เลขาฯ สมช. รับอยู่ระหว่างพิจารณาข้อเสนอนายกฯ มาเลเซีย ที่ให้พื้นที่ 3 จังหวัดเป็นเขตปกครองพิเศษ ชี้ไม่ถือเป็นการแทรกแซงกิจการภายใน ด้าน ยิ่งลักษณ์ สั่งพัฒนาเส้นทางคมนาคมเพื่อสร้างความปลอดภัยให้ประชาชน
(6 มิ.ย.56) เว็บไซต์เดลินิวส์รายงานว่า เวลา 11.30 น. พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการ สมช. ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคง ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ว่า นายกรัฐมนตรี ได้สั่งให้มีการไปปรับแผนเพื่อให้การปฏิบัติเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ซึ่งอาจจะมีการเพิ่มเติมงบประมาณบ้าง โดยเน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก ส่วนเรื่องการคมนาคมก็ให้มีการพัฒนาปรับปรุงเส้นทางที่จะสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนมากขึ้น โดยเฉพาะเส้นทางรถไฟที่เป็นจุดล่อแหลมต่างๆ ส่วนจะต้องเพิ่มงบประมาณลงไปเท่าไหร่นั้น ยังไม่ได้ข้อสรุป โดยให้สำนักงบประมาณ ไปประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งจังหวัด กอ.รมน. และศอ.บต.โดยตรง เพราะทิศทางมีชัดเจนแล้ว เพียงแต่ให้ไปลงรายละเอียด และเสนอกลับมายัง สมช.เพื่อจะได้นำเข้า ศปก.กปต. ก่อนเสนอให้นายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง ส่วนกำหนดการลงพื้นที่ภาคใต้ของนายกรัฐมนตรีนั้น ตอนนี้ยังไม่มีแผนงานแต่อย่างใด
เมื่อถามถึงกรณีที่นายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรี มาเลเซีย เสนอให้ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยใช้รูปแบบการปกครองอิสระ คล้ายเขตปกครองพิเศษ พล.ท.ภราดร กล่าวว่า ประเด็นนี้ไม่กระทบ เพราะถือว่ายังอยู่ในกรอบรัฐธรรมนูญไทย คือไม่มีการพูดเรื่องการแบ่งแยกดินแดน แต่เป็นเรื่องการปกครองท้องถิ่นที่มีอัตลักษณ์ที่เหมาะสม เมื่อถามว่าแสดงว่าเห็นด้วยกับแนวทางที่นายนาจิบเสนอ พล.ท.ภราดร กล่าวว่า เราก็มีแนวทางของเราอยู่ แต่นัยที่นายนาจิบพูด ไม่ได้เป็นการมาแทรกแซงกิจการภายในของเรา เป็นกรอบที่สามารถดำเนินการได้ตามปกติ
เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่ามีแนวโน้มที่จะให้ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ปกครองตนเอง พล.ท.ภราดร กล่าวว่า ตอนนี้มีกระบวนการพูดคุย และมีกระบวนการศึกษาความเป็นไปได้อยู่ในพื้นที่แล้ว ซึ่งมี 4-5 รูปแบบ แต่ยังไม่สามารถได้ข้อยุติว่าความเหมาะสมจะอยู่ตรงจุดไหน ต้องมีพัฒนาการต่อไป
“รูปแบบจะเป็นลักษณะการปกครองส่วนท้องถิ่น ที่เรามีตัวแบบอยู่แล้ว เหมือน กทม. พัทยา นครแม่สอดในอนาคตหรือแม้แต่ในปัจจุบันที่เป็นรูปแบบ ศอ.บต.ก็ถือเป็นรูปแบบการบริหารจัดการปกครองในระดับหนึ่ง แต่ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของสถาบันการศึกษาในพื้นที่ ที่กำลังจัดเวทีแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกับพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง” พล.ท.ภราดร กล่าว
เมื่อถามว่าคิดว่ารูปแบบการปกครองดังกล่าวจะช่วยทำให้สถานการณ์ในพื้นที่คลี่คลายลงไปได้หรือไม่ พล.ท.ภราดร กล่าวยอมรับว่า เป้าหมายของปัญหาที่แท้จริง สุดท้ายจะไปจบที่เรื่องการปกครองที่เหมาะสมในพื้นที่ สำหรับการพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็นในวันที่ 13 มิ.ย.นั้น ตอนนี้มีกรอบที่จะไปพูดคุยชัดเจนแล้ว เพียงแต่รอให้คณะทำงานสรุป จากนั้นจะนำเรียน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ก่อนนำเสนอให้นายกรัฐมนตรีทราบต่อไป
ส่วนสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ ที่เริ่มกระทำกับข้าราชการระดับสูงในพื้นที่นั้น พล.ท.ภราดร กล่าวว่า ความจริงเป้าหมายของผู้ก่อความไม่สงบคือฝ่ายข้าราชการ หรือเจ้าหน้าที่อยู่แล้ว แต่อยู่ที่จังหวะที่เขาจะสามารถดำเนินการได้หรือไม่ ดังนั้นต้องมีการระมัดระวังความปลอดภัยมากขึ้น สำหรับเหตุระเบิดที่เทศบาลเมือง อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส เมื่อคืนวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น คนร้ายไม่ได้มุ่งหวังให้เกิดการเสียชีวิต เพียงแค่ป่วนให้เกิดสถานการณ์ในพื้นที่เท่านั้น