สปสช.แจงสำรองจ่ายเจ็บป่วยฉุกเฉินให้ประกันสังคมและข้าราชการ แม้ยังไม่ได้เงินคืนแต่ไม่กระทบงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพ ประชาชนที่ใช้สิทธิประกันสังคมและข้าราชการใช้บริการของ รพ.ได้ตามปกติ
27 ส.ค.56 สืบเนื่องจากกรณีที่มีการรายงานข่าวว่า สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้ทำหน้าที่สำรองจ่ายชดเชยค่ารักษาพยาบาลตามนโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินมาตรฐานเดียวให้กับสิทธิข้าราชการและสิทธิประกันสังคม แต่ทั้ง 2 กองทุนยังไม่มีการคืนเงินให้ สปสช.นั้น
นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ตามนโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินมาตรฐานเดียวนั้น รัฐบาลได้มอบให้สปสช.ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานกลางในการจัดการธุรกรรมการเบิกจ่ายค่ารักษาเจ็บป่วยฉุกเฉินและระบบข้อมูลต่างๆ (Clearing House) ซึ่งเป็นไปตามมติคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเมื่อวันที่ 11 เม.ย. 2555 ที่ให้ สปสช.ทำหน้าที่ Clearing House ในการให้บริการกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินสำหรับประชาชนทุกสิทธิตามนโยบายรัฐบาล และการดำเนินการเป็นไปตามพ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545
เลขาธิการ สปสช. กล่าวถึงขั้นตอนการดำเนินการว่า เมื่อประชาชนเข้ารักษา รพ.ที่อยู่ใกล้ที่สุด ด้วยอาการเจ็บป่วยฉุกเฉิน ผู้ป่วยไม่ต้องสำรองจ่าย รพ.รักษาทันทีแล้วจึงบันทึกข้อมูลการให้บริการ ส่งมาที่หน่วยงานเบิกจ่ายกลางซึ่ง สปสช.รับหน้าที่นี้ หลังจากนั้น สปสช.จะประมวลผลและจ่ายชดเชยให้กับ รพ.ไปก่อน แล้วจึงส่งใบแจ้งหนี้ให้แต่ละกองทุนเพื่อจ่ายเงินคืน เพื่อลดขั้นตอนที่ยุ่งยากและให้ รพ.ที่รับการรักษาได้รับเงินภายใน 15 วัน ผลการดำเนินการ 1 ปี 4 เดือน จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2556 มีผู้ป่วยเข้าถึงบริการ 26,587 ราย หรือ 30,025 ครั้ง เป็นสิทธิข้าราชการสูงสุด 16,648 ครั้งหรือร้อยละ 55.4 สิทธิหลักประกันสุขภาพ 11,359 ครั้ง หรือร้อยละ 37.8 สิทธิประกันสังคม 1,955 รายหรือร้อยละ 6.5
นพ.วินัย กล่าวว่า สำหรับการเรียกเก็บเงินนั้น ทั้งสำนักงานประกันสังคม (สปส.) และกรมบัญชีกลางยังคงติดขัดในเรื่องระเบียบของแต่ละหน่วยงาน ซึ่งต้องมีการแก้ไขและดำเนินการก่อน จึงจะเบิกเงินคืนให้กับ สปสช.ได้ แต่ยืนยันว่า จำนวนเงินที่ สปสช.สำรองจ่ายไปก่อนนั้น จะได้รับเงินคืนอย่างแน่นอน และไม่ส่งผลกระทบต่องบประมาณในการให้บริการกับประชาชนในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าแต่อย่างใด รวมถึงประชาชนในสิทธิสวัสดิการข้าราชการและสิทธิประกันสังคม หากเกิดเหตุกรณีฉุกเฉินก็สามารถเข้ารับบริการตามขั้นตอนปกติ