ตั้ง “ภาคีพลังประชาชน” พิทักษ์รัฐบาล ต่อต้านกบฏ ชุมนุม 5 โมงเย็นวันนี้ที่อนุสาวรีย์ปราบกบฏ เล็ก บ้านดอน นั่งประธาน ยันออกจาก กวป. ระบุแนวทางไม่ตรงกัน แต่จุดยืนเดียวกัน ชี้หน้ากากขาวมีสิทธิชุมนุมได้ตามระบอบประชาธิปไตย ปมปัญหาใหญ่คือ รธน.50 ระดมพลังประชาชนหนุนสภาแก้
แถลงเปิดตัวกลุ่มภาคีพลังประชาชน ภาพโดยหนุ่ม เสลภูมิ
นายพงษ์พิสิษฐ์ คงเสนา หรือ เล็ก บ้านดอน อดีตประธานกลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กวป.) ในฐานะประธานกลุ่มภาคีพลังประชาชน (ภปช.) แถลงยืนยันลาออกจาก กลุ่ม กวป. และเปิดตั้วกลุ่มกลุ่มภาคีพลังประชาชน พร้อมด้วยแกนนำอีกกว่า 10 คน เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา ณ ชั้น 6 ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล ลาดพร้าว
โดยเล็ก บ้านดอน แถลงด้วยว่าเนื่องจากปัจจุบันระบอบประชาธิปไตยของประเทศไทยถูกคุกคามจากหลายฝ่ายที่แสดงตัวเป็นผู้ต่อต้านหลักการประชาธิปไตย ทั้งภาคการเมือง ภาคประชาชนจัดตั้งและองค์กรต่างๆ ตามรัฐธรรมนูญ 50 ซึ่งเป็นปัญหาที่เป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตย พร้อมทั้งกลุ่มเครือขายที่แสดงท่าทีรับใช้ฝ่ายอำมาตยาธิปไตยยังขัดขวางถ่วงความเจริญของประเทศชาติอย่างต่อเนื่อง จึงตนเองและพวกจึงรวมตัวกันเพื่อตั้งกลุ่มภาคีพลังประชาชน เพื่อดำเนินการในการพิทักษ์ระบอบประชาธิปไตยและรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนเสียงข้างมาก เรียกร้องให้เกิดความเป็นธรรมแก่สังคมและประเทศ
ทั้งนี้จะมีการจัดชุมนุมและเวทีปราศรัย ชื่อ "ภาคีพลังประชาชน พิทักษ์รัฐบาล ต่อต้านกบฏ"ที่อนุสาวรีย์ปราบกบฏ (วงเวียนบางเขน) ในวันที่ 14 มิ.ย.เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป เพื่อป้องปรามกลุ่มที่มีความพยายามรัฐประหารล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มหน้ากากขาวที่มีการเรียกร้องให้ทหารและองค์กรอิสระตาม รัฐธรรมนูญ 50 ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลในขณะนี้ รวมทั้งเวทีนี้จะเป็นการนำข้อมูลมาเผยแพร่ให้กับประชาชนให้รับรู้และตื่นตัวต่ออันจะนำไปสู่การป้องกันไม่ให้เกิดการล้มรัฐบาลต่อไป
สำหรับการเคลื่อนไหวของกลุ่มหน้ากากขาวและกลุ่มคนไทยรักชาติรักแผ่นดินที่ชุมนุมที่สนามหลวงนั้น ประธานกลุ่มภาคีพลังประชาชน ยืนยันว่าไม่ว่ากลุ่มใดย่อมมีสิทธิในการชุมนุมตามระบอบประชาธิปไตย แต่ที่กลุ่มตนจะชุมนุมนี้ก็เพื่อป้องปรามความพยายามที่ทำลายระบอบประชาธิปไตย เรียกร้องให้ทหารหรือองค์กรอิสระที่ไม่มีการยึดโยงกับประชาชนมาล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน และเรียกร้องกลุ่มเหล่านั้นมาสู้กันในระบอบนี้ที่ประชาชนจะเป็นคนตัดสินดีกว่า
“ในระบอบประชาธิปไตยที่ผ่านการเลือกตั้งจากประชาชน เราสามารถตรวจสอบได้ แต่การรัฐประหารเราไม่สามารถตรวจสอบได้เลย” เล็ก บ้านดอน กล่าว
สำหรับเหตุผลที่แยกจาก กวป. นั้น เล็ก บ้านดอน กล่าวว่า เกิดจากแนวทางยุทธศาสตร์บางเรื่องที่ไม่ตรงกัน แต่จุดยืนยังคงตรงกัน คือต้องการให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย อำนาจเป็นของประชาชนโดยแท้เหมือนกัน ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน แต่เพื่อความสบายใจกันจึงได้แยกมาเคลื่อนในส่วนของกลุ่มที่มีแนวทางตรงกัน และยังคงมีการติดต่อกันกับ กวป. อยู่
เล็ก บ้านดอน กล่าวว่า กลุ่มภาคีพลังประชาชน ต้องการที่จะเห็นบ้านเมืองนี้เปลี่ยนแปลง จากต้นทางของปัญหาความขัดแย้งที่เกิดมาจากการรัฐประหารปี 49 คนกลุ่มหนึ่งก็ออกรัฐธรรมนูญ 50 เพื่อสถาปนาอำนาจกลุ่มตนเอง เป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญต่างๆ และรัฐธรรมนูญ 50 ก็มีเงื่อนไขที่ถูกออกแบบไว้เพื่อป้องกันผลประโยชน์ของคนกลุ่มดังกล่าวไว้ ทำให้การบริหารประเทศของรัฐบาลชุดนี้ถูกแทรกแซงตลอด ทั้งที่บางกรณีก็ไม่มีความจำเป็น ดังนั้นทางกลุ่มจะเคลื่อนไหวตรวจสอบองค์กรอิสระทุกองค์กรที่ไม่ได้มีการยึดโยงกับอำนาจของประชาชน
ประธานกลุ่มภาคีพลังประชาชน มองว่าสิ่งที่ต้องแก้ไขที่สำคัญที่สุด คือรัฐธรรมนูญปี 50 หากแก้ตรงนี้ ทุกอย่างมันก็ไปโดยอัตโนมัติ โดยทางกลุ่มจะพยายามใช้พลังอำนาจของประชาชนในการผลักดันช่องทางของรัฐสภาเพื่อให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยใช้เหตุใช้ผลและชาติกับประชาชนเป็นหลัก
ล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้ ภปช. นำโดยเล็ก บ้านดอนและแกนนำ ภปช.ร่วมกับ พันตรีพุทธินาถ พหลพลพยุหเสนา ลูกชายคนที่ 4 ของ พลเอกพระยาพหลฯ สักการะอัฐิของคณะราษฎร 2475 10 วันก่อน 81 ปี 2475 ที่ วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร
เล็ก บ้านดอนและแกนนำ ภปช.ร่วมกับ พันตรีพุทธินาถ สักการะอัฐิของคณะราษฎร ภาพโดย @anuthee