13 ก.พ. 2557 สำนักข่าวไทยรายงานว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติเสนอ ครม.พิจารณาร่าง พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง ส.ว.ในวันที่ 30 มี.ค. รับสมัคร 4-8 มี.ค. และลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า 23 มี.ค. ขณะเดียวกัน เลขาฯ กกต.แจงภาพตำรวจเขียนข้อความบนบัตรเลือกตั้งที่เผยแพร่ในสังคมออนไลน์ เป็นขั้นตอนปกติในการตรวจนับบัตรเลือกตั้ง
นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต. เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมในการจัดการเลือกตั้ง ส.ว.เป็นการทั่วไป ซึ่งครบวาระในวันที่ 1 มี.ค. 2557 ว่า ที่ประชุม กกต.มีมติเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาร่าง พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้ง ส.ว. พ.ศ.... ซึ่งกำหนดให้วันอาทิตย์ที่ 30 มี.ค. เป็นวันเลือกตั้ง โดยจะเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 4-8 มี.ค. และลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าในวันอาทิตย์ที่ 23 มี.ค. ทั้งนี้ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่มีความประสงค์จะลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัด สามารถยื่นคำขอลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้ง ได้ตั้งแต่วันที่ 17-28 ก.พ.
นายภุชงค์ กล่าวว่า ในกรณีที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เคยลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัดไว้แล้วในการเลือกตั้ง ส.ส.ที่ผ่านมา ไม่ต้องยื่นคำขอใหม่ แต่หากต้องการกลับไปใช้สิทธิที่หน่วยเลือกตั้งที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน จะต้องยื่นคำขอยกเลิกการลงทะเบียน โดยขอรับแบบคำขอลงทะเบียน และยื่นต่อนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นในจังหวัดที่ท่านอาศัยอยู่ด้วยตนเอง หรือส่งทางไปรษณีย์ หรือมอบหมายผู้อื่นไปยื่นแทนซึ่งจะต้องแนบหลักฐาน เช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรที่มีรูปถ่ายที่ทางราชการออกให้ซึ่งสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง www.ect.go.th
นายภุชงค์ยังชี้แจงกรณีที่มีภาพในเครือข่ายสังคมออนไลน์ซึ่งเป็นภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังใช้ปากกาเขียนข้อความลงบนบัตรเลือกตั้ง โดยมีข้อความระบุว่า “ไม่เคยเห็น ดูกันให้จะๆ ตร.ช่วยกาบัตรเลือกตั้งเป็นกองๆ ส่งภาพนี้ให้ กกต.เลือกตั้งหนนี้โมฆะ ชัวร์” ว่า กกต.พบว่าภาพกรณีดังกล่าวเป็นการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) ในวันรับมอบวัสดุอุปกรณ์ ซึ่ง กปน.จะต้องดำเนินการนับบัตรเลือกตั้งภายในเล่มว่ามีจำนวนครบ 25 ฉบับหรือไม่ หากครบ กปน.ก็จะต้องลงลายมือชื่อบนหน้าปกของบัตรเลือกตั้ง ซึ่งการดำเนินการในขั้นตอนดังกล่าว เป็นไปตามข้อ 113 ของระเบียบ กกต.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.2554
“ปัจจุบันนี้สื่อสังคมออนไลน์มีบทบาทและมีความรวดเร็วต่อการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชน แต่ขาดการกลั่นกลองข้อมูลข้อเท็จจริง สำนักงาน กกต.จึงประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนพิจารณา และวิเคราะห์ข้อมูลให้รอบด้าน ก่อนตัดสินใจเชื่อ” นายภุชงค์ กล่าว