไม่เกิน 3 หมื่นคน ถ้าเฉลิมดูอยู่ก็จะบอกว่านายพูดถูก มีประชาชน 3 หมื่นแต่ตกไป เหมือนที่ยิ่งลักษณ์พูด เพราะมันมี 3 หมื่น 1 ล้านคน และเราก็อยากให้นายออกมาพูด เพราะทุกครั้งที่นายพูดเรียกแขกให้เรา นี่่เป็นตัวอย่างของคนทางฝ่ายนั้นที่ไม่เข้าใจว่าพี่น้องประชาชนชาวไทยวันนี้เขามีความคิด คาดหวังกับอนาคตของประเทศไทยอย่างไร คนอย่างเฉลิม ปึ้ง ยิ่งลักษณ์ กิตติรัตน์ ไม่มีวันเข้าใจประชาชน เพราะไม่เคยกอดคอเดินถนนกับใคร คนพวกนั้นไม่มีวันเข้าใจ ไม่มีวันรู้จักหัวใจของประชาชน สิ่งที่พวกนั้นทำคือใช้เงินเป็นอุปกรณ์ในการผูกพันระหว่างเขากับประชาชน ถึงได้มีนโยบายประชานิยม จ้างคนมาเดินขบวน ถึงได้มีการก่อการร้าย เผาบ้าน เผาเมืองในกรุงเทพฯ ที่สำคัญวันนี้จะไปจ้างประชาชนมาเดินขบวนประชาชนก็ไม่เอาแล้ว เพราะเมื่อก่อนประชาชนคิดว่าเป็นการต่อสู้ระหว่างพรรคการเมือง แต่มาวันนี้ไม่ใช่การต่อสู้ระหว่างพรรคการเมืองกับพรรคการเมือง เพราะเราทั้งหลายไม่ใช่พรรคการเมือง ไม่ใชนักการเมือง แต่เป็นมวลมหาประชาชนสู้กับทรราช ที่ปล้นทำลายแผ่นดิน จึงไม่มีประชาชนที่ไปร่วมขบวนกับคนพวกนั้น นี่ประกาศชุมนุม 5 เมษายน ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าพวกคุณมีได้เท่าไหร่
สุเทพกล่าวด้วยว่า ให้ นปช. ระดมคนมาแข่งกัน จะเลือกวันเดียวกันแต่ถนนคนละสายก็ได้ ดูว่าใครจะมากกว่ากัน ถ้าพวกเราแพ้ยินดีส่งมอบแผ่นดินให้คุณ แต่ถ้าพวกคุณแพ้ ต้องเลิกทำชั่วกับแผ่นดินนี้ ออกไปโดยดีเราก็พอใจแล้ว แล้วไม่ต้องมาอ้างกฎหมาย เพราะคำประกาศของเราคือ เราเอาพวกคุณออกแน่นอน ไม่มียิ่งลักษณ์นั่งอยู่ในตำแหน่งขวางอยู่ และไม่ต้องมาเพ้อเจ้อว่าจะต้องมีการเลือกตั้ง ให้พวกคุณไปชุบตัว เพราะเราประกาศแล้วว่าปฏิรูปเสร็จเมื่อไหร่ถึงจะมีการเลือกตั้ง ถ้าประกาศอย่างนี้คุณยังไม่ยอมรับและคิดว่าจะจัดมวลชนมาสู้ ก็เอามาสู้กัน แต่ต้องสู้อย่างสันติ อย่างที่พวกเราทำ ที่พูดอย่างนี้ไม่ได้กลัวอะไร แต่เพราะเรารักสงบ ไม่ใช้วิธีการนอกกฎหมาย แต่ถ้าคุณอยากจะเล่น ก็มีคนที่พร้อมจะเล่น เชิญมาได้เลย แต่ไม่ใช่พวกเรา ผมมีคนที่คอยต้อนรับ พวกผมจะคอยกลับไปเชียรที่บ้าน ดูว่าพวกคุณจะเหลือกี่คนในที่สุด ติดคุกกี่คน เหลือกี่คน
จากนั้น สุเทพ กล่าวด้วยว่า แน่นอนวันนี้ ไม่ใช่วันเผด็จศึก แต่การที่มวลมหาประชาชนออกมาเป็นล้านๆ คนอย่างนี้ มนุษย์ปุถุชนธรรมดาที่มีสติสัมปชัญญะครบถ้วนจะต้องรู้ว่าประชาชนเขาเอาจริง และที่บอกว่าเราอ่อนแรงแล้วนั้น วันนี้เห็นชัดว่าถ้าถึงเวลานัดหมายพี่น้องพร้อมออกมาตามนัดหมาย การต่อสู้ด้วยวิธีสันติ อหิงสา ต้องใช้พลังของประชาชนอย่างนี้ และไม่ใช่ครั้งเดียวชนะ การต่อสู้อย่างสันติ อหิงสา จำเป็นต้องใช้ความมานะพยายาม ความอดทนสูงและต้องใช้ความเสียสละ ผมจึงต้องกราบคารวะทุกท่าน ทุกคืน เพราะ 5 เดือนแล้วที่พี่น้องเสียสละ สมควรแก่การยกย่อง และปรากฎการณ์ที่เราแสดงออกร่วมกันวันนี้ยืนยันได้เลยว่ามวลมหาประชาชนไม่แพ้แน่นอน และเรียนว่าเราจะต้องเอายิ่งลักษณ์ ชินวัตรออกไปให้ได้ภายในเดือนเมษายนนี้ ต้องจบ ปิดเกมให้ได้ ต้องมีการนัดระดมพลอย่างนี้อีก หนสองหน ผมเรียนให้ทราบในเบื้องต้น
"ขอให้พี่น้องภาคภูมิใจ ปิติ มีความสุขที่วันนี้เราได้กอดคอกัน เคียงบ่าเคียงไหล่กันต่อสู้ และนี่คือพลังของมวลมหาประชาชนเราจะใช้พลังอย่างนี้และเพิ่มพูนขึ้นเมื่อจำเป็นจนกระทั่งเราสามารถขับไล่ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรออกไปเอาอำนาจอธิปไตยคืนนี้ และนับหนึ่งปฎิรูปประเทศไทย นั่นแหละที่เราจะกลับบ้านกันด้วยความสุข ผมขอกราบขอบพระคุณทุกท่านด้วยความซาบซึ้งใจ ที่เสียสละมาจากทุกภาค แม้แต่ภาคเหนือและภาคอีสานหลายจังหวัดที่มาในวันนี้ ขอให้มั่นใจว่าสิ่งที่เราทำ หนึ่งเดียวคือแผ่นดินไทย ขอขอบพระคุณด้วยความเคารพอย่างสูงที่ออกมาแสดงพลังต่อสู้ร่วมกันในวันนี้ และเราจะยืนหยัดต่อสู้ต่อไป"สุเทพกล่าว