15 มี.ค. 2557 ครบรอบปีที่ 3 เหตุการณ์ความรุนแรงในซีเรีย มีประชาชนทั่วโลกทั้งในรัสเซีย จีน สหรัฐฯ บางประเทศในแอฟริกาและหลายประเทศในยุโรปได้ชุมนุมจุดเทียนเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ รวมถึงมีการปล่อยบอลลูนสีแดงซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากภาพวาด "เด็กหญิงลูกโป่งสีแดง"ของ "แบงค์ซี"ศิลปินกราฟิตี้ผู้ดัดแปลงผลงานเดิมให้สื่อถึงความรู้สึกต่อเหตุการณ์ในซีเรีย
รูปภาพ "เด็กหญิงลูกโป่งสีแดง"ฉบับดัดแปลงของแบงค์ซี
(ภาพจาก Amnesty International)
เว็บไซต์องค์การแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ระบุว่ามีผู้เข้าร่วมชุมนุมพร้อมกับองค์กรด้านมนุษยธรรมและองค์กรสิทธิมนุษยชน 115 องค์กรจาก 24 ประเทศ พวกเขาได้เรียกร้องให้ผู้นำโลกหยุดความรุนแรงในซีเรีย รวมถึงให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ติดอยู่ในแหล่งสู้รบ มีการรับฟังเสียงของประชาชนชาวซีเรียและให้มีการจัดเจรจาสันติภาพอีกครั้ง
กลุ่มองค์กรต่างๆ ยังได้ร่วมสร้างการรณรงค์ที่ชื่อว่า #WithSyria ซึ่งในเว็บไซต์รณรงค์ระบุว่าเหตุการณ์ในซีเรียถือเป็นวิกฤติด้านมนุษยธรรมครั้งใหญ่ที่สุดในคริสต์ศตวรรษที่ 21 ในทุกวัน เด็ก ผู้หญิง และผู้ชายในซีเรียต่างก็มีชีวิตอยู่ภายใต้ความหวาดกลัวอย่างไม่อาจบรรยายได้ มีประชากรเกือบครึ่งหนึ่งของประเทศถูกบังคับให้กลายเป็นคนไร้บ้าน และมีคนเสียชีวิตมากกว่า 100,000 คน
แบงค์ซีศิลปินกราฟิตี้ชาวอังกฤษดัดแปลงรูปเด็กหญิงปล่อยลูกโป่งรูปหัวใจ โดยให้เด็กหญิงในรูปภาพเป็นตัวแทนของเด็กชาวซีเรียผู้ลี้ภัย โดยมีการฉายภาพนี้ลงบนสถานที่สำคัญต่างๆ ทั่วโลก เช่น หอไอเฟล เสาหินเนลสัน
แบงค์ซีเปิดเผยถึงแรงบันดาลใจว่า มาจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 6 มี.ค. 2554 ในเมืองดารายา มีเด็ก 15 คนถูกจับและถูกทรมานเนื่องจากวาดภาพกราฟิตี้ต่อต้านรัฐบาล หลังจากการกุมขังเด็กเหล่านี้ก็มีการประท้วงเกิดขึ้นจนกระทั่งกลายเป็นเหตุรุนแรงทั่วประเทศ จนกระทั่งกลายเป็นสงครามกลางเมืองที่มีคนถูกทำให้ไร้ที่อยู่ราว 9.3 ล้านคน
จัสติน ฟอร์ซิทธ์ ประธานบริหารขององค์ด้านสิทธิเด็ก Save the Children กล่าวว่า เด็กในซีเรียต้องทนทุกข์มาเป็นเวลา 3 ปี ผลกระทบของวิกฤติส่งผลเสียหายมาก มีหมอบอกว่าเด็กบางคนต้องถกตัดแขนหรือขาออกเนื่องจากไม่มียาปฏิชีวนะเพื่อรักษาแผลที่ไม่สาหัส และเด็กเกิดใหม่ก็เสียชีวิตในตู้ให้ความอบอุ่นเนื่องจากมีการตัดไฟอยู่บ่อยๆ ฟอร์ซิทธ์ยังได้เรียกร้องให้มีการอนุญาตให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมเข้าถึงเด็กที่ป่วยและได้รับบาดเจ็บได้เพื่อให้พวกเขาได้รับการรักษา อีกทั้งยังเรียกร้องให้ผู้นำโลกช่วยหยุดความขัดแย้ง
ศิลปินอีกคนหนึ่งที่ร่วมกับการณรงค์ #WithSyria คืออิดริส เอลบา ผู้นำรูปภาพเด็กหญิงถือลูกโป่งสีแดงมาสร้างเป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นความยาว 1.45 นาที เอลบากล่าวว่าการสนับสนุนการรณรงค์ในครั้งนี้เป็นเรื่องสำคัญสำหรับเขา ประชาชนธรรมดาในซีเรียเป็นผู้ที่สูญเสียมากที่สุดในเหตุการณ์ความขัดแย้ง
การรณรงค์ในช่วงวันที่ 13-15 มี.ค. นอกจากการนัดชุมนุมแล้วยังมีการแสดงความรู้สึกผ่านแฮชแท็ก #WithSyria ซึ่งมีผู้โพสต์ข้อความอย่างล้นหลาม ส่วนใหญ่เป็นข้อความแสดงการเอาใจช่วยประชาชนในซีเรีย นอกจากนี้ยังรณรงค์ให้ผู้ที่ชุมนุมจุดเทียนถ่ายภาพตนเองลงโซเชียลเน็ตเวิร์กหรือแสดงภาพในเชิงรณรงค์สันติภาพบนรูปโปรไฟล์
Many pple in Paris helling "Stop massacres in Syria!" In front of the Eiffel Tower where u can read #WithSyria in Fr pic.twitter.com/X1lftqjnNY
— jean-marie fardeau (@jmf60) March 15, 2014
ด้านคณะกรรมการสหภาพยุโรปนำเสนออินโฟกราฟิกที่ระบุว่าประชาชนในซีเรียร้อยละ 30 เป็นผู้พลัดถิ่น ร้อยละ 42 ต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม มีผู้ลี้ภัยไปยังประเทศต่างๆ เช่น เลบานอน จอร์แดน ตุรกี อิรัก อียิปต์ และทางเหนือของทวีปแอฟริกา
3 years of the Syrian crisis. 3 years of humanitarian suffering. @eu_echo action: #Syria#WithSyria#NoLostGenerationpic.twitter.com/qA3eBb0Rlf
— European Commission (@EU_Commission) March 15, 2014
เรียบเรียงจาก
Banksy reworks girl with heart balloon to mark third anniversary of Syria conflict, The Independent, 12-03-2014
http://www.independent.co.uk/arts-entertainment/art/news/banksy-reworks-girl-with-heart-balloon-to-mark-third-anniversary-of-syria-conflict-9187047.html
Global call to make 3rd anniversary of Syria crisis the last marked by bloodshed, Amnesty, 13-03-2014
http://www.amnesty.org/en/news/global-call-make-3rd-anniversary-syria-crisis-last-marked-bloodshed-2014-03-13
#Withsyria ใน Twitter
https://twitter.com/hashtag/withsyria
เว็บไซต์กิจกรรม #WithSyria
http://www.with-syria.org/en