เผยเตรียมพร้อมรับมือเต็มที่ ประสานศูนย์สั่งการ 1669 – ทีมกู้ชีพ เตรียมพร้อมรับมือ 24 ชั่วโมง ตั้งเป้าช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินภายใน 8 นาที วอนหากพบเห็นรถพยาบาลโปรดให้ทาง
นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) เผยถึงการเตรียมความพร้อมรับมืออุบัติเหตุช่วงเทศกาลสงกรานต์ว่า ในปีนี้เทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงวันหยุดยาว ซึ่งประชาชนจะเดินทางกลับภูมิลำเนามาก ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุฉุกเฉินมากขึ้น 3-4 เท่า และในปีที่ผ่านมาสิ่งที่น่าเป็นห่วงคือระดับของความรุนแรงในการเกิดอุบัติเหตุ เพราะมีสถิติผู้เสียชีวิต ณ จุดเหตุเพิ่มมากขึ้น ซึ่ง สพฉ.ได้มีการเตรียมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โดยได้ประสานกับศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการ 1669 และมีการตรวจเช็คคู่สายกว่า 500 สายทั่วประเทศให้พร้อมใช้งาน และกระจายทีมกู้ชีพทั้งในส่วนภาครัฐ เอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นครอบคลุมในทุกพื้นที่
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของประชาชนเองก็ต้องมีความพร้อมด้วยเช่นกัน คือหากต้องเดินทางไกลจะต้องพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เด็ดขาดในระหว่างการเดินทาง ขับรถด้วยความเร็วที่กฎหมายกำหนด ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด คาดเข็มขัดนิรภัยและสวมหมวกนิรภัยทุกครั้งที่เดินทาง และหากต้องขับรถในระยะทางไกลเกินกว่า 200 กิโลเมตร ควรหยุดพักเป็นระยะ นอกจากนี้ควรตรวจสภาพเครื่องยนต์และอุปกรณ์ต่างๆ ในรถให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานด้วยเพื่อความปลอดภัย
“สิ่งสำคัญหากเกิดอุบัติเหตุฉุกเฉินที่สำคัญจะต้องมีสติตลอดเวลา ต้องเตรียมพร้อมเรื่องการสื่อสาร การขอความช่วยเหลือ ซึ่งในรถแต่ละคันควรติดเบอร์โทรฉุกเฉินของหน่วยงานต่างๆ ไว้ เพราะบางช่วงเวลาหากตกใจ เราอาจลืมการขอความช่วยเหลือได้ง่ายๆ” นพ.อนุชากล่าว
นอกจากนี้ควรมีอุปกรณ์ปฐมพยาบาลและยาที่จำเป็นไว้ อาทิ สำลี น้ำยาฆ่าเชื้อที่แผล ผ้าก๊อซปิดแผล ผ้าพันแผล พลาสเตอร์ปิดแผล ผ้ายืดพันแก้เคล็ดขัดยอก ถุงมือใช้แล้วทิ้ง ปากคีบหยิบสำลี กรรไกรตัด ยาแก้ปวดลดไข้ ยาแก้ท้องเสีย ยาแก้เมารถ เป็นต้น นอกจากนี้ควรเตรียมอุปกรณ์พื้นฐานที่จำเป็นอาทิ ไฟฉาย ไฟฉุกเฉิน เชือก เพราะอุปกรณ์เหล่านี้อาจกลายเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยชีวิตได้
เลขาธิการ สพฉ.กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ที่พบอุบัติเหตุหรือเป็นผู้ประสบเหตุเองและยังช่วยเหลือตนเองได้ควรตั้งสติ สงบสติอารมณ์และประเมินสถานการณ์ความรุนแรงของอุบัติเหตุและพิจารณาว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บกี่คน มีรถยนต์ที่ประสบเหตุกี่คัน รวมถึงระบุสถานที่เกิดเหตุให้ชัดเจน และควรรีบโทรแจ้งสายด่วน 1669 โดยอย่าพยายามเคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่บาดเจ็บด้วยตนเอง เพราะอาจจะทำให้ผู้ป่วยฉุกเฉินบาดเจ็บมากยิ่งขึ้นได้ และควรปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ปฏิบัติการด้านการแพทย์ฉุกเฉิน
หากมีความจำเป็นต้องให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุให้จอดรถในที่ปลอดภัย เปิดไฟฉุกเฉิน ซึ่งหากผู้ป่วยฉุกเฉินมีเลือดออกมากให้ทำการปฐมพยาบาลโดยการห้ามเลือด โดยใช้ผ้าปิดปากแผล แล้วใช้ส้นมือหรือฝ่ามือกดให้แน่นประมาณ 10-15 นาที จนเลือดหยุด แต่อย่ากดจนซีดเขียว สำหรับภาวะเลือดออกภายในการห้ามเลือดอาจทำได้ยากหรืออาจทำไม่ได้เลย แต่สามารถช่วยปฐมพยาบาลเพื่อลดความรุนแรงได้ คือให้ผู้ป่วยพักในท่าที่สบายที่สุด ปลอบใจให้ผู้ป่วยไม่ตื่นเต้นตกใจและสงบจะทำให้เลือดออกน้อยลง ห้ามให้อาหารและน้ำทางปาก จนกว่าแพทย์จะอนุญาต และหากไอเป็นเลือด ให้ผู้ป่วยพยายามไอเบาๆ จะทำให้เลือดออกน้อยลง
นอกจากนี้ หากกระดูกหักและจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายจริงๆ ให้ดามกระดูกก่อน โดยอาจใช้อุปกรณ์ใกล้ตัวเช่นกระดาษแข็งหนาๆ หรือไม้นำมามัดดามไว้ด้วยเชือกหรือผ้าพันแผลบริเวณที่กระดูกหักเพื่อลดการขยับ
“ในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ทีมกู้ชีพเราพร้อมทำงานช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง โดยเราตั้งเป้าการไปช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินให้ได้ภายใน 8 นาที เพราะจะทำให้ผู้ป่วยฉุกเฉินมีโอกาสรอดและปลอดภัยมากที่สุด ดังนั้นหากผู้ขับขี่พบเห็นรถพยาบาลโปรดหลีกทางให้ด้วย เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างรวดเร็วและทันกาล โดยอยากให้คิดเสมอว่าคนในรถฉุกเฉินอาจเป็นญาติหรือคนที่คุณรักก็ได้” นพ.อนุชากล่าว
ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai