สุเทพ เทือกสุบรรณ ปราศรัยซักซ้อม "ปิดกรุงเทพฯ" 7 พื้นที่-มุ่งให้ข้าราชการหยุดรับใช้ระบอบทักษิณ ย้ำไม่ส่งผลกระทบขนส่งมวลชน เชื่อหมดระบอบทักษิณเหมือนไหร่-บ้านเมืองเจริญทันที พร้อมเปิดคลิปรัวๆ อัด นปช. ปี 52 ใช้ความรุนแรง-เป้าหมายคือสถาปนารัฐไทยใหม่ ป่วนกรุงเทพฯ จนกลายเป็นเลบานอน วันต่อไปจะฉายภาพปี 53
สุเทพบอกถ้าตำรวจจะตะครุบตัว ขอให้แต่งเครื่องแบบมาแล้วจะไม่ขัดขืน
10 ม.ค. 2557 - เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ได้ขึ้นปราศรัยที่เวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนิน ตอนหนึ่งกล่าวว่ารัฐบาลมีแผนจับตัวแกนนำโดยเฉพาะตัวเขา ด้วยวิธีส่งตำรวจนอกเครื่องแบบปลอมตัวมา แต่งตัวให้คล้ายกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเรา ถ้ามีเหตุอะไรเกิดขึ้นให้ตระครุบอุ้มตัวผมไปทันที และจะมีตำรวจหญิงมานั่งหน้าเวทีด้วยเพื่อสร้างสถานการณ์
"ท่านไม่แต่งเครื่องแบบท่านจับผมไม่ได้นะครับ ผมไม่รู้ว่าตำรวจจริงหรือปลอมจะไม่ยอมให้จับ ถ้าท่านไม่แต่งเครื่องแบบแล้วมาจับ พี่ๆ น้องๆ จะตุ๊บๆ ตั๊บๆ ก็โกรธไม่ได้นะครับ พวกผมก็มีสิทธิป้องกันตัว เพราะไม่รู้ว่าไหนตำรวจจริงหรือปลอม จะให้อุ้มไปง่ายๆ ผมไม่ยอมนะครับ ไม่ใช่ดาบยิ้ม แล้วอุ้มไปถึงโรงพักหรือเปล่า ไอ้ปื๊ดทำ ตำรวจไม่ได้ทำ ไอ้เหลิมมันชอบแบบนี้อยู่ ขอประกาศว่าถ้าแต่งเครื่องแบบมาผมไม่สู้ ไม่ขัดขืน แต่ถ้าแต่งเครื่องแบบมาผมไม่ไว้วางใจ"
ยืนยันเดินตามแนวสันติ ถ้าเกิดความรุนแรงไม่ใช่ฝีมือ กปปส.
นอกจากนี้มีผู้นำนกพับกระดาษ 366 ตัวใส่ขวดโหล และน้ำมนต์จากวัดต่างๆ มามอบให้กับสุเทพด้วย โดยสุเทพได้ประกาศและขอขอบคุณ และบอกว่าแบบนี้ยิ่งลักษณ์จะอยู่ได้อย่างไร เพราะคนออกมาขับไล่ และออกมาพูดเรื่อยว่าหากเกิดเหตุรุนแรงผมต้องรับผิดชอบ ผมเรียนเลยครับ ว่าถ้าเกิดความรุนแรงขึ้นเพราะการกระทำฝ่ายเรา เรารับผิดชอบ เรายอมรับความจริง แต่ให้รู้ไว้ว่าเราไม่นิยมความรุนแรง
"เราประกาศชัดเจน ว่าเรามวลมหาประชาชน ลุกขึ้นต่อสู้ครั้งนี้ สู้เพื่อประเทศไทย สู้เพื่อแผ่นดินไทย ไม่ได้ทำเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง ไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ใคร แต่ทำเพื่อประเทศไทยและคนไทยทั้งประเทศ และเราได้ยืนยันวิธีการต่อสู้ของเราชัดเจน ตั้งแต่แรกว่าเราจะต่อสู้ด้วยวิธีการสันติ ปราศจากอาวุธ สู้มือเปล่า ไม่ใช้ความรุนแรง เราทำอย่างนี้มาสองเดือนเศษ ข้ามปีแล้ว และเรายืนยันสู้แนวทางนี้ต่อไป จนถึงวันที่เราได้รับชัยชนะ เพราะฉะนั้นบอกกับยิ่งลักษณ์ไม่ต้องถามความรับผิดชอบ เรารับผิดชอบตัวเราและประเทศไทย เพราะเราเป็นคนไทย ภักดีต่อแผ่นดินไม่ต้องการให้แผ่นดินเสียหาย เราต้องการให้แผ่นดินนี้ดีขึ้น แต่คนที่ทำร้ายประเทศนี้คือพวกคุณ ระบอบทักษิณ และขี้ข้าระบอบทักษิณ"
เล่าย้อนหลัง 2551 ทักษิณกลับไทยแล้วหนีไปอีก ไม่ใช่เพราะถูกห้ามเข้าประเทศแต่เพราะหนีคดี
สุเทพปราศรัยต่อไปว่า จะเอาภาพเหตุการณ์จริงที่คนพวกนี้กระทำต่อบ้านเมืองมาฉายให้พี่น้องดูใหม่ ให้พี่น้องดูว่าคนเหล่านี้ต่อสู้เพื่อใครและทำร้ายบ้านเมืองเราอย่างไร เอาเหตุการณ์ที่พวก นปช. จัดชุมนุมในกรุงเทพฯ ในปี 2552 และ 2553 เพื่อให้พี่น้องได้ย้อนระลึกไปถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น จะได้ย้อนไปหายิ่งลักษณ์ ชินวัตรได้ว่าพวกเขานั่นแหละนิยมความรุนแรง และจะสร้างความรุนแรงให้เกิดในบ้านเมืองนี้ไม่ใช่พวกเรา
ตอนที่ทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรี ได้ทำในสิ่งที่ประชาชนไม่พอใจ ทำให้ คมช. ยึดอำนาจ ได้แถลงเหตุผลยึดอำนาจชัดเจน และพี่น้องประชาชนเห็นด้วย เมื่อ คมช. ปฏิวัติ ทักษิณก็หนีอยู่ต่างประเทศ จนกระทั่งรัฐบาลที่ คมช. ตั้งขึ้นร่างรัฐธรรมนูญ 2550 และจัดการเลือกตั้่งทั่วไป เมื่อ 23 ธันวาคม 2550 ในการเลือกตั้งคราวนั้น คุณสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน เป็นนอมินีทักษิณ พรรคพลังประชาชนชนะเลือกตั้งได้เสียงข้างมาก คุณสมัครได้เป็นนายกรัฐมนตรี
พอได้เป็นนายกรัฐมนตรีประมาณ 2 เดือน ทักษิณก็กลับมาประเทศไทย เดินทางมาถึง 28 กุมภาพันธ์ 2551 ตอนที่มาถึงประเทศไทยนั้น ก็กลับมาสู้คดี ขนาดให้ทนายเอาถุงขนมไปลืมบนศาลมีเงิน 2 ล้านบาท วันที่ 25 มิถุนายน 2551 ศาลเลยจำคุกทนาย 6 เดือน และลบชื่อไม่ให้เป็นทนายความ นายคนนี้ชื่อพิชิต ชื่นบาน พอพ้นโทษ เพื่อไทยเลยให้เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ สุเทพกล่าวด้วยว่า "วันนี้กำลังมีการเคลื่อนไหวของ นปช. ที่สำนักงานนายพิชิตคนเข้าออกวันละหลายร้อย จ่ายเงินให้กลุ่มต่างๆ ก่อเหตุในกรุงเทพฯ เร็วๆ นี้"
"ทั้งนี้ทักษิณระดมทนายมาสู้คดีตอนที่พวกตนเป็นรัฐบาล สู้คดีไป สืบพยานเสร็จ ศาลนัดอ่านคำพิพากษา 17 กันยายน 2551 เกิดอะไรขึ้น ทักษิณรู้คำพิพากษาล่วงหน้า เลยไปขออนุญาตศาลว่าต้องไปโอลิมปิคปักกิ่ง มี พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภาออกหนังสือรับรองกับศาลว่าต้องไปร่วมงานโอลิมปิคที่ปักกิ่ง มาคราวนี้หมดโอลิมปิคไปสองสามรอบแล้วก็ยังไม่กลับ พอถึงวันที่ศาลนัดอ่านคำพิพากษา คือ 17 กันยายน 2551 ทักษิณและคุณหญิงพจมานไม่ไปศาล ศาลเลยออกหมายจับ และนัดอ่านคำพิพากษาใหม่คือ 21 ตุลาคม 2551 วันนั้นแหละครับศาลอาญาแผนกคดีอาญานักการเมืองอ่านคำพิพากษากรณีซื้อที่ดินถนนรัชดาภิเษก จากกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินที่ดินมีมูลค่า 2,500 ล้านบาท ประมูลได้ 700 ล้าน เพราะเป็นเมียนายกรัฐมนตรีไม่มีใครกล้าประมูลแข่ง ศาลพิพากษาว่าทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรีมีอำนาจกำกับดูแลหน่วยงานรัฐ การให้เมียซื้อที่ดิน ศาลเห็นว่าขัดต่อกฎหมายจำคุก 2 ปี เลยไม่กลับจากดูโอลิมปิคเลย ที่ออดอ้อนว่าอยากกลับบ้าน หาว่าคนไทยกลั่นแกล้งไม่ให้มันอยู่ประเทศ ข้อเท็จจริงคือมันไปเพราะหนีคำพิพากษาจำคุก 2 ปี"
ศาลยุบพลังประชาชนเพราะโกง อภิสิทธิ์ได้เป็นนายกฯ จากสภาเดียวกับที่เลือกสมัคร-สมชาย
"สมัครไม่ช่วยทักษิณ พอสมัครต้องออกจากตำแหน่ง ทักษิณเลยให้น้องเขย สมชาย วงศ์สวัสดิ์มาเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ไม่ได้เข้าทำเนียบเลย เพราะพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไม่ให้เข้าทำเนียบ เป็นผีไม่มีศาลเหมือนยิ่งลักษณ์ ชินวัตรตอนนี้ แล้วกรรมเก่ามาถึงมันโกงเลือกตั้งเอาไว้ เมื่อ 23 ธันวาคม 2550 ในที่สุด 2 ธันวาคม 2551 ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยพรรคพลังประชาชนโกงการเลือกตั้งแล้วมีคำสั่งให้ยุบพรรคพลังประชาชน สมชายเป็นหัวหน้าพรรคเลยต้องพ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ถึงตรงนี้ผมต้องการย้ำว่าเพื่อระลึกความจริง เลือกตั้งทั่วไปเสร็จ พรรคพลังประชาชนชนะ ทักษิณกลับบ้าน 28 กุมภาพันธ์ 2551 บอกประเทศเป็นประชาธิปไตย เชื่อมั่นศาลไทย ตอนสมชายเป็นนายกรัฐมนตรีแทนสมัคร เพราะสภาเสียงข้างมากเพราะส่วนใหญ่เป็นลูกน้องทักษิณลงคะแนนเสียงให้"
"แต่พอสมชาย วงศ์สวัสดิ์พ้นตำแหน่ง 2 ธันวาคม พอถึง 15 ธันวาคม 2551 สภาผู้แทนราษฎรเห็นว่าบ้านเมืองไปไม่รอด เที่ยวนี้มีผู้แทนเขาเปลี่ยนใจเลือกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะเป็นนายกรัฐมนตรี"
แต่พออภิสิทธิ์เป็นนายกฯ นปช. ก็ใช้ความรุนแรง ประกาศจะทำสงครามชนชั้น มุ่งสถาปนารัฐไทยใหม่
"ตั้งแต่วันนั้นเลย ทันทีที่อภิสิทธิ์ชนะ ได้เสียงข้างมากในสภาลงคะแนนเป็นนายกรัฐมนตรี กลุ่ม นปช. ล้อมสภา ไม่ให้พวกเราออก เอาระเบิดเพลิงขว้าง ทุบรถเสียหาย ประกาศว่าอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรีไม่ชอบ ทั้งที่เลือกด้วยสภาเดียวกับที่เลือกสมัคร และสมชาย จากนั้นเกิดกระบวนการ นปช. ขึ้น แล้วก็ประกาศชัดเจนเพราะใหญ่เหลือเกินว่าเขาจะสู้กับอำนาจรัฐ จะยึดอำนาจรัฐด้วยกำลังอาวุธ จะทำสงครามโค่นล้มชนชั้น สถาปนารัฐไทยใหม่ขึ้น รัฐไทยใหม่ของเขาไม่มีสถาบันพระมหากษัตริย์"
"รัฐไทยใหม่จะปกครองโดยพรรคเดียว คือพรรคของเขา มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดพรรคเดียว การต่อสู้เขาจะมีสามส่วนมีพรรคการเมือง มีมวลชนจัดตั้ง และกองกำลังติดอาวุธ เหมือนสมัยพรรคคอมมิวนิสต์มี กองทัพปลดแอกประชาชน"
เปิดคลิปรัวๆ ระบุแกนนำ นปช. ใช้ความรุนแรง-กร่างคับบ้านเมือง ปี 52 ทำกรุงเทพฯ เหมือนเลบานอน
จากนั้นสุเทพได้เปิดคลิปนับสิบคลิป สลับการอภิปราย โดยกล่าวว่า "พี่น้องครับ อภิสิทธิ์ได้คะแนนจาก ส.ส.ในสภา 15 ธันวาคม กว่าจะได้เข้าทำงานก็ขึ้นปีใหม่ นปช. ก็บุกกรุงเทพฯ มากรุงเทพฯ เลย ประกาศบอกว่าที่มาคราวนี้ เขาจะมาต่อสู้เพื่อทักษิณ เพราะอำมาตย์รังแกทักษิณ ศาลสองมาตรฐาน คนอื่นทำไม่ผิด ถ้าทักษิณทำแล้วผิด เขาเห็นว่าทักษิณไม่ได้รับความเป็นธรรมเลยมาช่วยทักษิณ แล้วทักษิณก็ปลุกระดมทางวิดีโอ บอกให้คนเสื้อแดงมาช่วยเขา มาดูคลิปทักษิณกันครับ" (เปิดคลิปปราศรัยทักษิณ) แล้วกล่าวว่า "เขาพูดว่า "ไม่มีใครจะเอาผมกลับประเทศไทยได้ นอกจากพระเมตตา หรือพลังประชาชน"นี่คือทักษิณ แล้วปลุกระดมให้พาเขากลับบ้าน คนเสื้อแดงมาชุมนุมกรุงเทพฯ แล้วไม่ได้ชุมนุมแบบพวกเราชุมนุมนะครับ มาแบบใหญ่โตคับบ้าน คับเมือง แล้วทักษิณก็พูดในการชุมนุมแต่ละครั้ง ยกตัวอย่างอีกสักคลิปครับ" (เปิดคลิปปราศรัยของทักษิณ)
"พี่น้องเห็นธาตุแท้ทักษิณไหมครับ หลอกคนมาสู้ให้ตัวเองแต่บอกว่ามาสู้เพื่อชาติ เพื่อลูกหลาน หลอกว่าจะมาเดินกับพี่น้องด้วย แล้วตั้งแต่วันนั้นกับวันนี้มันยังไม่มาเลยพี่น้อง หลอกคนเสื้อแดงมาหลายหน ผมเลยสงสารพี่น้องมวลชนเสื้อแดงว่าตื่นได้แล้ว เขาหลอกมามากแล้ว มาร่วมมวลมหาประชาชนดีกว่าจริงใจ ไม่ใช่ขี้จุ๊ วอกขนาดแบบบ่าทักษิณนี่"
สุเทพปราศรัยต่อว่า ที่ นปช. ปลุกระดมรับจ้างปลุกระดมมาช่วยทักษิณ สามเกลอนี่ผีเจาะปากทั้งนั้น เข้าไปร่วมมือกับคอมมิวนิสต์หลงยุค จับมือกันปลุกระดมประชาชน มีเงินทักษิณไม่อั้น แกนนำก็รวย มวลชนก็ได้ค่าจ้างเป็นรายวัน แล้วพากันบุกกรุงเทพฯ พี่น้องไปดูว่าเวลาเขามากรุงเทพฯ เขามีพฤติกรรมอย่างไร พี่น้องดูคลิปครับ (เปิดคลิป นปช. ชุมนุมปี 2552) ดูครับ กรุงเทพฯ ควันโขมงไปหมดเหมือนเลบานอน พวกเขาไชโยกัน เอารถเมล์มาเผา
"ถนนรอบๆ ทำเนียบก็เอารถเมล์ไปจุดไฟเผา เผารถเมล์หน้า บก.ทบ.ด้วย พี่น้องจะเห็นว่าถนนโล่งหมด พี่น้องครับนอกจากนั้นพี่น้องประชาชนที่อยู่ ถ.เพชรบุรี ซอย 5 และ 7 ก็ไม่พอใจ เพราะ นปช. จะเข้าไปเผามัสยิดดารุ้ลอะมานของพี่น้องมุสลิม พี่น้องจึงเห็นว่า ตอนที่เราเดินขบวน กปปส. ผ่าน ถ.เพชรบุรี พี่น้องมุสลิมจึงเอาขนมมาให้ เพราะพวกเราเป็นคนดี ไม่เหมือนคนพวกนอก และเหตุการณ์เศร้าคือ นปช. ไปมีเรื่องกับพี่น้องตลาดนางเลิ้ง พี่น้องเขากลัวบ้านถูกเผาเลยออกมาป้องกันชุมชน พอกลางคืน นปช. เอาปืนสงครามยิงชาวนางเลิ้งตาย 2 คน บาดเจ็บ 5 คน" (เปิดคลิปเหตุการณ์นางเลิ้ง)
นปช. ต่างจาก กปปส. ฝ่ามือหลังเท้า ที่เดินขบวนแล้วมีประชาชนมาสนับสนุน
สุเทพปราศรัยต่อไปว่า ดังนั้นเวลาที่เรา กปปส. เดินขบวนแล้วมีประชาชนมาให้น้ำท่า ให้สตางค์ จึงเป็นภาพที่ต่างกันฟ้ากับดิน ฝ่ามือกับหลังเท้า ตอนที่มันยึดกรุงเทพฯ จนเป็นเมืองร้างแล้ว คุณอภิสิทธิ์เป็นเจ้าภาพประชุมอาเซียนที่พัทยาก็ไปเตรียมการเตรียมสถานที่ให้บรรดาประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรีประเทศต่างๆ มาประชุมที่พัทยา นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์เอาคณะรัฐมนตรีไปประชุม ประชุมเสร็จ คุณอภิสิทธิ์มากรุงเทพฯ ต่อ วันนั้นวันที่ 7 เมษายน 2552 ออกจากโรงแรมรอยัลคลิฟเจอดีเลยครับ (เปิดคลิป นปช. ทุบรถอภิสิทธิ์) มีการจะกระชากคนขับรถอภิสิทธิ์ เอามอเตอร์ไซค์ไปจอดขวาง เพราะหาว่ารถชนมอเตอร์ไซค์ แต่คนขับรถพาคุณอภิสิทธิ์หลบมาได้
และมันก็มีเหตุที่ตามมา คือคนพวกนี้ คิดเรื่องที่จะก่อความรุนแรงคุณอภิสิทธิ์ ฟังคลิปที่คุณอดิศร เพียงเกษ พูดเมื่อ 5 เมษายน 2552 ครับ (เปิดคลิปอดิศร เพียงเกษปราศรัย) แกนนำสั่งผู้เข้าร่วมชุมนุม ตามหาอภิสิทธิ์ เทพเทือกให้เจอจะเอามาผูกคอ แล้วดูอริสมันต์พูดครับ (เปิดคลิปอริสมันต์ปราศรัยบอกจะจับตัวสุเทพ) เตรียมอย่างนี้เลยครับ แล้วจตุพรพูดว่าอย่างไรครับ (เปิดคลิปเสียงจตุพร พรหมพันธ์ ไม่ให้มีการประชุมอาเซียน)
ล้มประชุมอาเซียนที่พัทยา กลับมาก็ปิดถนน-เผารถเมล์-ทุบรถอภิสิทธิ์ที่ มท.
"พี่น้องทั้งหลายเพราะมันพูดอย่างนี้ ปลุกระดมอย่างนี้ เลยมีการบุกพังประชุมอาเซียนพัทยา" (คลิป นปช. เข้าไปในที่ประชุมอาเซียนพัทยา) "เห็นไหมครับ ไม่มีตำรวจกั้นเลย ผู้รับผิดชอบคืออดุลย์ แสงสิงแก้วครับ ที่พี่น้องเห็นภาพทหารคือเขาขอทหารเป็นผู้ช่วยตำรวจ แต่ตัวจริงคือตำรวจไม่ช่วยเลย ผู้นำประเทศก็กระเจิดกระเจิงหมด เราส่งกลับผู้นำประเทศหมดแล้ว เราจึงมากรุงเทพฯ จากนั้นสุเทพกล่าวว่ามีการจ้างกันไปแสนแปดหมื่นบาทเพื่อให้คนไปบุกพัทยา มันล้มการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน มาเฉลิมฉลองกันใหญ่โตเมื่อ 11 เมษายน 2552 ทั้งที่ทำให้ประเทศไทยเสียหายย่อยยับ ไม่มีที่ไหนเขาจัดประชุมแล้วล้มเหลว เพราะมีการล้มการประชุม ทำให้การท่องเที่ยวพัทยาเจ๊งทั้งปี มีผลถึงปีต่อไป แต่มันบอกเป็นชัยชนะของพวกมัน" (เปิดคลิปการปราศรัยของแกนนำ นปช. หลังชุมนุมที่พัทยา)
"กลับมาจากพัทยาก็เหิมเกริม มีการปิดถนน เผารถเมล์ รถแท็กซี่ รัฐบาลไม่มีทางเลือกต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เราไม่สามารถเข้าไปในทำเนียบรัฐบาลได้ เพราะเสื้อแดงล้อมทำเนียบ ต้องให้คุณถาวร เสนเนียมร่างคำประกาศ ตอนนั้นเป็น รมช.มหาดไทย ร่างเสร็จ ผมกับนายกรัฐมนตรีไปกระทรวมหาดไทย และ ครม. ไปประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อควบคุมเหตุการณ์บ้านเมืองแล้วพี่น้องดูสิครับ พวกเขาเมื่อรู้ข่าวเขาทำอย่างไร (เปิดคลิปปราศรัยสุภรณ์ อัตถาวงศ์) พากันบุกเข้ากระทรวงมหาดไทย แล้วทุบรถอภิสิทธิ์ รถเราไม่ทันออกครับ เข้าไปทุบรถ แล้วไปทุบรถเลขาธิการนายกรัฐมนตรีนายนิพนธุ์ พร้อมพันธ์ และเลขาธิการฝ่ายการเมืองจนสลบ (เปิดคลิปกระทรวงมหาดไทย) 12 เมษายน ครับ ก็พังเข้าไปเลย"
"ภาพที่พี่น้องเห็นภาพรถอภิสิทธิ์ถูกทุบรถยับเยินกว่าจะฝ่าออกมาได้ ผู้ติดตามบาดเจ็บถึงสลบ นายสุภรณ์กลับมาปราศรัยบอกว่าที่ประชาชนเข้าไปทุบรถเพราะนายอภิสิทธิ์ขับชนประชาชน และใส่ไข่ต่อไปว่ายิงคนเสื้อแดงล้มสี่คน มาสร้างความเกลียดโกรธ เหตุการณ์ที่เกิดในปี 2552 ไม่มีคนตายเลย ไม่มีคนเสื้อแดงตาย คนที่ตายเป็นประชาชนนางเลิ้ง 2 คนเมื่อครู่ หลังเราประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินได้ระดมกำลังทหาร และตำรวจซึ่งมีน้อยมาก เพราะ ผบ.ชน. วรพงศ์ ชิวปรีชา ไม่ทำอะไรเลย เราต้องเอาทหารมาช่วย สามารถต้อนประชาชนตามสามแยกสี่แยกต่างๆ ผลักดันมารวมที่ทำเนียบ เกลี้ยกล่อมให้เขากลับบ้าน ส่งกลับทุกคน แต่เป็นไงพี่น้องทราบไหมครับ ณัฐวุฒิ จตุพร ไปปลุกระดมคนเสื้อแดงตามหมู่บ้าน ตำบลต่างๆ ว่าทหารฆ่าประชาชนหลายร้อย ทั้งที่ไม่มีคนตายเลย ขณะนั้น พ.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรมเอาวิดีโอไปฉายให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านว่าไม่มีคนตาย ทำให้เห็นว่าแกนนำ นปช. โกหกทั้งสิ้น รวมทั้งทักษิณที่ไปสัมภาษณ์สื่อต่างประเทศกล่าวหาว่ามีคนตาย"
