10 เม.ย. 56 - ราวเวลา 16.00 น. บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้จัดกิจกรรมรำลึกครบรอบ 3 ปี เหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 10 เม.ย. 53 โดยมีผู้ชุมนุมเข้าร่วมกว่า 4,000 คน และมีแกนนำอาทิ ธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานกลุ่มนปช. นพ. เหวง โตจิราการ วิภูแถลง พัฒนภูมิไท ณัฐวุฒิ ใสเกื้อ รวมทั้งแกนนำจากภาคต่างๆ สลับกันร่วมปราศรัยบนเวที โดยกล่าวถึงเรื่องการนิรโทษกรรมว่า นปช. มีจุดยืนจะผลักดันให้การนิรโทษกรรมออกเป็นพระราชกำหนดเพราะสามารถทำได้รวดเร็ว
นายก่อแก้ว พิกุลทอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. ให้สัมภาษณ์ว่า ในขณะนี้ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม กำลังอยู่ในขั้นตอนรอการพิจารณาของสภา ซึ่งในแม้ตอนนี้จะเผชิญจากความล่าช้าเนื่องจากรัฐบาลต้องการจะผลักดันเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการผ่านร่างเงินกู้ 2.2 ล้านบาท แต่ตนก็ยังคาดว่า ร่างนิรโทษกรรมน่าจะผ่านในปีนี้ เนื่องจากมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรส่วนใหญ่ที่เห็นด้วย เพียงแต่อยากมั่นใจว่าถ้าเดินหน้าแล้วจะไม่ส่งผลกระทบต่อศักยภาพของรัฐบาล
ต่อคำถามว่าร่างนิรโทษกรรมจะรวมถึงนักโทษจากคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพด้วยหรือไม่ เขากล่าวว่า โดยส่วนตัวมองว่า อะไรก็ตามที่ทำให้สังคมลดการขัดแย้งลง สังคมดีขึ้น สมควรให้ผ่านการพิจารณา เพราะพวกเขาไม่ใช่อาชญากรที่ถือว่ากระทำความผิดร้ายแรง หรือเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย
นางสุพรรณี ผู้เข้าร่วมชุมนุมจากจังหวัดอุทัยธานี กล่าวถึงเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อ 10 เม.ย. 56 ว่า คนเสื้อแดงไม่มีอาวุธเลย ตนเองได้ใช้กล้องมองไปตามตึก เห็นทหารพร้อมอาวุธอาวุธสงครามครบมือ ตนจึงเชื่อว่าทหารเป็นคนฆ่าเพื่อน นปช. ของตน เพราะกลุ่มคนเสื้อแดงไม่สามารถที่จะไปอยู่บนที่สูงได้ และทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ทราบดีอยู่แล้วว่าคนเสื้อแดงรักกัน และจะไม่มีวันฆ่ากันตาย
“กฎหมายประเทศไทยควรมีความศักดิ์สิทธิ์ อยากให้เคารพกฎหมาย อันไหนผิดก็ต้องว่าไปตามผิด อยากให้ประเทศไทยมีประชาธิปไตยที่เต็มใบ ถึงมันจะไม่ได้ในสมัยเราแต่เราสู้เพื่อลูกหลาน อยากให้ลูกหลานมีประชาธิปไตย พวกเราจะได้ใช้ชีวิตแบบไม่ต้องตกเป็นทาส ประเทศไทยเลิอกทาสมาตั้งนานแล้ว แต่การกระทำมันไม่ใช่ ยังเป็นทาสซ่อนรูปอยู่เลย ตอนนี้ประชาชนพูดอะไรไม่ได้เลย” นางสุพรรณีกล่าว
ด้านนางโสภา ศรีอรัญ พี่สาวนายยอดชาย ศรีอรัญ ซึ่งเป็นผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมกล่าวว่า สาเหตุที่ออกมาร่วมงานรำลึก 3 ปี 10เมษายน ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เนื่องจากรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและอยากมาร่วมรำลึกถึงผู้ที่จากไปจากเหตุการณ์นี้ด้วย เพราะทุกคนเป็นเหมือนพี่น้องกัน ส่วนอาการของนายยอดชาย ยังไม่สามารถออกเสียงได้ชัดเจน เนื่องจากสมองสั่งการไม่ปกติ ซึ่งจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่เกิดขึ้นน้องชายตนได้รับค่าเยียวยาเป็นจำนวนเงิน 1,500,000 บาท จากรัฐบาลแล้ว
ด้านนายกิตติชัย หอมชื่นจิตร ประธาน นปช. อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า รู้สึกคิดถึงพี่น้องประชาชนชาว นปช. ทั้งที่เสียชีวิตในเหตุการณ์สลายการชุมนุม และต้องการออกมาที่จะยืนยันว่าพวก ชาว นปช. ยังยืนหยัดต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยต่อไป ด้านคำตัดสินของศาลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นศาลยุติธรรม หรือศาลรัฐธรรมนูญนั้น กลุ่ม นปช. มองว่า ไม่เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม เพราะเวลากลุ่มคนเสื้อแดงมีคดี จะไม่ได้รับการประกันตัวและต้องติดคุก และมองว่าเป็นเรื่องสองมาตรฐาน
นายกิตติชัย ยังกล่าวอีกว่า คนเสื้อแดงไม่ได้ชมว่าพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลที่ดี แต่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลที่ถูกต้อง ซึ่งประชาชนชาวไทยที่เป็น นปช. ยึดหลักประชาธิปไตย คือความถูกต้องอยู่แล้ว ถ้าหากว่านักการเมืองของประเทศไทยยึดหลักประชาธิปไตยที่ถูกต้องคือเคารพเสียงส่วนใหญ่ เลือกตั้งแล้วแล้วใครได้เสียงข้างมากได้เป็นรัฐบาลพรรคการเมืองที่สู้ไม่ได้ก็เป็นฝ่ายค้าน ซึ่งจะไม่ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวาย ตรงไหนที่รัฐบาลทำไม่ดีพรรคฝ่ายค้านควรทำหน้าที่ค้าน เมื่อครบวาระ 4 ปี เลือกตั้งใหม่แล้วจึงหานโยบายที่ดีมาต่อสู้กัน ส่วนเรื่องกฎหมายนิรโทษกรรม ตนมีความเห็นว่า อยากให้ปล่อยตัวทันทีเลย แต่เข้าใจว่ารัฐบาลต้องทำตามขั้นตอน เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกโจมตี
ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai