22 มี.ค. 2557 มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนออกแถลงการณ์ ‘คำวินิจฉัยที่เป็นปฏิปักษ์ต่อประชาธิปไตย’ ต่อกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ตกเป็นโมฆะ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้.-
แถลงการณ์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
เรื่อง คำวินิจฉัยที่เป็นปฏิปักษ์ต่อประชาธิปไตย
กรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ตกเป็นโมฆะ ซึ่งมีผลทำให้ต้องมีการจัดการเลือกตั้งขึ้นใหม่อีกครั้ง นับเป็นคำวินิจฉัยที่เป็นปัญหาต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอย่างสำคัญเพราะจะกลายเป็นการวางหลักการและแนวทางอันเป็นปัญหาต่อไปในอนาคต
คำวินิจฉัยด้วยการให้เหตุผลว่าการไม่มีการจัดการเลือกตั้งใน 28 เขตเลือกตั้งได้เพราะไม่มีผู้สมัคร ซึ่งทำให้ไม่เป็นการจัดการเลือกตั้งทั่วไปในวันเดียวจึงทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ คำวินิจฉัยเช่นนี้จะเปิดทางให้กับบุคคลที่ต้องการขัดขวางการเลือกตั้งในอนาคตสามารถที่จะ “ล้ม” การเลือกตั้งได้อย่างง่ายดายเพราะบรรทัดฐานในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ จะทำให้ผู้ที่ไม่ต้องการระบอบประชาธิปไตยสามารถที่จะทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะได้อย่างไม่ยาก เพียงแต่ขัดขวางไม่ให้เกิดการสมัครเลือกตั้งในเขตใดเขตหนึ่งเท่านั้น ก็จะมีผลให้ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งทั่วไปพร้อมกันในวันเดียวกันและจะทำให้การเลือกตั้งนั้นเป็นโมฆะ
นอกจากนี้แล้ว คำวินิจฉัยให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะเช่นนี้ยังอาจมีผลสืบเนื่องทำให้การขัดขวางการเลือกตั้งที่ได้กระทำขึ้นไม่เป็นความผิด ดังที่เคยมีคำวินิจฉัยกับการกระทำผิดการเลือกตั้งเมื่อ พ.ศ. 2549 เพราะเมื่อการเลือกตั้งได้ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโมฆะ ซึ่งมีผลคำวินิจฉัยต่อมาว่าเมื่อการเลือกตั้งเป็นโมฆะแล้ว บรรดาการกระทำใดๆ อันเป็นการผิดกฎหมายก็ย่อมสิ้นผลไปด้วยเช่นกัน
หากยึดเอาแนวคำวินิจฉัยที่เกิดขึ้นมาแล้ว การขัดขวางการเลือกตั้งของกลุ่ม กปปส.ก็ย่อมที่จะไม่ต้องรับผิด การเลือกตั้งที่เป็นส่วนสำคัญของระบอบประชาธิปไตยก็จะหมดความหมายและความสำคัญลงไปโดยสิ้นเชิง และเป็นเรื่องที่กลุ่มบุคคลที่มุ่งร้ายต่อสังคมประชาธิปไตยสามารถล้มล้างได้โดยง่าย
มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนมีความเห็นว่าคำวินิจฉัยให้การเลือกตั้งวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 เป็นโมฆะ เป็นคำวินิจฉัยที่ขัดต่อหลักการของระบอบประชาธิปไตยและจะนำมาซึ่งปัญหาในสังคมการเมืองไทยอย่างกว้างขวางมากขึ้น
ปัญหาในการปฏิบัติหน้าที่และการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมิใช่เพิ่งปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรกแต่อย่างใด หากเป็นสิ่งที่ปรากฏมาอย่างต่อเนื่องในห้วงเวลาความขัดแย้งของสังคมการเมืองไทยอันสะท้อนถึงข้อบกพร่องที่มีอยู่ในสถาบันนี้อันนำมาสู่คำวินิจฉัยที่ทำให้ปัญหาความขัดแย้งต่างๆ ขยายตัวเพิ่มมากขึ้น จึงจำเป็นที่จะต้องมีการทบทวนและปฏิรูปองค์กรดังกล่าวให้สามารถทำหน้าที่ได้อย่างถูกต้องอยู่บนหลักการที่สอดคล้องกับระบอบประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญ การปฏิรูปซึ่งถูกกล่าวถึงกันอย่างกว้างขวางจึงต้องไม่ใช่เพียงการจำกัดความสนใจไว้ที่นักการเมืองหรือพรรคการเมืองแต่เพียงอย่างเดียว หากต้องครอบคลุมไปถึงบรรดาองค์กรอิสระที่มีส่วนสำคัญต่อการสร้างความขัดแย้งให้ร้าวลึกลงไปในสังคมไทยอีกด้วย
22 มีนาคม 2557
มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai