ขณะที่ทางการสหรัฐฯ ประกาศเดินหน้าวางแผนโจมตีซีเรียเหตุจากการใช้อาวุธเคมี เว็บไซต์ข่าว Globalpost รวบรวมความคิดเห็นส่วนหนึ่งของประชาชนชาวซีเรียและกลุ่มกบฏต่อแผนการโจมตีในครั้งนี้
เมื่อวันที่ 30 ส.ค. ที่ผ่านมา สำนักข่าว Globalpost นำเสนอความคิดเห็นของชาวซีเรียต่อการพยายามแทรกแซงด้วยกำลังอาวุธของสหรัฐฯ โดยอ้างว่ารัฐบาลซีเรียเป็นผู้ใช้อาวุธเคมีสังหารผู้คนเป็นจำนวนมาก โดยทางการสหรัฐฯ ได้รับเสียงสนับสนุนจากฝรั่งเศส และเยอรมนี ขณะที่ทางการอังกฤษจำต้องยอมรับมติในที่ประชุมสภาทำให้มีท่าทีไม่เห็นด้วยกับสหรัฐฯ
"ประชาชนชาวซีเรียได้แสดงความเห็นออกมามาก แต่ไม่มีใครฟัง"ผู้หญิงชาวดามาสกัส เมืองหลวงของซีเรีย ที่ทำงานในวงการศิลปะเคยกล่าวไว้เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา "ชาวซีเรียรู้สึกว่า ทุกคนได้รับผลประโยชน์จากความเจ็บปวดของพวกเขา"
และเมื่อสำนักข่าว Globalpost ถามถึงเรื่องแผนการจู่โจมของสหรัฐฯ กับชาวซีเรีย ก็มีความคิดเห็นออกมาดังนี้
อับดุล อะซีซ คนทำงานธนาคารกล่าวว่า คนในดามาสกัสมีความคิดเห็นต่างกันในเรื่องการโจมตีของสหรัฐฯ แต่โดยส่วนตัวเขาไม่สนับสนุนการแทรกแซงด้วยกำลังอาวุธเพราะเขาคิดว่ารัฐบาลอเมริกันเป็นศัตรูของประเทศ ขณะเดียวกันอะซีซก็บอกว่ากลุ่มที่สนับสนุนการแทรกแซงไม่ได้แสดงความคิดเห็นอย่างเปิดเผย
รามา ทาราบิชี ผู้บริหารโรงงานอุตสาหกรรมนอกกรุงดามาสกัสกล่าวว่าในตอนแรกเธอไม่คิดว่าประเทศตะวันตกจะวางแผนโจมตีจริง ส่วนตัวเธอเองรู้สึกกังวลและคับข้องใจ "สำหรับฉันแล้วเหมือนกับว่ากรณีของอิรักกลับมาเกิดขึ้นอีกครั้ง"ทาราบิชีกล่าว
ขณะที่ผู้สื่อข่าว ซารี อัคมีนาส กล่าวว่าเขาจะไม่หนีออกจากประเทศเมื่อมีการโจมตี และต้องการอยู่เพื่อช่วยสร้างซีเรียขึ้นมาใหม่ ส่วนทาลาล อตราเช จากตอนใต้ของซีเรียบอกว่าการโจมตีกองทัพซีเรียจะยิ่งทำให้กลุ่มที่ทำสงครามศาสนาเข้มแข็งขึ้น "ผมเชื่อว่าเรากำลังเฝ้าดูความย่อยยับของสังคมและประเทศ... ที่เกิดจากความขัดแย้งผลประโยชน์ทางการเมือง ยุทธศาสตร์ และเศรษฐกิจ"อตราเชกล่าว
ทางด้านอับดุลลาห์ โอมาร์ ผู้ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองที่ถูกกลุ่มกบฏยึดครองใกล้กับตุรกีเปิดเผยว่า ผู้คนส่วนใหญ่ในที่เขาอาศัยอยู่สนับสนุนการโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯ เนื่องจากพวกเขาคิดว่ามันจะทำให้ฝ่ายกบฏได้เปรียบฝ่ายรัฐบาล แต่ในความคิดของเขาเองเขาคิดว่าไม่เป็นเช่นนั้น "ประชาชนชาวซีเรียจะทนทุกข์ต่อไปไม่ว่าจะอยู่ภายใต้ฝ่ายรัฐบาลหรือกลุ่มหัวรุนแรง"โอมาร์กล่าว
บาเซล อัลมาซรี เป็นคนหนึ่งที่เคยสนับสนุนการปฏิวัติกล่าวว่า ตอนนี้ทุกอย่างดูไม่ชัดเจน ในตอนนี้เหมือนเป็นสงครามระหว่างกลุ่มหัวรุนแรงกับกลุ่มเผด็จการ อัลมาซรีกล่าวอย่างลังเลว่า การแทรกแซงจากต่างชาติอาจจะเป็นคำตอบที่เหลือเพียงอย่างเดียว
ฝ่ายกบฏมองว่า การโจมตีของสหรัฐฯ ไม่ช่วยเปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก
มูฮัมหมัด รัสลัน นักรบกลุ่มกบฏปลดปล่อยชาติซีเรีย (FSA) กล่าวว่า การโจมตีด้วยจรวดมิสไซล์อาจจะยังไม่มากพอและมาช้าเกินไป แต่กลุ่มเพื่อนนักรบกบฏและตัวเขาเองสนับสนุนการโจมตีครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม รัสลันบอกว่าจริงๆ แล้วพวกเขาต้องการให้มีคนช่วยเสริมกำลังอาวุธให้มากกว่า
ขณะที่ร้อยเอก ฟาดี เจ้าหน้าที่ของ FSA ที่ร่วมกับกลุ่มกองกำลังแนวหน้าปฏิบัติการ (Jabhat al-Umma al-Islamiya) ซึ่งอยู่ในเมืองและโดยรอบเมืองอเล็ปโป กล่าวว่าเขารู้สึกสองจิตสองใจ เพราะคิดว่าในแง่หนึ่งการโจมตีครั้งนี้ก็อาจจะไม่รุนแรงพอที่จะจัดการกับรัฐบาลซีเรีย
โดยที่โอมาร์ อัล-ฮอมซี นักรบ FSA ที่อยู่ในหน่วยปฏิบัติการพิเศษในเมืองติดกับชายแดนเลบานอนกล่าวในทางเดียวกันว่า พวกเขาไม่คิดว่าการโจมตีของสหรัฐฯ จะเปลี่ยนแปลงอะไรได้
เผยมีผู้ถ่ายทำการโจมตีด้วยอาวุธเคมีเหลือรอดเพียงคนเดียว
สถานการณ์ล่าสุดในวันที่ 31 ส.ค. คณะผู้ตรวจสอบการใช้อาวุธของสหประชาชาติได้ออกจากพื้นที่เกิดเหตุ รวมถึงมีการนำหลักฐานและปากคำของพยานกลับไปด้วย
ทางประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัก โอบามา กล่าวว่าจะมีการพิจารณาโจมตีซีเรียขณะที่นักวิจารณ์หลายคนเรียกร้องให้เขารอผลการสืบสวนของยูเอ็นเสียก่อน แต่โอบามารวมถึงรัฐมนตรีต่างประเทศ จอห์น เคอร์รี่ ก็ยืนยันว่าพวกเขาเชื่อมั่นในเรื่องที่ทางการซีเรียเป็นผู้ใช้อาวุธ โดยเคอร์รี่บอกว่ามีหลักฐานที่บ่งบอกว่ามีกลุ่มคนของรัฐบาลซีเรียอยู่ในพื้นที่เพื่อเตรียมการ 3 วันก่อนเกิดเหตุการณ์โจมตีด้วยอาวุธเคมี
เคอร์รี่กล่าวอีกว่า มีกลุ่มที่สนับสนุนการโจมตีของพวกเขาอย่างสันนิบาตอาหรับ, ตุรกี, ออสเตรเลีย และฝรั่งเศสผู้เป็น "พันธมิตรเก่าแก่ของเรา"
ขณะที่ทางการซีเรียออกแถลงการณ์กล่าวหาว่า เคอร์รี่ พยายามสร้างความชอบธรรมในการโจมตี และบอกว่าข้อกล่าวหาเรื่องการใช้อาวุธเคมีนั้นไม่มีมูลความจริง
ทางด้าน ราซาน ไซตูเนห์ จากศูนย์บันทึกการละเมิดสิทธิในซีเรีย (VDC) เปิดเผยในการสัมภาษณ์ต่อวารสาร Foreign Policy ว่า ทีมงานของ VDC และทีมสื่อของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลที่เข้าไปบันทึกภาพของการโจมตีด้วยอาวุธเคมีในซามัลกาเสียชีวิตทั้งหมด จากการสูดดมแก๊สพิษ โดยมีเธอเพียงคนเดียวที่รอดชีวิต
เรียบเรียงจาก
Here's what Syrians have to say about intervention, Globalpost, 30-08-2013
http://www.globalpost.com/dispatch/news/regions/middle-east/syria/130830/heres-what-syrians-have-say
'A crime against humanity': US makes the case for military action against Syria, The Independent, 30-08-2013
http://www.independent.co.uk/news/world/americas/a-crime-against-humanity-us-makes-the-case-for-military-action-against-syria-8792337.html
U.N. inspectors leave Syria as Obama weighs military action, CNN, 31-08-2013
http://edition.cnn.com/2013/08/31/world/meast/syria-civil-war/index.html?hpt=hp_t1