คุยกับผู้สมัครพรรคเล็กในวงล้อม กปปส. ณ สน.ดินแดง – กระสุนปริศนา

‘ประแสง’ ผู้สมัครพรรคพลังประชาธิปไตยหนึ่งในผู้ถูกล้อมเผยผู้ชุมนุม ตัดน้ำ-ไฟสน.ดินแดง กระสุนปริศนายิงทะลุกระจกเข้ามาที่ชั้น 3 สน.ตำแหน่งหวังผล การ์ดกปปส. เข้าค้นหา ‘จตุพร’ ซึ่งไม่ได้อยู่ ชี้เกิดภาวะไร้รัฐ

ประแสง มงคลศิริ อดีต ส.ส.อุทัยธานี พรรคไทยรักไทย อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาและผู้สมัครบัญชี้รายชื่อลำดับที่ 7 ของพรรคพลังประชาธิปไตย (Democratic Force Party – DFP) หนึ่งในผู้ที่ถูกกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. ปิดล้อมที่ สน.ดินแดง เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ประแสง และผู้สมัครพรรคอื่นๆ เข้ารับสมัคร ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อ เล่าถึงเหตุการณ์ถูกปิดล้อม ดังนี้

ประแสง มงคลศิริ 

0000

การ์ดผู้ชมนุมตรวจค้นผู้ผ่านเข้าออกบริเวณที่สมัครฯ

เช้าวันที่ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมามีการเปิดรับสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ จึงได้นัดหมายผู้สมัครของพรรคซึ่งมี 7 คน เพื่อไปพบกันที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง เวลา 6.30 น. ส่วนคุณจิตรา คชเดช ผู้สมัครของพรรคอีกคนเดินทางมาต่างหาก และเธอมาถึงบริเวณที่นัดก่อนแล้วโทรแจ้งพวกตนว่าไม่สามารถเข้าไปที่จุดรับสมัครได้ เนื่องจากตรงบริเวณแยกมิตรไมตรีมีกลุ่มการ์ดผู้ชุมนุมตรวจค้นรถที่ผ่านเข้าออกอยู่

อย่างไรก็ตาม กกต. ได้แจ้งไว้ก่อนหน้าแล้วว่าหากไม่สามารถไปที่จุดนัดรับสมัครได้ให้เดินทางไปแจ้งที่ สน.ดินแดง หรือ กองปราบปราม แทน เพื่อแสดงความจำนงว่าจะสมัคร ดังนั้นคุณจิตราจึงเดินทางไปที่กองปราบก่อน ส่วนตนเองกับผู้สมัครที่เป็นชายอีก 5 คนนั้นพยายามเข้าไปในสนามกีฬาฯ ซึ่งขณะนั้นทราบว่าพรรคใหญ่สามารถเข้าไปได้แล้ว เนื่องจากมีอำนาจรัฐ

ลงบันทึกที่ สน.ดินแดง – ผู้สมัครพรรคเล็กบางคนถูกชิงเอกสาร

เมื่อขับรถไปใกล้ถึงกลับพบกลุ่มชายฉกรรจ์ซึ่งเป็นการ์ด กปปส. ตรวจค้นรถที่ขับผ่านบริเวณนั้น ซึ่งในรถตนเองมีสัญลักษณ์ของคนเสื้อแดงหลายอย่าง จึงเปลี่ยนใจขับรถไปยัง สน.ดินแดง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสนามกีฬาฯ ขณะไปถึง สน.ดินแดง พบผู้สมัครและกองเชียร์พรรคเล็กๆ จำนวนมาก จากนั้นจึงทำการลงบันทึกประจำวัน หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ กกต. ก็เชิญตนและผู้สมัครพรรคอื่นไปที่ห้องประชุมพร้อมชี้แจงขั้นตอนการสมัคร สำหรับเอกสารการสมัครของผู้สมัครทั้ง 7 คน ของพรรคได้มีการยื่นให้เจ้าหน้าที่ กกต.ตรวจก่อนหน้านี้แล้ว โดยตนเองต้องการเพียงรอเพื่อจะมีการจับฉลากหมายเลขเบอร์ต่อ

แต่มีผู้สมัครพรรคเล็กบางพรรคขณะเดินทางมาที่ สน.ดินแดง ถูกผู้ชุมนุมคุกคามชิงเอาเอกสารการสมัครไปด้วย ซึ่งน่าเห็นใจมาก จึงไม่สามารถสมัครได้ตอนนั้น แต่คิดว่าเขาเหล่านั้นน่าจะมีสิทธิที่จะได้รับการเลือกตั้งเพราะพวกเขาได้มาแสดงเจตจำนงแล้ว

“ขี้ข้า” “ขี้ข้าทักษิณ”

หลังจากนั้นเวลา 8.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมนำโดย ชุมพล จุลใส และ พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ นำมวลชนมา พร้อมด้วยเครื่องเสียงมาปิดหน้าประตูทางเข้า สน.ดินแดง พร้อมประกาศให้ผู้ชุมนุมมาร่วมกันประณามบรรดาพรรคการเมืองต่างๆ ที่อยู่ใน สน.ดินแดง

“ขี้ข้า” “ขี้ข้าทักษิณ” เสียงผู้ชุมนุมตระโกนประณามพรรคต่างๆ ที่อยู่ใน สน.ดินแดงสลับกับการเป่านกหวีด ตั้งแต่ 8.00 น. ถึง สลายการชุมนุมเวลา 17.30 น.

ปิดล้อม ตัดน้ำ ตัดไฟ สน.

หลังจากนั้นเวลาประมาณ 8.00 น. กว่า มีผู้ชุมนุมทยอยมาที่ สน.ดินแดง กว่า 1,000 คน เริ่มล้อมโดยมีการ์ดประจำอยู่ตามประตูทางเข้าและกำแพง สน.ดินแดง และเวลาประมาณ 9.00 กว่า มีการตัดน้ำ สน. หลังจากนั้นเวลา 11.00 น. ก็มีการตัดไฟฟ้า หลังจากนั้นตนและผู้สมัครอื่นๆ ขึ้นไปบนชั้น 3 ของอาคาร สน.ดินแดง ซึ่งเป็นห้องสอบสวน เวลานั้นได้มีโอกาสคุยกับ ดำรงค์ พิเดช หัวหน้าพรรคทวงคืนผืนป่าฯ

กระสุนยิงทะลุกระจกที่ชั้น 3 สน. ตำแหน่งหวังผล  

ใกล้เที่ยง ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นพร้อมกับเสียงกระจกหน้าต่างแตก หลังจากที่ตั้งสติกันได้ทุกคนในห้องต่างหมอบลงกับพื้น เนื่องจากตำแน่งกระสุนเข้าที่บริเวณหน้าต่างเป็นตำแหน่งที่สามารถเป็นอันตรายกับคนที่นั่งอยู่ ประกอบกับห้องที่อยู่นั้นเห็นได้ชัดจากภายนอก หลังจากนั้นมีเสียงปืนดังขึ้นมาอีก 3 ครั้ง ตำแหน่งที่ยิงมาจากด้านหนัง สน. ซึ่งเป็นลานจอดรถของโรงแรมแห่งหนึ่ง และหลังจากนั้นมีเสียงระเบิดดังขึ้น 2 ครั้งติด ซึ่งอนุมานได้ว่าเสียงไม่ไกลจากตัวอาคาร แต่ไม่รู้ว่าจากตรงไหน ตนเองและผู้ที่อยู่ในห้องจึงออกมา สักครู่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบรอยกระสุนและสถานที่เกิดเหตุ

ประมาณ 13.00 รู้สึกว่าเสียงปืนและระเบิดค่อนข้างสงบจึงกลับขึ้นที่ห้อง แต่ตนเองคิดว่าไม่ปลอดภัยจึงไม่ตามขึ้นไป และหลังจากนั้นประมาณ 20 นาที ก็มีเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด ทุกคนจึงออกมาอีกครั้ง

ภาพรอยกระสุนปืนทะลุกระจกเข้ามาในที่อยู่ผู้สมัคร ภาพโดย ประแสง มงคลศิริ

การ์ด กปปส. เข้ามาค้นหา จตุพร ซึ่งไม่ได้อยู่

ต่อมามีการ์ดผู้ชุมนุมเข้ามาตรวจด้านใน สน. เพื่อหาว่ามีใครอยู่บ้าง โดยเฉพาะตั้งแต่ 8.00 น. มีการปราศรัยว่าด้านในมี ตู่ จตุพร พรมพันธ์ อยู่ จนกลายเป็นเงื่อนไขในการเจรจากับผู้ชุมนุม ทั้งที่มันไม่ make sense เลย เพราะว่าพรรคเพื่อไทยก็ส่งตัวแทนเข้าไปสมัครที่สนามกีฬาฯ อีกทั้งจตุพรไม่จำเป็นต้องมาเองในสถานการณ์แบบนี้ จึงไม่มีเหตุผลที่จะเข้ามาอยู่กับพรรคเล็กๆ ใน สน.ดินแดง อย่างไรก็ตามต้องขอบคุณการ์ดที่เข้ามาตรวจ เพราะเป็นผู้ที่มีความสุภาพอ่อนน้อม ทั้งนี้หลังจากที่ชุดแรกเข้ามาตรวจแล้ว ก็กลับไปรายงานผู้ชุมนุม แต่หลังจากนั้นก็มีการ์ดชุด 2 เข้ามาตรวจซ้ำ ตามห้องต่างๆ ใน สน. แต่ก็ไม่พบจตุพร ซึ่งขณะนั้นตนมองว่าเป็นทางลงของแกนนำม็อบ หลังจากปลุกระดมให้คนมาโดยอ้างว่ามีจตุพรอยู่ที่นี่ตลอดทั้งวัน

สลายหลังค้นไม่พบจตุพร

จนกระทั่ง 17.30 น. ตนเองและพวกจึงออกจาก สน. ได้ เพราะผู้ชมนุมสลายการชุมนุมหลังจากตรวจไม่พบจตุพรใน สน. แต่ยังมีบางคน ซึ่งเข้าใจว่าเป็นผู้ชุมนุมที่อาศรัยอยู่บริเวณโรงพักยังคงอยู่บริเวณนั้น ทำให้ในขณะที่ตนเองและพวกออกมาจาก สน. ถูกคนเหล่านั้นเป่านกหวีดกรอกหู

กลุ่มตนได้รับความช่วยเหลือจากวินมอร์เตอร์ไซต์บริเวณนั้นขับประกบและนำทางเพื่อออกมาที่ถนนใหญ่เรียกรถแท็กซี่ เนื่องจากรถของตนที่จอดไว้หน้า สน. ถูกปล่อยลมยาง พร้อมกับมีสีที่รถว่า “ขี้ข้าทักษิณ” และรอยเท้าบริเวณตัวถังจำนวนมาก

ใน สน. ระหว่างถูกปิดล้อมนั้น มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้สมัคร ผู้สนับสนุนผู้สมัคร นักข่าว ซึ่งในตอนแรกมีเด็กอยู่ด้วย แต่มีการเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมด้านนอกจึงทยอยนำผู้หญิงและเด็กออก รวมทั้งบางคนที่เป็นโรคกระเพาะก็ต้องหาทางขอร้องให้ผู้ชุมนุมให้เขาได้ออกไปกินอาหารและยา โดนตนได้บอกผ่านเจ้าหน้าที่ไปยังแกนนำผู้ชุมนุมด้วยว่าอะไรที่ผ่อนปรนได้ก็ควรผ่อน มิเช่นนั้นผู้ชุมนุมเองจะเสียมวลชนและความชอบธรรม จนกระทั่งช่วงเย็นมีเหลือชายและหญิงบางส่วนอยู่ใน สน.ประมาณ 60 คน

ผู้ชุมนุมอ้างเสียงปืน-ระเบิด ฝีมือ ตร.-มือที่ 3

เหตุที่พวกตนและคนที่อยู่ใน สน. ไม่กล้าฝ่าวงล้อมผู้ชุมนุมไปนั้นนอกจากด้วยท่าทีผู้ชุมนุม โดยเฉพาะช่วงแรกอารมณ์ร้อนระอุมาก หลังจากนั้นมีผู้สมัครพรรคการเมืองคนหนึ่งที่พยายามฝ่าวงล้อมออกไป แต่กลับถูกผู้ชุมนุมทำร้ายตุ๊บตั๊บกลับเข้ามาอย่างเดิม

อีกทั้งเมื่อมีเสียงปืนและระเบิดขึ้นผู้ชุมนุมก็มีการอ้างว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ของตำรวจและมือที่ 3 ด้วย แต่เมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าจับภาพการ์ดผู้ชุมนุมขณะก่อเหตุได้

โดยด้านหลัง สน. ซึ่งเป็นจุดที่คาดว่าเป็นที่มาของเสียงปืนและระเบิดนั้นไม่มีผู้ชุมนุมอยู่ มีเพียงการ์ดที่เฝ้าอยู่บริเวณนั้น และการ์ดจะประจำอยู่รอบกำแพง สน. ด้วย เมื่อตนหรือคนใน สน.โผล่หน้าออกจากหน้าต่างไปก็จะถูกชี้หน้าและมีลักษณะข่มขู่คนใน สน.ด้วย

พรรคเล็กไม่ใช่เป้า

มองว่าพรรคเล็กที่มาที่ สน.ดินแดงเหล่านี้ไม่น่าจะเป้นกลุ่มเป้าหมายของผู้ชุมนุม จึงมีการปลุกเรื่องจตุพร อยู่ใน สน. ขึ้นมา อีกทั้งผู้สมัครพรรคอื่นๆ ก็ไม่ได้สังกัดสีทางการเมืองและมาลงแข่งขันกับพรรคเพื่อไทยด้วยซ้ำ ด้านพรรคของตนที่เป็นเสื้อแดงและดูเหมือนว่ามาจากพรรคเพื่อไทยนั้น ก็เป็นคนที่มีจุดยืนไม่เห็นด้วยกับพรรคเพื่อไทยหลายเรื่อง เช่น ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับเหมาเข่ง ที่ผ่านมาเป็นต้น และพรรคตนก็ไม่ใช่พรรคนอมินีของพรรคเพื่อไทย เพราะเขามีอยู่แล้วคือพรรคเพื่อธรรม ดังนั้นการชุมนุมล้อม สน.จึงไม่ตอบโจทย์ผู้ชุมนุม

ภาวะไร้รัฐ

สำหรับการเลือกตั้ง 2 ก.พ.ที่จะถึงนั้น ก่อนมาเจอเหตุการณ์นี้เชื่อว่ามี แต่เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้แล้วกลับมองว่าโอกาสที่จะมีการเลือกตั้งน้อยลงแล้ว เพราะปัญหาไม่ได้อยู่ที่กำนันสุเทพ เพราะพลังมวลชนของม็อบไม่ได้มาก แต่อำนาจรัฐโดยนายกรัฐมนตรีรักษาการ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นี้ ไม่สามารถจัดการได้ แม้แต่บ้านตัวเอง ลูกตัวเองยังป้องกันไม่ได้ ประชาชนจะหวังพึ่งรัฐบาลมาปกป้องได้อย่างไร เป็นภาวะไร้รัฐ จึงไม่มีหลักประกันว่าวันที่ 2 ก.พ.นี้จะมีการเลือกตั้งได้หรือไม่ แต่อย่างไรก็ตามหากไม่มีการเลือกตั้งพรรคก็จะเดินตามระบอบประชาธิปไตยต่อไป

ภาพตัวแทนพรรคฯ โดยประแสง โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กเมื่อ 00:01 น.วันที่ 26 ธ.ค. ว่า

“หลบลูกปืนจากสน.ดินแดงเมื่อวันจันทร์มาได้ คืนนี้ทีมงานพรรคพลังประชาธิปไตยถึงสนามไทย-ญี่ปุ่นแล้ว

นอนรอ 9.00น.จะอยู่เสี่ยงตายจับเบอร์เอง ไม่ให้กกต.จับแทนครับ”

0000

ศอ.รส.ออกหมายจับบุคคลปาระเบิด สน.ดินแดง

สำหรับความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีที่ สน.ดิงแดง นั้น วานนี้(25 ธ.ค.) เนชั่นรายงานว่า เมื่อเวลา 16.00 น. พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก ศอ.รส. กล่าวถึงกรณีที่มีการปาระเบิดในวันที่ 23 ธ.ค. ที่ผ่านมามีกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนได้ไปปิดล้อมสถานีตำรวจนครบาลดินแดงและมีเสียงคล้ายประทัดยักษ์ดังขึ้นประมาณ 3 ครั้ง กล้องวงจรปิดในพื้นที่ดังกล่าวได้จับภาพผู้กระทำการดังกล่าวได้ 2 คน ต่อมาเมื่อวานนี้ (24ธ.ค.)เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดินแดงได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับทั้งสองรายและศาลได้อนุมัติหมายจับชายไทยไม่ทราบชื่อ 2 คนตามภาพถ่าย หมายจับที่ 2509/2556 และหมายจับ 2510/2556 ในข้อหาร่วมกันกระทำให้เกิดระเบิดจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์ของผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 221 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 14,000 บาท อายุความ 10 ปี

ในส่วนของกรณีต่างๆ ศอ.รส.ได้ชี้แจงว่าสำหรับบุคคลอื่นๆที่ปรากฏตามภาพหรือได้ทำผิดกฎหมาย หากท่านคิดว่าเป็นคนกระทำผิดหรือยืนยันว่าบริสุทธิ์กรุณาติดต่อได้ที่สถานีตำรวจ หรือพี่น้องประชาชนท่านใดพบเห็นบุคคลตามภาพหมายจับกรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ที่หมายเลข 191 หรือ 1599 และทุกช่องทาง

ภาพมือปาประทัดยักษ์

'สาธิต'นำคนขับรถพร้อมคลิป ยืนยันความบริสุทธิ์ สน.ดินแดง

วันเดียวกัน(25 ธ.ค.) ไทยรัฐออนไลน์รายงานว่า นายสาธิต ปิตุเตชะ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จ.ระยอง นำตัว นายอนุรักษ์ พลูทวีป คนขับรถ พร้อมคลิปวิดีโอ พยานหลักฐาน และรายชื่อพยานบุคคลทั้ง 4 คน เข้ายืนยันความบริสุทธิ์ กับพนักงานสอบสวน สน.ดินแดง หลังนายอนุรักษ์ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ปาประทัดยักษ์เข้าไปในพื้นที่ สน.ดินแดง ระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. ปิดล้อม เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมา

นายอนุรักษ์ กล่าวว่า ในวันที่เกิดเหตุ ตัวเองเช่าพระเครื่องอยู่ที่ย่านบางกระบือ มีพยานบุคคลที่สามารถยืนยันได้ 4 คน ซึ่งหลังจากที่มีกระแสข่าวออกไปว่าตัวเองเป็นบุคคลในภาพที่ปาประทัดยักษ์ เข้าไปในพื้นที่ สน.ดินแดง ทำให้ญาติพี่น้องเกิดความหวาดกลัว เนื่องจากมีตำรวจเข้าไปตรวจค้นที่บ้าน จึงตัดสินใจให้เจ้านายพามาพบเจ้าหน้าที่ เพื่อยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ขณะที่ นายสาธิต กล่าวว่า เตรียมที่จะฟ้องหมิ่นประมาทบุคคลในเฟซบุ๊กที่นำภาพของนายอนุรักษ์ไปกล่าวหาว่าเป็นผู้กระทำในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย

พนง.สอบสวน ยื่นขออนุมัติหมายจับคนร้าย

ด้าน พ.ต.ท.สุภัทร ทองส้ม พนักงานสอบสวน ผู้ชำนาญพิเศษ สน.ดินแดง เปิดเผยความคืบหน้าด้านคดีว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนและรวบรวมหลักฐาน ยื่นขออนุมัติหมายจับคนร้ายที่ก่อเหตุ และศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับคนร้าย เป็นชายไม่ทราบชื่อ ที่ปรากฏตามภาพถ่าย 2 คน ตามหมายจับ เลขที่ 2509/2556 และหมายจับเลขที่ 2510/2556 ลงวันที่ 24 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันกระทำให้เกิดระเบิดจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่น หรือทรัพย์สินของผู้อื่น โดย ตำรวจจะเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อประสานฝ่ายสืบสวน ติดตามตัวคนร้ายดังกล่าวมาดำเนินคดีต่อไป

ส่วนกรณีของ นายอนุรักษ์ พูลทวีป ผู้ชุมนุมกลุ่มกระเบนธง ผู้ใกล้ชิดติดตาม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์  นั้น พ.ต.ท.สุภัทร กล่าวว่า ขณะนี้พบเป็นเพียงข้อมูลที่เผยแพร่ออกมาผ่านทางโซเซียลมีเดียเท่านั้น แต่ยังไม่มีพยานหลักฐานยืนยันลักษณะบุคคล หรือชื่อ-นามสกุล ผู้ต้องหาที่ชัดเจน.