หลังศาลตัดสินผู้เสียชีวิต 6 ราย ที่วัดปทุมฯ 19 พ.ค. 53 เสียชีวิตจากกระสุนทหารบนราง BTS นั้น ล่าสุด "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ"ตอบกระสุนปืนมาจากฝั่งทหาร แต่ไม่แน่ชัดว่าเป็นฝีมือใคร ด้าน "ธาริต เพ็งดิษฐ์"เล็งฟ้องอภิสิทธิ์-สุเทพ ข้อหาสั่งฆ่าคนตายเจตนาเล็งเห็นผล
ทหารบนรางรถไฟฟ้า BTS ใกล้สถานีสยาม เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 (คลิกเพื่อชมภาพชุด)
จากกรณีที่ศาลอาญากรุงเทพฯ ใต้ มีคำสั่งกรณีไต่สวนคําร้องชันสูตรการเสียชีวิต ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 4 ยื่นคําร้องให้ศาลไต่สวนการเสียชีวิตของ นายสุวัน ศรีรักษา นายอัฐชัย ชุมจันทร์ นายมงคล เข็มทอง นายรพ สุขสถิต น.ส.กมนเกด ฮัคอาด และนายอัครเดช ขันแก้ว ซึ่งถูกยิงเสียชีวิตที่วัดปทุมวนาราม เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2553 และศาลมีคำสั่งว่าผู้ตายทั้ง 6 เสียชีวิตเนื่องมาจากถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด .223 หรือ 5.56 มม. ซึ่งวิถีกระสุนปืนยิงมาจากเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยอยู่บนรางรถไฟฟ้าบีทีเอส หน้าวัดปทุมวนารามราชวรวิหาร และบริเวณถนนพระรามที่ 1 ซึ่งเข้าควบคุมพื้นที่บริเวณแยกราชประสงค์ตามคำสั่งของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ ศอฉ. นั้น (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)
อภิสิทธิ์ระบุ ยังไม่ยืนยันแน่ชัดว่าเป็นฝีมือใคร
ขณะเดียวกันเมื่อวานนี้ (6 ส.ค.) ที่ศาลอาญากรุงเทพฯ ใต้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมีนัดไต่สวนชันสูตรพลิกศพ คดีหมายเลขดำ ช.1/2555 ไต่สวนการเสียชีวิตของนายฮิโรยูกิ มูราโมโตะ, นายวสันต์ ภู่ทอง และนายทศชัย เมฆงามฟ้า ซึ่งเสียชีวิตหน้าโรงเรียนสตรีวิทยา ถนนดินสอ เมื่อวันที่ 10 เม.ย.53 นั้น ภายหลังการนัดไต่สวน ไทยโพสต์ได้เผยแพร่คำให้สัมภาษณ์ของนายอภิสิทธิ์ ซึ่งกล่าวถึงคำสั่งของศาลดังกล่าวว่า "กระสุนปืนมาจากฝั่งเจ้าหน้าที่ทหาร แต่ยังไม่ยืนยันแน่ชัดว่าเป็นฝีมือของใคร"
นอกจากนี้มีรายงานด้วยว่า นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ระบุว่า ดีเอสไอจะทำการสอบสวนคดีดังกล่าวเพื่อหาผู้กระทำความผิด และมีแนวโน้มว่าจะแจ้งข้อกล่าวหากับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรีเพิ่มเติมในฐานะผู้ออกคำสั่งแก่เจ้าหน้าที่ ในข้อหาร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล เมื่อแจ้งข้อกล่าวหาแล้วก็จะมีความเห็นควรสั่งฟ้องส่งอัยการเช่นเดียวกับคดีการเสียชีวิตของรายอื่นๆ ที่ศาลไต่สวนแล้วว่าเป็นการกระทำจากทหาร
โฆษก ทบ. บอกอย่าด่วนสรุป เพราะยังไม่ถึงขั้นคดีอาญา
ด้าน ข่าวสดรายงานความเห็นของ พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ซึ่งกล่าวว่า ตามที่ศาลมีคำสั่งว่าถูกยิงจากอาวุธปืนซึ่งวิถีกระสุนมาจากเจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่โดยยังไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ลงมือกระทำ ตามที่สื่อได้นำเสนอไปนั้น อย่าเพิ่งด่วนสรุปเป็นแค่กระบวนการไต่สวนฯ และยังไม่มีการพิจารณาดำเนินคดีอาญา ถ้าจะมีการพิจารณากันจริงๆ จะต้องอาศัยองค์ประกอบทางด้านพยานหลักฐานอีกมากมายหลายขั้นตอน ไม่ว่าจะเรื่องคราบเขม่าดินปืนที่ปรากฏที่มือของผู้ตายบางคน ผลการตรวจก็ยังขัดแย้งกันอยู่คงต้องพิสูจน์กันต่อไป กรณีมีหรือไม่มีชายชุดดำก็ต้องไปดูที่พยานหลักฐานอย่างละเอียดอีกที เพราะสังคมทราบดี อาวุธปืนที่ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมปล้นยึดไปก็ถูกตรวจพบอยู่ในวัดฯ เมื่อ 20 พ.ค.53 ซึ่งช่วงนั้นโดยเฉพาะในขณะที่มีการเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ทั้งทหาร และตำรวจเองก็ยังไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่ได้ กำลังพลของกองทัพบก คงไม่ต้องวิตกกังวล กองทัพบกขอยืนยันว่าจะใช้แนวทางด้านกฏหมายตามกระบวนการยุติธรรมให้ได้อย่างดีที่สุด สำหรับกรณีคดีที่เจ้าหน้าที่ทหารถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ทางกองทัพบกได้มีการทวงถามติดตามความคืบหน้าเรื่องคดีฯ กับเจ้าพนักงานที่รับผิดชอบอยู่ตลอดด้วยเช่นกัน