แถมจะดีขึ้นถ้าพัฒนาเรื่องที่ถูกต้อง แต่ถ้ามีรถไฟความเร็วสูง และไม่ได้จับปัญหาใหญ่จริงๆ ประเทศไทยเจ๊งแน่นอน - หวั่นเงินกู้ 2.2 ล้านล้าน ทำประเทศเจ๊งไม่เกิน 4 ปี อัดเส้นทางรถไฟความเร็วสูงหัวกุด-ไม่สามารถเชื่อมเพื่อนบ้านได้จริง และมี "คนใส่หูกระต่าย"อยู่เบื้องหลัง
นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (ที่มา: แฟ้มภาพ/เอเอสทีวี)
เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์รายงานว่า เมื่อวันที่ 29 มี.ค. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวในรายการ"คุยทุกเรื่องกับสนธิ"ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV ช่วงหนึ่ง ถึงกรณีพันธมิตรฯถูกดำเนินคดีปิดสนามบิน ว่าเป็นเกมซึ่งนายอธิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ต้องการที่จะกั๊กพันธมิตรฯ เพราะเขาคิดว่าจะได้เป็นรัฐบาลต่อไป จึงเอาเชือกมาแขวนคอทุกคนไว้ เพื่อไม่ให้พันธมิตรฯออกมาประท้วง เพราะว่าคำสั่งศาลจะต้องบอกว่าห้ามก่อความวุ่นวาย ห้ามชุมนุม เพราะถ้าทำมีสิทธิถูกถอนประกัน เพราะผิดเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราว ฉะนั้นผู้สนับสนุนประชาธิปัตย์ที่ยุให้พันธมิตรฯออกไปชุมนุมไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ทำไมไม่ออกเอง เราจะนั่งให้กำลังใจ ก็ในเมื่อพวกคุณขอยืมมืออัยการล็อกคอเราไว้
"ก็มันจะผิดได้ยังไง เราไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย เราไม่ได้ไปยึดสนามบิน เราไปประท้วง ตามสิทธิอันชอบธรรมของเรา สนามบินสุวรรณภูมินี่มีแท็กซี่ไปปิดตั้งไม่รู้กี่ครั้ง ไม่ใช่แค่เราคนเดียว แล้วก็ไม่ได้ไปทำอะไร กระจกสักบานก็ไม่ได้แตก เสร็จเรียบร้อยแล้วการส่งมอบคืนสนามบินนั้น เจ้าหน้าที่สนามบิน กรรมการสนามบิน ก็กรรมการของการท่าอากาศยาน ก็มายืนยันกับพี่ลอง บอกว่าทุกอย่างเรียบร้อยหมด คืนดี เสร็จเรียบร้อยเราก็ไม่ได้ไปบล็อก คนจะเดินทางไปต่างประเทศ กรรมการผู้จัดการสนามบินเป็นคนสั่งปิดสนามบินเอง ไม่ใช่เรา ทั้งๆ ที่เวลาตอนนั้นจะมีการไปจาริกบุญที่เมกกะ เรายังจำได้ เราเป็นคนเปิดทางให้เขาเข้าไป แต่เขาตัดสินใจ เขาต้องการปิดเพื่อสร้างสถานการณ์ให้เห็นว่าเพราะเรา เขาถึงต้องปิดสนามบิน แต่สมัยที่แท็กซี่มา ทำไมเขาไม่ปิดสนามบิน เขาจงใจไง แล้วในการนำสืบในคดีแพ่ง ทางเจ้าหน้าที่สนามบินเขาก็ยืนยัน ว่าเราไม่ได้ปิด เขาเป็นคนสั่งปิดเอง เขายืนยันด้วยตัวเขาเองนะ"นายสนธิ กล่าวตอนหนึ่งในรายการ
ส่วนกรณี "ร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ. ..."เป็นวงเงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาทนั้น นายสนธิกล่าวว่า การที่เป็นรัฐบาลจะทำหนี้ก้อนมโหฬารมันต้องหันกลับมาดูประเทศก่อนว่าปัญหาของประเทศจริงๆ มันอยู่ที่ไหน มันไม่ได้อยู่ที่ไม่มีรถไฟความเร็วสูง และไม่ได้อยู่ตรงที่ต้องขนส่งได้เร็ว แต่ประเทศไทยตอนนี้ต้องพัฒนาคุณภาพคนและพัฒนาการเกษตรให้ยั่งยืน แต่ 2.2 ล้านล้านบาท เราพูดถึงโครงการก่อสร้างทั้งหมด ไม่ได้พูดถึงการพัฒนาคุณภาพคนเลยแม้แต่นิดเดียว
"ถามว่าถ้าเราไม่มีรถไฟความเร็วสูง อีก 10 ปีค่อยทำ ประเทศไทยเจ๊งไหม ไม่เจ๊ง แต่จะดีขึ้นถ้าพัฒนาเรื่องที่ถูกต้อง แต่ถ้ามีรถไฟความเร็วสูง และเราไม่ได้ไปจับปัญหาใหญ่จริงๆ ประเทศไทยเจ๊งแน่นอน"
"วันนี้คนบอกว่าเป็นหนี้ 50 ปี มองแต่ว่าต้องผ่อนถึง 50 ปี แต่ผมมองอีกประเด็นนึง สมมุติว่าไม่ถึง 50 ปี ไม่เกิน 4 ปีประเทศไทยเจ๊ง เพราะไอ้หนี้ก้อนนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นอะไรรู้ไหม สิ่งที่เกิดขึ้นคือว่า ค่าเงินบาทจะกลายเป็น 38 - 42 บาทต่อ 1 ดอลลาร์เหมือนเดิม ถูกไม่ถูก ประเทศไทยอยู่ในสภาวะล้มละลาย ทรัพย์สินต่างๆ ถูกเลหลังขายหมด การไฟฟ้าฝ่ายผลิตต้องถูกขายไป องค์การโทรศัพท์ถูกขายไป รัฐวิสาหกิจที่ทำเงินถูกขายไปหมด ปตท.ต้องขายหมด 100 เปอร์เซ็นต์ การบินไทยขายหมด 100 เปอร์เซ็นต์ในราคาถูก และวันนั้นใครจะมาซื้อฝรั่งหัวดำ ที่มันมีเงินรออยู่แล้วจากการซึ่งมันคดโกงไป และเอาเงินออกไปข้างนอก เข้าใจหรือยัง เพราะฉะนั้นแล้วไอ้พวกนี้มันมีทางออกเผื่อของมันไว้เรียบร้อยแล้ว ทำไปถ้าไปก็ดีถ้าไปไม่ได้เจ๊งกูเข้ามาช้อนซื้อ ไม่ใช่เงินกู เงินของประเทศไทยเข้าใจไหม"นายสนธิกล่าว
นายสนธิ กล่าวต่อว่า รัฐบาลพยายามบอกว่าใช้รถไฟความเร็วสูงขนส่งผัก ถามว่ามูลค่าของผัก ผลไม้ หรือดอกไม้ มันคิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์กันของยอดเงินที่ลงไปทำรถไฟ และที่อ้างว่าต้องการเชื่อมภูมิภาค มันหลอกได้เฉพาะคนโง่ วันนี้จีนต้องการให้ไทยทำรถไฟความเร็วสูง เพราะจีนเริ่มจากปักกิ่งลงมาเซี่ยงไฮ้ ลงกวางโจว จะเป็นกวางสี ต่อไปเวียดนาม ผ่านดานัง ลงไปที่ลาว แล้วไปจ่อตรงหนองคาย แล้วถ้าข้ามจากหนองคายก็เชื่อมกับความเร็วสูงของไทย ลงจากหนองคายไปสู่มาเลเซีย จะเป็นสายที่สมบูรณ์ตามที่จีนต้องการ เส้นนี้ต่างหากจะเป็นเส้นที่เชื่อมต่อภูมิภาคนี้ แต่คุณจะไปเชื่อมต่อพม่าหรืออย่างไร จะไปทะลุเทือกเขาตะนาวศรีหรือ บ้าหรือเปล่า มันไม่ได้ มันมีอยู่เส้นเดียว แล้วถ้าเส้นนี้มันเป็นยุทธศาสตร์ที่จีนต้องการทำไมเราต้องเสียเงินหลายแสนล้านเพื่อสร้าง แค่ให้สัมปทานจีนไปสร้างแล้วเก็บค่าเช่าเอา แล้วเรามาทำรถรางคู่ทั้งหมด ให้เชื่อมถึงกัน ใช้เงินไม่กี่แสนล้าน
ทั้งนี้นายสนธิ เสนอในรายการด้วยว่า ควรพัฒนารถไฟรางคู่ที่สามารถทำความเร็วที่ 160 กม. ต่อ ชม. เชื่อมภูมิภาค เพื่อทำให้คนที่ทำงานใน กทม. ย้ายออกไป ซึ่งจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจและการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ได้
"ใช้สูตรที่ผมบอก ถ้าเชียงใหม่ 160 โลมาที่ไหน เชียงใหม่ก็ลงมาได้ ลงมาเกือบๆ ถึงพิษณุโลกถูกไหม ทั้งหมดลงทุนไม่กี่ตังค์ สิ่งที่จะเกิดขึ้นคืออะไร รถไฟความเร็ว 160 กิโลเท่านั้นเอง รางคู่ เติมอยู่ตรงปราณบุรี เติมไปซื้อบ้านที่ปราณบุรี เติมนั่งรถไฟ 1 ชั่วโมงเข้ามากรุงเทพฯ มาทำงาน พอลงจากสถานีรถไฟ เติมลงสถานีรถไฟใต้ดินไปที่ไหนก็ได้ มาขึ้นเอเอสทีวีมาลงบางลำพู และเดินมาที่ตึก เติมเสร็จแล้วตอนดึกเติมก็นั่งรถไฟกลับ สิ่งที่จะเกิดขึ้นคืออะไร เหมือนที่เขาต้องการให้เกิด ดีกว่าเสียด้วยซ้ำ อสังหาริมทรัพย์มันเกิดหมดทั่วไปเลย มันเกิดที่ปราณบุรี เกิดที่หัวหินเข้าใจยัง ทุกอย่าง รถคนก็จะย้ายจากกรุงเทพฯ ไปอยู่ มีเมืองใหม่เกิดขึ้น มีชุมชนเกิดขึ้น เบ็ดเสร็จทั้งหมดเศรษฐกิจมันฟื้นฟู มันเกิดขึ้นมาทันที ด้วยเงินเพียงไม่กี่แสนล้านบาท"
"นี่คือปรัชญาการลงทุนไง ทีนี้การลงทุนแบบนี้ หรือการลงทุนแบบสร้างโรงงานทำวัตถุแปรรูปของยางพวกนี้ มันใช้เวลา วันนี้เขาต้องการที่จะทำรถไฟความเร็วสูง ประเภทบ้าๆ บอๆ เชื่อมทุกอย่าง แต่เชื่อมอะไรของมันก็ไม่รู้ ทางเหนือไปจบที่พิษณุโลก ทางอีสานไปจบที่โคราช คุณเชื่อมอะไรของคุณ"
วันนี้ที่รัฐบาลต้องการทำรถไฟความเร็วสูงบอกจะเชื่อมทุกอย่าง แต่เชื่อมอะไรก็ไม่รู้ ทางเหนือไปจบที่พิษณุโลก ทางอีสานไปจบที่โคราช ทั้งที่มันหัวกุด เชื่อมอยู่ได้เพียงจุดเดียวคือหนองคายและเข้าลาว จากลาวเข้าเวียดนาม จากเวียดนามเข้ากวางสี จากกวางสีไปเชื่อมจากจีน มีอยู่แค่นั้นเอง ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะมันต้องการที่จะใช้เงินประมูล เมื่อเกิดการประมูลแล้วจะมีผลประโยชน์ตามมา เพราะฉะนั้นแล้วตรรกะของการออกแบบทุกอย่าง ไม่มีแม้กระทั่งตัวเลข ไม่มีโมเดลเลย และก็บอกพูดให้ดูสวยหรู
"และถ้าคุณบอกรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ -เชียงใหม่ลงเกือบ 4 แสนล้านบาท คุณรู้ว่าผมมาเช็กแล้วสายการบินที่บินจากกรุงเทพฯ ถ้าออกจากสุวรรณภูมิไปเชียงใหม่ วันละ 26 เที่ยว เฉลี่ยมีคนขึ้นประมาณวันละเบ็ดเสร็จ 26 เที่ยว ประมาณ 3,000-4,000 กว่าคน เติมว่า 4,000 คน ถ้ามีรถไฟความเร็วสูง จะมีสักกี่คนนั่งรถไฟความเร็วสูง ไม่ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ผมให้ 30 เปอร์เซ็นต์ 1,200 คน มันคุ้มหรือ แล้วเห็นว่าค่าตั๋วแพงกว่าเครื่องบินโลว์คอสต์อีกแล้วใครจะขึ้น"
นายสนธิ กล่าวต่อว่า มันเป็นการใช้เงินเกินตัว ไม่มีเหตุผลในการลงทุนเลยแม้แต่นิดเดียว ตรรกะในการสร้างเส้นทางโน้นเส้นทางนี้ ทำขึ้นมาเพื่อแค่ให้ความชอบธรรมในการกู้เงินแค่นั้นเอง แล้วพูดแบบสร้างฝัน เป็นสไตล์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร บอกเพื่อการแข่งขันในอนาคต เราจะไปแข่งอะไรกับใครได้ถ้าคุณภาพของคนยังห่วย และที่สำคัญต้องเจียมเนื้อเจียมตัวในการใช้เงิน
"คือพูดแบบสร้างฝัน เป็นสไตล์ของทักษิณ ชินวัตร และเป็นสไตล์ของคนใส่หูกระต่าย นิสัยแบบเดียวกัน นิสัยแบบเดียวกันเลย มันต้องเชื่อมอย่างโน้น ต้องเชื่อม เพื่อการแข่งขันในอนาคต เราจะไปแข่งขันอะไรกับใคร คุณจะไปแข่ง การที่คุณมีระบบคมนาคมที่ดี ที่คุณฟุ้งเฟ้อว่าดี แต่คุณภาพของคนแม่งห่วย คุณจะแข่งอะไรกับเขา"
สรุปทั้งหมดที่พูดมา กู้มาเพื่อโกง เหตุผลที่เขียนมาโกหกทั้งสิ้น ต้องการกู้มาเพื่อมีการประมูลแล้วโกงกัน เพราะถ้ากู้เพื่อพัฒนาประเทศจริง ข้อแรกต้องคำนึงสถานภาพทางความมั่นคงทางการเงินของเรา วันนี้ถ้าหบวกกับที่กู้มาทำเรื่องน้ำ 3.5 แสนล้านบาท หนี้ต่อจีดีพีของเราแตะที่ 60 เปอร์เซ็นต์แล้ว และเศรษฐศาสตร์ของประเทศก็ไม่มีใครออกมาพูด ถ้านักวิชาการไทยเก่งแต่เฉพาะในห้องเรียนแบบนี้ อย่ามีดีกว่า
ในรายการ นายสนธิ ยังกล่าวถึง น.ส.กานดา นาคน้อย นักวิชาการเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยคอนเน็ตทิคัต สหรัฐอเมริกา ซึ่งเขียนบทความเรื่อง "กานดา นาคน้อย: ปัญหาของร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้าน"โดยกล่าวว่า "เขากล้าพูด และเขาก็พูดมีเหตุมีผลด้วย ผมค่อนข้างยอมรับการวิเคราะห์ของเขา ใช้ได้ แต่ไอ้นักเศรษฐศาสตร์คนอื่น มันอมหัวแม่ตีนอยู่หรือไง นี่คือบทบาทนักวิชาการ ถ้าเรามีนักวิชาการไทยที่ตู้แบบนี้ โง่แบบนี้ ไม่ใส่ใจแบบนี้ เก่งเฉพาะในห้องเรียน เก่งเฉพาะนั่งออกทีวี อธิบายเรื่องจีดีพี อย่ามีดีกว่า"