ต่อพรุ่งนี้ จะฉายภาพปี 53 พร้อมย้ำ กปปส. จะเลือกวิธีสันติแบบคนจิตใจสูง มีเรื่องจะนั่งสวดมนต์
สุเทพปราศรัยต่อว่า พรุ่งนี้ ผมจะเอาคลิปวิดีโอเหตุการณ์ปี 2553 ถัดจากปีนี้มาให้พี่น้องดู แล้วพี่น้องจะได้จำได้ว่าเขาทำกับประเทศของเราอย่างไร ผมต้องการให้พี่น้องเห็นครับว่า การที่พี่น้องทั้งหลายได้เลือกวิธีการต่อสู้ถูกต้อง ต่อสู้อย่างคนจิตใจสูง รักชาติ รักแผ่นดิน มีคุณค่า และทำให้มวลมหาประชาชนทั้งประเทศ มีขวัญกำลังใจ พร้อมที่จะยืนหยัดเคียงข้างกับเรา เราต้องยึดแนวทางการต่อสู้แบบนี้จนถึงวันสุดท้าย จนถึงวันชัยชนะ อย่าเปลี่ยนแปลง เราต้องคุมตัวเองให้ได้ ถ้ามีเหตุอะไรให้เรานั่งสวดมนต์
เลขาธิการ กปปส. ยังปราศรัยเชิญชวนให้ข้าราชการเปลี่ยนข้างด้วย แบบที่ข้าราชการบุคลากรทางการแพทย์ออกแถลงการณ์สนับสนุนการปฏิรูป และสนับสนุน กปปส. และจะมาเข้าร่วมในวันที่ 13 ม.ค. ด้วย สุเทพกล่าวด้วยว่าข้าราชการกระทรวงสาธารณสุขมาร่วมด้วย "กระทรวงอื่นให้รีบมา เพื่อให้ระบอบทักษิณอัมพาตไม่มีเครื่องมือให้ใช้ เป็นรัฐบาลง่อย หมดท่า ให้ยิ่งลักษณ์แห้งตายคาเก้าอี้ เราต้องสู้ตรงนี้ ชวนกันมาครับพี่น้องข้าราชการที่เคารพ ถ้าท่านตัดสินใจเหมือนข้าราชการสาธารณสุข ประเทศนี้ ก็สามารถยุติปัญหาทั้งหลายทั้งปวงได้ ระบอบทักษิณหมดอำนาจ พวกเราจะได้อำนาจอธิปไตยมาเป็นของประชาชน เราจะได้ร่วมกันสร้างรัฐบาลประชาชน เพื่อภารกิจเฉพาะหน้าคือการปฏิรูปประเทศไทย รอพี่น้องข้าราชการเท่านั้น ออกมาเลย แบบข้าราชการสาธารณสุขเลย"
สุเทพเชื่อว่ารัฐบาลไม่ทำอะไรข้าราชการแน่นอน "ไม่กล้าปลดหมอแน่นอน ใครจะกล้าปลดแม่มึง"และกล่าวต่อว่า ชัยชนะของ กปปส. อยู่ที่พลังของมวลมหาประชาชนที่ออกมามืดฟ้ามัวดิน ข้าราชการก็ตัดสินใจได้ ออกมายืนอยู่ข้างประชาชน ระบอบทักษิณก็จบเห่ ผมถึงเห็นว่าแนวทางเราเดินมานั้นถูกต้องแล้ว ไม่มีใครเสียหายเจ็บปวด จากการต่อสู้ มีแต่กำไร เราเหนื่อยกันหน่อยครับ"
"2-3 วันนี้ทยอยมีข่าวดีมากขึ้น เริ่มจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สุราษฎร์ธานี ชุมพร นครราชศรีมา สมุทรปราการ องค์กรครูมา มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครเปิดเผยแสดงตัว แล้ววันนี้จะมีอีก"
ซักซ้อม 7 จุดปิดกรุงเทพฯ ย้ำไม่ปิดทางขนส่ง ถ้าหมดระบอบทักษิณบ้านเมืองนี้เจริญทันที
