ศาลฎีกามีคำพิพากษายืนกรณี "ปภัสชนัญญ์ ฉิ่งอินทร์"เผาโลงประท้วง พล.อ.เปรม และอภิสิทธิ์ ที่โคราชเมื่อปี 52 ว่ามีความผิด ม.112 เนื่องจากข้อความที่เขียนหมายถึงพระมหากษัตริย์ไม่ใช่ พล.อ.เปรม ด้านเจ้าตัวยืนยันจงรักภักดีไม่เสื่อมคลาย พร้อมฝากคนเสื้อแดงสานต่อนิรโทษกรรมผู้ถูกจองจำและนำทักษิณกลับประเทศไทยให้ได้
เว็บไซต์ข่าวสดรายงานเมื่อวันที่ 29 ส.ค. ว่า ศาลจังหวัดนครราชสีมา อ่านคำพิพากษาของศาลฎีกา คดีที่พนักงานอัยการจังหวัดนครราชสีมา เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ปภัสชนัญญ์ ฉิ่งอินทร์ หรือเจ๊แดง อายุ 64 ปี แกนนำกลุ่มคนของแผ่นดินลูกหลานย่าโม และเป็นเจ้าของสถานีวิทยุชุมชนคนเสื้อแดงออกอากาศในเขต อ.เมือง จ.นครราชสีมา และอำเภอใกล้เคียง จำเลยความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 หรือกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ โดยพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ภาค 3 ให้จำคุกเป็นเวลา 3 ปี 10 วัน
ผู้สื่อข่าวประชาไท รายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 เม.ย. เมื่อ น.ส.ปภัสชนัญญ์ ได้ชุมนุมที่อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี มีการประท้วงด้วยการเผาโลงศพจำลองติดรูปนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ พร้อมเขียนข้อความประท้วง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และรัฐบาล
โดยการประท้วงดังกล่าวยังเป็นการล้อเลียนกรณีที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เรียก พล.อ.เปรมว่า "พระองค์ท่าน"โดยได้พูดออกอากาศในสถานีโทรทัศน์ ASTV เมื่อคืนวันที่ 3 เม.ย. ว่า "เสื้อเหลืองออกมาปกป้อง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ในฐานะที่พระองค์ท่านเป็นประธานองคมนตรี"(คลิปการพูดออกอากาศของนายสนธิ)
สำหรับคดีนี้ผู้ฟ้องจำเลยคือ ผู้สนับสนุนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ.นครราชสีมา และ พ.อ.วีระภัทรพล บุญย์เชี่ยว นายทหารเสนาธิการประจำกองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา ซึ่งเห็นว่าข้างโลงศพที่ใช้เผาประท้วงมีการเขียนข้อความเข้าข่ายความผิดมาตรา 112
สำหรับคดีนี้ในชั้นพิจารณาคดีจำเลยให้การปฏิเสธ ต่อมาเมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 53 ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาว่าการที่จำเลยนำโลงศพจำลอง มีข้อความบนสุดว่า “พระองค์ท่าน ...” บรรทัดต่อมามีข้อความว่า “พลเอกเปรม ...” และ บรรทัดต่อมาคำว่า “มรณะ 8 เมษายน 2552” จำเลยอยู่ร่วมในการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง เป็นผู้เทน้ำมันและจุดไฟเผาโลงศพจำลอง ซึ่งมีข้อความดังกล่าวปรากฏอยู่ในนั้น คำว่า “พระองค์ท่าน” นั้น หมายความถึงพระมหากษัตริย์อันเป็นที่เคารพสูงสุดของบุคคลทั่วไป การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานร่วมกันกับพวกหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย พระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ประกอบมาตรา 83 ลงโทษจำคุก 3 ปี (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง) และต่อมาศาลอุทกรณ์ และศาลฎีกา ก็มีคำพิพากษายืนดังกล่าว
โดยหลังคำพิพากษา น.ส.ปภัสชนัญญ์ ให้สัมภาษณ์ ข่าวสดก่อนเข้าถูกส่งตัวไปคุมขังในเรือนจำว่า แม้กระบวนการยุติธรรมจะถึงที่สุด แต่ก็ยังยืนยันถึงความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มิเคยเสื่อมคลาย ขอฝากถึงมวลชนคนเสื้อแดงต้องร่วมพลังสานต่อแนวทางประชาธิปไตยด้วยการต่อต้านเผด็จการ และนำ พาพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับประเทศไทย ส่วนแกนนำเสื้อแดงส่วนกลางต้องช่วยเหลือมวลชนที่ถูกจองจำ พร้อมเร่งผลักดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว