หลังจากทางสหรัฐฯ เริ่มแสดงตัวชัดเจนว่าจะให้การสนับสนุนด้านอาวุธแก่กลุ่มกบฏในซีเรีย โดยอ้างเรื่องหลักฐานการใช้อาวุธเคมีของรัฐบาลซีเรีย ฝ่ายรัฐบาลซีเรีย และรัสเซียก็ออกมาตอบโต้ในเรื่องนี้ โดยหาว่าสหรัฐฯ กุเรื่องขึ้นเพื่อให้ความชอบธรรมในการสนับสนุนกลุ่มกบฏ
15 มิ.ย. 2013 - ทางการซีเรียและรัสเซียกล่าวตอบโต้คำกล่าวอ้างของสหรัฐฯ ที่บอกว่ากองทัพซีเรียใช้อาวุธเคมีกับกองกำลังฝ่ายกบฏในสงครามกลางเมืองภายในประเทศ โดยที่รัฐบาลซีเรียบอกว่าคำกล่าวของสหรัฐฯ "เป็นการกล่าวเท็จโดยทั้งสิ้น"
การตอบโต้ของรัสเซียและรัฐบาลซีเรียมีขึ้นหลังจาก เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ที่ผ่านมา เบน โรดส์ รองที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของประธานาธิบดีสหรัฐฯ เปิดเผยว่าประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า มีแผนการให้ความช่วยเหลือทางการทหารแก่กลุ่มกบฏในซีเรียหลังจากมีข้อมูลที่บ่งชี้ว่ามีการใช้อาวุธเคมีในสงครามกลางเมือง
ซาลิม อิดริส ผู้บัญชาการกลุ่มกบฏปลดปล่อยชาติซีเรีย (Free Syrian Army หรือ FSA) กล่าวชื่นชมการตัดสินใจของสหรัฐฯ และบอกว่าอาวุธที่ได้มาเพิ่มจะช่วยในการต่อสู้โค่นล้มรัฐบาลอัสสาดและช่วยปกป้องพลเรือนในซีเรีบ ซึ่งก่อนหน้านี้ทางสหรัฐฯ ได้ให้ความช่วยแก่กลุ่มกบฏด้านเสบียงอาหารและเครื่องมือการแพทย์อยู่แล้ว
เบนบอกว่าทีมข่าวกรองของสหรัฐฯ เชื่อว่ากองกำลังรัฐบาลซีเรียได้ใช้อาวุธเคมีรวมถึงแก็สซารินในการโจมตีฝ่ายต่อต้านรัฐบาลในระดับเล็กหลายครั้งเมื่อปีที่ผ่านมา โดยมีผู้เสียชีวิตราว 150 จากการโจมตีรูปแบบดังกล่าว
ขณะที่ฝ่ายทางการรัสเซียบอกว่า หลักฐานเรื่องการใช้อาวุธเคมีในซีเรีย ดูไม่ชัดเจน ขณะที่รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของซีเรียออกแถลงการเมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ว่า ทางการสหรัฐฯ อาศัยข้อมูลที่กุขึ้นมาเองในการกล่าวหาว่ามีการใช้อาวุธเคมีในซีเรีย และสหรัฐฯ อ้างเรื่องนี้เพื่อให้ความชอบธรรมแก่ตัวเองในการติดอาวุธให้ฝ่ายกบฏ
แถลงการณ์ของรัฐบาลซีเรียยังวิจารณ์สหรัฐฯ ด้วยว่า "สองมาตรฐาน"จากการที่สหรัฐฯ อ้างว่าต่อสู้กับการก่อการร้ายกลับให้การสนับสนุน "กลุ่มก่อการร้าย"ในซีเรียเช่นกลุ่มอัล-นุสรา ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มกบฏ อัล-เคดา
ในกรณีนี้ เบน โรดส์ กล่าวว่าสหรัฐฯ จะให้การสนับสนุนทางการทหารแก่กลุ่ม 'สภาทหารสูงสุด' (SMC) ซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ที่ประกอบด้วยกลุ่มย่อยๆ ได้แก่กลุ่มกบฏปลดปล่อยชาติซีเรีย (FSA) กับกลุ่มกองกำลังแนวร่วมปฏิวัติและต่อต้านรัฐบาลซีเรีย เบนกล่าวอีกว่าทางสหรัฐฯ ต้องการจะแบ่งแยกกลุ่มกบฏหัวรุนแรงเช่นกลุ่มอัล-นุสรา ซึ่งเป็นติดอาวุธนิกายซุนนี ออกจากแนวร่วมของกลุ่มกบฏต่อต้านรัฐบาล
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่าพวกเขาอาจจะส่งอาวุธหลายอย่างให้กับฝ่ายกบฏ ตั้งแต่อาวุธขนาดเล็ก กระสุน ปืนกล และอาวุธต่อต้านยานเกราะต่างๆ แต่ก็ยังคงอยู่ระหว่างการตัดสินใจ
ด้านโฆษกของกลุ่ม FSA กล่าวว่า ทางกลุ่มกบฏสนับสนุนให้สหรัฐฯ พิจารณาประกาศเขตห้ามบินเหนือน่านฟ้าซีเรียทั้งหมดหรือพื้นที่ใดๆ ก็ตามที่ทางสหรัฐฯ พิจารณาในเชิงยุทธศาสตร์การทหารแล้ว เพื่อเป็นการสร้างความปลอดภัยให้กับกลุ่มพลเรือน โฆษก FSA กล่าวอีกว่าทางกลุ่มกบฏเรียกร้องให้มีการส่งอาวุธจำพวกเครื่องยิงจรวด, จรวดต่อต้านยานเกราะแบบตรวจจับอุณหภูมิ, จรวดยิงต่อสู้บนภาคพื้นดิน และยานเกราะอีกจำนวนหนึ่ง
ทางด้าน บังคีมูน เลขาธิการใหญ่ของสหประชาชาติ กล่าวเมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ว่า ข้อมูลใดๆ ก็ตามเกี่ยวกับการใช้อาวุธเคมียังไม่สามารถพิสูจน์ได้แน่ชัดหากไม่มีหลักฐานที่เชื่อถือได้ และการส่งอาวุธให้ไม่ว่ากับฝ่ายใดก็ตามไม่ได้เป็นการช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น
รายงานล่าสุดของยูเอ็นระบุว่ามีผู้เสียชีวิตจากความขัดแย้งในซีเรียรวมแล้วอย่างน้อย 93,000 คน คำนวนโดยเฉลี่ย 5,000 คนต่อเดือน ในตัวเลขดังกล่าวมีเด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี เสียชีวิตมากกว่า 1,700 คน
สถานีช่องโทรทัศน์รอสสิยา 1 ของรัสเซียกล่าวตั้งข้อสงสัยต่อท่าทีของสหรัฐฯ ว่า เรื่องดังกล่าวนี้ชวนให้นึกถึงตอนที่คอลิน พาวเวลล์ ผู้นำสามเหล่าทัพในสมัยรัฐบาลบุชบอกว่ามีหลักฐานอาวุธเคมีในอิรัก นอกจากนี้ยังตั้งข้อสังเกตอีกว่าทางการสหรัฐฯ เริ่มออกแถลงการณ์ในเรื่องนี้หลังจากที่กลุ่มกบฏเริ่มพ่ายแพ้การสู้รบกัลฝ่ายรัฐบาลในหลายๆ พื้นที่
เรียบเรียงจาก
Syria denounces US chemical weapons claim, BBC, 14-06-2013 http://www.bbc.co.uk/news/world-middle-east-22908836
Syria and Russia slam US over weapons charge, Aljazeera, 15-06-2013 http://www.aljazeera.com/news/middleeast/2013/06/2013614152849859283.html
ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai