ตร.เผยความคืบหน้าคดีปะทะหลักสี่คนร้ายมี 20 ทราบชื่อ 3 ด้านคดีระเบิดบรรทัดทอง-อนุสาวรีย์ชัยฯ รอผลตรวจดีเอ็นเอคาดคนร้ายกลุ่มเดียวกัน สมัชชาพุทธบริษัทฯ ร้องเอาผิด ‘พุทธะอิสระ’
5 ก.พ.2557 สำนักข่าวไทยรายงานว่า ศาลเห็นว่าผู้ร้องเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ประกอบกับพยานหลักฐาน อาทิ พยานบุคคล ซีดีบันทึกภาพเคลื่อนไหว มีเหตุผลพออนุมัติหมายจับแกนนำทั้ง 19 คน อาทิ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย นายอิสสระ สมชัย และเมื่อสามารถจับกุมตัวได้ ให้นำไปควบคุมที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 ธัญบุรีคลอง 5 กำหนดเวลาควบคุมตัวไม่เกิน 7 วัน ขณะที่พนักงานสอบสวน เตรียมส่งหมายจับให้ชุดจับกุม ที่มี พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เป็นหัวหน้าดำเนินการต่อ ส่วนทีมทนายความของ 19 แกนนำ เตรียมหารือในข้อกฎหมายเพื่ออุทธรณ์
ทั้งนี้ศาลอาญากำชับพนักงานสอบสวนห้ามเผยแพร่หมายจับแกนนำ กปปส. หรือถ่ายภาพส่งต่อในสื่อโซเชียลมีเดีย หากจับได้ให้ควบคุมตัวที่ ตชด. ภาค 1 และให้รายงานศาลภายใน 48 ชั่วโมง ด้านทีมทนายความของ 19 แกนนำ ได้กลับไปหารือในข้อกฎหมาย คาดว่าจะมีการอุทธรณ์คำสั่งศาล
ส่วนความคืบหน้าเหตุปะทะที่แยกหลักสี่ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผย เบื้องต้นมีคนร้ายประมาณ 21 คน ทราบชื่อและตัวบุคคลแล้ว 3 คน และยังอยู่ระหว่างตรวจสอบติดตามรถขนอาวุธที่ปรากฏในคลิปวิดีโอ ขณะที่คดีระเบิดบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิและถนนบรรทัดทอง กำลังรอผลตรวจดีเอ็นเอคาดว่าทั้ง 2 คดีเป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกัน ยืนยันไม่ใช่คนในเครื่องแบบและเป็นคนไทย
ด้านกลุ่มสมัชชาพุทธบริษัทแห่งประเทศไทย เข้าร้องทุกข์พร้อมมอบหลักฐานต่อพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ให้ดำเนินคดีพระสุวิทย์ ธีรธมโม หรือ หลวงปู่พุทธะอิสระ ผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินและขัดขวางการเลือกตั้ง พร้อมกล่าว "ปกาสนียกรรมภาคประชาชน"ต่อพระพุทธะอิสระ มีเนื้อหาว่ากระทำผิดต่อพระธรรมวินัย และการกระทำของพระพุทธะอิสระเป็นเรื่องเฉพาะตัว ไม่ใช่แนวทางสงฆ์
สำหรับรายชื่อผู้ถูกออกหมายจับทั้ง 19 คน ประกอบด้วย 1.นายสุเทพ เทือกสุบรรณ 2.นายสาธิต วงศ์หนองเตย 3.นายชุมพล จุลใส 4.นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ 5.นายอิสสระ สมชัย 6.นายวิทยา แก้วภราดัย 7.นายถาวร เสนเนียม 8.นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ 9.นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ 10.น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก 11.นายนิติธร ล้ำเหลือ 12.นายอุทัย ยอดมณี 13.เรือตรีแซมดิน เลิศบุศย์ 14.พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ 15.นายรัชต์ยุตม์ ศิรโยธินภักดี 16.นายกิตติชัย ใสสะอาด 17.นายสำราญ รอดเพชร 18.นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม และ 19.นายพานสุวรรณ ณ แก้ว
‘สาทิตย์’ ไม่หวั่นเดินหน้าชุมนุมต่อ
หลังศาลออกหมายจับ เมื่อเวลา 15.05 น. นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย แกนนำ กปปส. กล่าวปราศรัยบนเวทีแยกปทุมวัน ว่า แกนนำ กปปส.19 คนไม่มีใครใจเสีย ที่ศาลอนุมัติออกหมายจับแกนนำ ฐานกระทำผิดข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษยื่นขอต่อศาล ซึ่งขณะนี้ทนายความของ กปปส. อยู่ระหว่างการยื่นขออุทธรณ์ โดยที่ผ่านมานายสุเทพ ได้ถูกออกหมายจับมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ก็ยังยืนหยัดที่จะสู้ต่อไปเพราะฉะนั้นการออกหมายจับวันนี้จึงไม่มีผลใด ๆ กปปส.จะเดินหน้าชุมนุมต่อไป ซึ่งแกนนำจะไม่หลบหนี แต่ที่ยังไม่เข้ามอบตัวเพราะการชุมนุมยังไม่บรรลุเป้าหมาย และทันทีที่นายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่งแกนนำทั้งหมดจะเดินทางเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าทันทันที
นายสาทิตย์ กล่าวว่า การออก พ.ร.ก.ฉุกเฉินครั้งนี้ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะไม่มีเหตุร้ายแรงเพียงพอ ซึ่งการใช้กฎหมายดังกล่าวมีการเลือกปฏิบัติ ไม่เคยจับตัวผู้กระทำความผิดได้แม้แต่รายเดียวทั้งที่บางเหตุการณ์มีภาพถ่ายเผยแพร่ปรากฏทางโลกออนไลน์เห็นใบหน้าชัดเจน "วันนี้เราเคารพกฎหมาย แต่กฎหมายถูกใช้โดยคนที่นำกฎหมายไปใช้เพื่อผลประโยชน์ของตนเองเราจึงคัดค้าน การต่อสู้ของเรายังคงอยู่ต่อไปและจะเข้มข้นมากขึ้น แกนนำทุกคนสู้เกินล้านแพ้ไม่ได้ต้องชนะอย่างเดียว"
นายสาทิตย์ กล่าวว่า กปปส.จะไม่คืนพื้นที่กระทรวงมหาดไทย แม้ศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) จะขอคืนพื้นที่ในวันนี้ และจะนำมวลชนจากเวทีแยกปทุมวันไปสมทบทันทีหากมีเหตุจำเป็น