"แต่ก่อนไปถึงตรงนั้น ขอซักซ้อมวันที่ 13 ม.ค. ว่าการยึดกรุงเทพฯ ทำอย่างเปิดเผย ประกาศไว้ล่วงหน้า แล้วไม่กลัวว่าฝ่ายรัฐบาลจะคิดอ่านตอบโต้อย่างไร ประกาศอย่างนี้จะทำอย่างนี้ด้วยมือเปล่า อหิงสา จะปิดถนนแจ้งวัฒนะทั้งหัวท้าย ไม่ให้ศูนย์ราชการทำงานได้ พี่น้องศูนย์ราชการไม่ต้องไป นอนอยู่บ้าน เพราะเราไม่ต้องการให้ท่านเป็นเครื่องมือระบอบทักษิณ"
"ถัดมาห้าแยกลาดพร้าวปิดหมด ไม่ต้องวิ่งกันรถรา ปตท. กระทรวงพลังงานไม่ต้องไปไม่ต้องเป็นห่วง เราเฝ้าให้ไม่หายไปไหน อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ รถเมล์ รถโรงแรมยังไปได้ ถัดมาสี่แยกปทุมวัน ตรงมาบุญครอง สยามเซ็นเตอร์ปิดหมดตั้งเวทีถาวร ชาวจุฬาสีชมพูพรึบ ถัดไปก็สวนลุมพินี ชาวสีลมดูตรงนั้น ถัดไปราชประสงค์ อโศก เราจะปิดเท่านี้ ที่ปิดสามแยกสี่แยก ที่เหลือเป็นการยกขบวนไปล้อมสถานที่ราชการทุกกระทรวง ทบวง กรมไม่ให้ข้าราชการเข้าไปได้"
"เราย้ำไม่ปิดสนามบิน ไม่ปิด ไม่ปิดทางเข้าสนามบิน ไม่ตัดน้ำตัดไฟสนามบิน เชิญบินตามปกติ นักท่องเที่ยวเชิญมาเที่ยวไม่เสียหาย เราไม่ปิดสถานี บขส. สายเหนือ ตะวันออก สายใต้ เชิญ พี่น้องมีธุระไปต่างจังหวัดใช้ได้เหมือนเดิม BTS MRT เหมือนเดิม รถไฟวิ่งเข้าหัวลำโพงเหมือนเดิม เพราะฉะนั้นคนเดือดร้อนน้อยที่สุด ต้องเสียสละนิดหน่อย เพราะทำคราวนี้ประเทศจะได้ดี หมดระบอบทักษิณ แผ่นดินนี้ บ้านเมืองนี้เจริญทันที พี่น้องเชื่อเถอะครับ"
"พี่น้อง กปปส. จังหวัดต่างๆ ที่จะมาร่วมกับเราแจ้งมาเลย อยากมาสมทบเวทีไหน บอกมาชอบใจตรงไหน ทางภาคตะวันออก ตราด จันทบุรี ระยอง ชลบุรี ปราจีนบุรี ไปอโศก สมุทรสาคร สมุทรสงคราม จะไปลุมพินีก็ได้ ส่วนที่แจ้งวัฒนะ ผมให้ กปปส. นนทบุรีดำเนินการ ก็มีคณะกรรมการ กปปส. ภาคกลาง ที่เรียกว่าภาค 7 เพชรบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี อยุธยา นครปฐม กาญจนบุรี เขาอาสามาว่าแจ้งวัฒนะเขาทำกันเอง น่ารักมากบริหารในรูปคณะกรรมการ ไม่ใช่เรื่อง กปปส.นนทบุรีเดียวแล้ว ทุกจังหวัดมาวางแผนกัน แล้วเขาไม่ไปดอนเมือง เขาไม่ยุ่ง เขาจะไปกระทรวงยุติธรรม พาณิชย์ ไม่ไปกระทรวงสาธารณสุขเพราะคุณหมอปิดแล้ว เขานัดหมายเช้าวันที่ 13 ม.ค. มีกำลังเท่าไหร่จะรวมกันที่ท่าน้ำนนทบุรี จะเดินมาที่เวทีศูนย์ราชการ 7 กม. แต่เขาอยากเดินเรียกแขก"
"คราวก่อนไปธนบุรี ได้เงินบริจาคมา 2.5 ล้าน เมื่อวานได้มาหลายปี๊บนับเสร็จแล้ว ได้ 3.9 ล้านบาท ขาดสามหมื่นบาทได้สี่ล้าน พี่น้องชาวฝั่งธนผมขอกราบขอบพระคุณ และขอกราบขอบพระคุณพี่น้องกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ระยอง วันนี้มาขึ้นเวทีที่นี่ครับ"และหลังการปราศรัยของสุเทพ มีผู้ใหญ่บ้าน กำนัน และสมาชิก อบต. จ.ระยอง นำโดยนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง