ผู้นำกองทัพรัฐฉานเดินสายทั่วพม่า ล่าสุดหารือกับขุนทุนอู ผู้นำพรรค SNLD ที่ย่างกุ้ง ทั้งเรื่องการเจรจาสันติภาพกับพม่า หารือเรื่องให้ชาวไทใหญ่เกือบล้านคนกลับไปรัฐฉาน และทำบัตรประชาชน ในช่วงที่พม่าจะทำสำมะโนประชากรในปี 2557 และเรื่องปล่อยนักโทษการเมือง
พล.ท.เจ้ายอดศึก ผู้นำกองทัพรัฐฉาน RCSS/SSA หารือกับเจ้าขุนทุนอู ผู้นำพรรคสันนิบาตแห่งชาติไทใหญ่เพื่อประชาธิปไตย (SNLD) ที่บ้านพัก บนถนนแปร นครย่างกุ้ง เมื่อ 12 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยในช่วงนี้ พล.ท.เจ้ายอดศึก อยู่ระหว่างเดินทางไปยังหลายเมืองในพม่าและในรัฐฉานเพื่อหารือทางการเมืองกับกลุ่มต่างๆ รวมทั้งรัฐบาลของประธานาธิบดีเต็ง เส่ง และผู้นำฝ่ายค้านอย่างนางออง ซาน ซูจีด้วย (ที่มา: สำนักข่าวฉาน)
เจ้าหาญหยองห้วย ลูกของเจ้าส่วยแต็ก เจ้าฟ้าหยองห้วย และประธานาธิบดีคนแรกของพม่า, จายอ้ายเปา ผู้นำพรรค SNDP, เจ้ายอดศึก ผู้นำกองทัพรัฐฉาน RCSS/SSA, เจ้าขุนทุนอู ผู้นำพรรค SNLD และเจ้าเสือแท่น ผู้นำกองทัพรัฐฉานเหนือและพรรคก้าวหน้ารัฐฉาน SSPP/SSA พบปะสนทนาและรับประทานอาหารร่วมกัน ที่ Chatrium Hotel นครย่างกุ้ง หลังจากที่ เจ้ายอดศึกกับคณะ ได้ไปพบเจ้าขุนทุนอู ที่สำนักงานพรรคหัวเสือ SNLD (ที่มา: RFA/Khurtai Maisoong)
สำนักข่าวฉานรายงานว่า เมื่อวันพุธที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น 16.00 น. พล.ท.เจ้ายอดศึก ผู้นำสภากอบกู้รัฐฉาน RCSS/SSA ได้พบหารือกับเจ้าขุนทุนอู ผู้นำพรรคหัวเสือ หรือพรรคสันนิบาตแห่งชาติไทใหญ่เพื่อประชาธิปไตย (Shan Nationalities League for Democracy -SNLD) ยังบ้านพัก บนถนนพเย (ถนนแปร) ในนครย่างกุ้ง โดยทั้งสองฝ่ายได้หารือกันถึงเรื่องสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน รวมไปถึงประเด็นต่างๆที่เกี่ยวข้องกับรัฐฉาน โดยหลังเสร็จสิ้นการหารือ ผู้นำได้ออกมาแถลงต่อสื่อมวลชน
ระหว่างการหารือของผู้นำทั้งสองฝ่าย มีประเด็นหลัก 3 ข้อ ที่ถูกหยิบยกมาหารือ นั่นคือ 1.ประเด็นเรื่องกรอบการเจรจาทางการเมือง 2.ทางเลือกการแก้ไขปัญหาแรงงานชาวไทใหญ่ที่อยู่ในประเทศไทย 3.การเรียกร้องปล่อยตัวนักโทษทางการเมืองทั้งหมด
เกี่ยวกับประเด็นข้อที่ 1 นั้น ได้มีการหารือกันว่า ทางพรรคหัวเสือและ RCSS/SSA จะเข้าร่วมในการบวนการสันติภาพที่ประธานาธิบเต็งเส่งได้ปูทางไว้อย่างไร นอกจากนี้ยังได้หารือเกี่ยวกับการประชุมใหญ่ทางการเมืองที่จะเกิดขึ้นปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า ระหว่างรัฐบาลและกลุ่มต่างๆ ซึ่งนำโดยประธานาธิบดีเต็งเส่ง ทางพรรคหัวเสือและRCSS/SSA รวมไปถึงกลุ่มต่างๆ ทั้งกลุ่มการเมืองและทหารในรัฐฉานและรัฐอื่นๆ จะเข้าร่วมได้อย่างไร
เกี่ยวกับประเด็นที่ 2 สืบเนื่องจากจำนวนชาวไทใหญ่ที่มีอยู่ในประเทศไทยนั้นมีเป็นจำนวนมาก ตามข้อมูลระบุว่า มีชาวไทใหญ่อยู่ในประเทศไทยราว 5 แสนคน ขณะคาดการณ์กันว่า หากนับรวมกับจำนวนที่ตกสำรวจอาจมีชาวไทใหญ่อยู่ในประเทศไทยมากถึง 8 แสน -1 ล้านคน ส่วนสาเหตุที่มีชาวไทใหญ่อพยพมาอยู่ในไทยมากมายเช่นนี้ มาจากนโยบายตัด 4 ของรัฐบาลทหารพม่าชุดเก่าในช่วงปี 2539 ทำให้ชาวบ้านหนีภัยสงครามข้ามมายังฝั่งไทยเป็นจำนวนมาก
เรื่องนี้ทางเจ้ายอดศึกและทางเจ้าขุนทุนอูได้หารือกันว่า จะทำอย่างไรให้คนไทใหญ่กลับไปรัฐฉาน และทำบัตรประชาชน โดยเฉพาะในปี 2557 ที่จะถึงนี้ ที่จะมีการสำรวจประชากรครั้งใหญ่ในพม่า และจะร่วมมือทำงานกับทางรัฐบาลเต็งเส่งอย่างไร เพื่อที่จะหาที่อยู่ที่ทำกินให้กับชาวไทใหญ่ที่เดินทางกลับจากประเทศไทย
ส่วนประเด็นนที่ 3 ทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกันอย่างไรเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลปล่อยตัวนักโทษที่ต้องคดีการเมือง รวมไปถึงทหารจากกลุ่มติดอาวุธชนกลุ่มน้อยที่ได้ลงนามทำสัญญาหยุดยิงกับรัฐบาลพม่าแล้ว อีกทั้งชาวบ้านที่ต้องโทษคดีตามมาตรา 17/1 ที่ยังคงถูกกุมขัง
มีรายงานบรรยากาศการหารือระหว่างผู้นำทั้งสอง ทางเจ้าขุนทุนอูได้ให้การต้อนรับอย่างเป็นกันเอง โดยมีการหารือกันเกือบ 1 ชั่วโมงกว่า ในวันเดียวกัน หลังเสร็จสิ้นการหารือกับเจ้าขุนทุนอู มีรายงานว่า ทางเจ้าอ้ายเปา ผู้นำพรรคเสือเผือก หรือ พรรคประชาธิปไตยแห่งชาติไทใหญ่ (Shan Nationalities Democratic Party - SNDP) และเจ้าหาญ ยองห้วย จากกลุ่ม Euro-Burma Office ได้เชิญเจ้ายอดศึกร่วมรับประทานอาหารค่ำ
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา เจ้ายอดศึก ได้นำคณะ RCSS/SSA เข้าพบหารือกับประธานาธิบดีเต็งเส่ง ที่กรุงเนปีดอว์ จากนั้นได้เดินทางเยี่ยมเยือนเมืองต่างๆ ได้พบกับกลุ่มองค์กรภาคสังคมและพรรคการเมืองในพม่าหลายกลุ่ม รวมถึงได้พบหารือกับอองซาน ซูจี ผู้นำฝ่ายค้านพม่า อีกทั้งได้พบหารือกับผู้อำนวยการสำนักงานสหประชาชาติว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรม UNODC ประจำกรุงย่างกุ้งด้วย