หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ สวน บก.ลายจุด ยืนยันพูดคำไหนคำนั้น หลัก 2 ต่อ 1 ไม่ขอนิรโทษกรรมตัวเอง-สุเทพแลกทักษิณกลับมารับผิด ชี้ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับวรชัย พวกที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพจะได้ประโยชน์ด้วย
คลิปนายอภิสิทธิ์ ปราศรัย 27 ก.ค.56
27 ก.ค.56 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ปราศรัยในเวทีประชาชน “หยุดกฎหมายล้างผิดคิดล้มรัฐธรรมนูญ หยุดเงินกู้ผลาญชาติ หยุดอำนาจฉ้อฉล” ณ สวนเบญจสิริ เขตคลองเตย กรุงเทพฯ ตอนหนึ่งยืนยันว่าตัวเองและนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ไม่เรียกร้องนิรโทษกรรม พร้อมทั้งยืนยันหลักการที่ตนเองเคยพูดไว้ว่า “พูดก็พูดด้วยความเป็นธรรม จะเสื้อแดง หรือผู้ชุมนุมที่เสียชีวิต ผมกับคุณสุเทพ ไม่เคยเรียกร้องให้นิรโทษกรรมเลย เราบอกว่า พิสูจน์ความจริงกัน ผมเห็นนักเคลื่อนไหวฝ่ายเสื้อแดงให้สัมภาษณ์ 2 – 3 วันก่อนว่านายอภิสิทธิ์ยังยืนยันหรือเปล่า ไปอยู่ที่ไหนมา คนอย่างผมพูดคำไหนคำนั้น ไม่เปลี่ยนอยู่แล้ว อย่าเอาสันดานนายคุณมาวัดคนอื่น”
คำยืนยันของนายอภิสิทธิ์นี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา ในเวทีรับฟังความคิดเห็นต่อร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับประชาชน ที่จัดโดยกลุ่มญาติผู้เสียหายจากเหตุการณ์ทางการเมือง เม.ย.-พ.ค.53 นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด แกนนอนกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง กล่าวตอนหนึ่งถึงนายอภิสิทธิ์ว่า "ผมอยากจะฟังท่าทีคุณอภิสิทธิ์ ตกลงเหลือ 3 คนจริงหรือเปล่า ไอ้ที่ไปท้าในสภาว่าเหลืออภิสิทธิ์-สุเทพ-ทักษิณ อะไรอย่างนั้น ตกลงยังยืนยันไหมหลักการนี้"
คลิปที่ บก.ลายจุด ถามท่าทีนายอภิสิทธิ์ถึงหลัก 2 ต่อ 1 เมื่อ 25 ก.ค.
ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ ได้อภิปรายคัดค้านข้อเสนอปรองดองที่กำลังผลักดันกันในสภา เมื่อวันที่ 5 เม.ย.55 ซึ่งตอนหนึ่งอภิปรายถึงหลักการ 2 ต่อ 1 ว่า "และที่มีการท้าว่า 2 ต่อ 2 หรือไม่นั้น ผมให้ 2 ต่อ 1 คือ นิรโทษกรรมให้ทุกคนยกเว้นคน 3 คนคือ ผม นายสุเทพ และพ.ต.ท.ทักษิณ ท่านนายกฯ จะเอาหรือไม่ ขอให้มีแค่ 3 คนเท่านั้น ผมพร้อมที่จะรับผิดชอบต่อประชาชนและประเทศ"
นายอภิสิทธิ์กล่าวย้ำในครั้งนั้นด้วยว่า "ผมต่อให้ 2 ต่อ 1 ผมกับคุณสุเทพ 2 คน ไม่รับการนิรโทษกรรม แลกกับคุณทักษิณไม่นิรโทษกรรมคนเดียว ที่เหลือนิรโทษให้หมด อย่างนี้ประชาชนไม่ต้องเดือดร้อน และคุณทักษิณกลับมาสู้คดีเลย วันนี้อย่าลากสภาไปรองรับการตอบโจทย์ของใคร ซึ่งไม่ได้แก้ปัญหาของบ้านเมืองอย่างแท้จริง อย่าทำให้คำว่าปรองดองถูกปล้น และอย่าให้นายปรองดองถูกลักพาตัว แล้วไปเอาเสื้อนิรโทษกรรมมาคลุมใส่ พวกผมไม่ได้เรียกร้องอะไรไปมากกว่านี้ และพร้อมที่จะสนับสนุนหากกระบวนการนั้นจะทำให้เกิดความปรองดองอย่างแท้จริง"
คลิปที่นายอภิสิทธิ์ อภิปรายถึงหลัก 2 ต่อ 1 ในการนิรโทษกรรม 5 เม.ย.55
อย่างไรก็ตามในการปราศรัยในเวทีประชาชน เมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมานายอภิสิทธิ์ ยังระบุด้วยว่า ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับ นายวรชัย เหมะ พวกที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพจะได้ประโยชน์ด้วย โดยเขากล่าวว่า “พี่น้องครับ ยิ่งไปกว่านั้น กฎหมายนายวรชัยนั้นไม่ได้นิรโทษกรรมเฉพาะคนที่ไปชุมนุม เขียนด้วยว่า แม้ไม่ไปชุมนุม ถ้าทำความผิดที่เป็นแรงจูงใจทางการเมือง ยุยงส่งเสริมให้คนต่อต้านรัฐ ให้ได้รับการนิรโทษกรรมด้วย ไม่จำเป็นต้องไปทำร้ายร่างกาย ไม่จำเป็นต้องไปเผา ถ้าไปละเมิดสิทธิ์คนอื่น ด้วยการแสดงออกด้วยวิธีการใดๆ ให้ได้รับการนิรโทษกรรมด้วย ผมถามต่อ ทั้งที่อยู่บนเวที ทั้งที่อยู่ข้างล่าง ทั้งที่อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ไอ้พวกที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพทั้งหลายนี้ ก็ได้ประโยชน์จากกฎหมายนี้ด้วย เพราะพูดมาตลอดนี่ครับ เคลื่อนไหวกันมาตลอดบอกว่า เป็นเรื่องความผิดทางการเมือง
นายอภิสิทธิ์ปราศรัยย้ำด้วยว่า “บางทีเรียกกันว่า ครึ่งซอยๆ นี่ คิดว่าไม่มีอะไร ไม่ใช่ครับ ความผิดหนักหนาสาหัสอย่างนี้ แล้วไม่นิยามกันให้ชัด อาทิตย์ที่แล้วนี่ ผมอธิบายเลยว่า ฉบับของญาติผู้เสียชีวิต ซึ่งผมไม่ได้เห็นด้วยทั้งหมด แต่อย่างน้อยเขาเขียนให้มันชัดไปเลย คนฝ่าฝืน พ.ร.ก. ได้ คนทำผิดลหุโทษได้ คนที่ไปประทุษร้ายร่างกายชีวิตคนอื่นไม่ได้ อย่างนี้ชัดครับ แต่ของ วรชัย บอกแค่ว่า การกระทำใดๆ ถ้ามีมูลเหตุจูงใจทางการเมือง ได้รับการนิรโทษกรรม ผมฟังนักวิชาการพูด อธิบายดีครับ ที่จริงคำว่า นิรโทษกรรม นั้น ภาษาอังกฤษใช้คำว่า Amnesty รากศัพท์ของคำว่า Amnesty นี้ มาจากภาษากรีก คือการลืม คือขอให้ลืมๆ กันไป แต่ก่อนที่คนเราจะลืมได้นั้น มันต้องรู้ มันต้องจำได้ก่อน ของวรชัยยังไม่รู้เลยว่า รู้อะไร จำอะไร มันจะลืมหมดเลย ทั่วโลกนี่เขาจะนิรโทษกรรมเขาถึงต้องนิยามกันให้ชัดก่อนว่าอะไรเกิดขึ้น แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความตรงไหนอย่างไร ถ้าอยากจะลืม เลิกแล้วต่อกันก็ระบุให้ชัด ไม่ใช่มาเขียนคลุมเครืออย่างนี้ แล้วไอ้ฉบับสุดซอย มันมาต่อยอดง่ายๆ เลย บอกว่า ไอ้คดีที่ทักษิณทุจริตทั้งหมดถือเป็นคดีการเมือง ง่ายไหมล่ะครับ”
“นี่คือเหตุผลที่พวกผมถึงต่อต้านกฎหมายนิรโทษกรรมทั้งหลายที่อยู่ในสภา และเราไม่วางใจหรอกว่าวันที่ 7 (ส.ค.) จะเป็นฉบับของวรชัยฉบับเดียว เราไม่มีทางรู้จะเกิดอะไรขึ้น เพราะเขาถือคติอย่างเดียวว่า เขามีเสียงข้างมาก อยากจะทำอะไรก็จะทำ...ผมอยากจะเตือนรัฐบาลว่า ความคิดอย่างนี้ทำรัฐบาลพังมาหลายยุคแล้ว และความผิดอย่างนี้ตั้งแต่ต้น ทำให้คนบางคนถึงกลับประเทศไม่ได้ไงล่ะ” นายอภิสิทธิ์ปราศรัย