25 ธ.ค.2556 สำนักข่าวไทยรายงานว่า ที่ห้องพิจารณา 807 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีดำ อ.858/2553 ที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รักษาการรองนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ฟ้องนายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์และอดีตโฆษกประจำตัว นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา กรณีเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2553 นายเทพไท จำเลยให้สัมภาษณ์หมิ่นประมาททำนองว่านายปลอดประสพ โจทก์ เป็นคนในระบอบทักษิณ และเป็นพวกล้มเจ้า
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง เนื่องจากเห็นว่าจำเลยให้สัมภาษณ์ในเชิงตั้งคำถามว่าโจทก์เป็นคนในระบอบทักษิณ เป็นพวกล้มเจ้าจริงหรือไม่ ซึ่งโจทก์เป็นนักการเมืองย่อมอยู่ในฐานะถูกวิพากษ์วิจารณ์ได้ และจำเลยพูดในลักษณะตั้งคำถาม ไม่ได้ยืนยันข้อเท็จจริง และเป็นการติชมด้วยความเป็นธรรม เป็นการพูดในสิ่งที่ตนมีส่วนได้เสีย จึงไม่ถือเป็นการหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 329 (1) ต่อมาโจทก์อุทธรณ์ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยด้วย
ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้ว เห็นว่าช่วงเกิดเหตุมีความขัดแย้งทางการเมืองสูง กลุ่ม นปช.ประท้วงขับไล่รัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ รวมทั้งมีการโจมตีสถาบันหรือที่เรียกว่า “ขบวนการล้มเจ้า” และถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้หลายราย โดยจำเลยให้สัมภาษณ์ว่ากลุ่ม นปช.เกี่ยวข้องกับขบวนการล้มเจ้า
นอกจากนี้ คำให้สัมภาษณ์ของจำเลยเป็นขบวนการล้มเจ้าหรือไม่ เห็นว่าจำเลยตอบคำถามสื่อมวลชนเกี่ยวกับพรรคคอมมิวนิสต์ เป็นการแสดงความคิดเห็นเชิงตั้งคำถามกับโจทก์ โดยมีมูลเหตุมาจากคำให้สัมภาษณ์ของโจทก์ ไม่ใช่การใส่ร้าย แต่เป็นการติชมโดยสุจริตเป็นธรรม จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท ที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องมานั้น ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์โจทก์ฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน