ชุมนุม "หน้ากากกายฟอว์กส์"ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แต่ก่อนหน้านี้ถูกนำมาใช้ด้วยวัตถุประสงค์หลากหลายภายใต้บริบทไทยๆ นับตั้งแต่เรียกร้องให้ปิด "เว็บหมิ่นฯ" - ประท้วงสหประชาชาติและสถานทูตสหรัฐฯ ที่ไม่เห็นด้วยต่อคำตัดสินคดี ม.112 - ไปจนถึงการทวงคืน “เหนือเมฆ”!
ตามที่เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตกลุ่มหนึ่งในประเทศไทย ได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์เป็นรูป “หน้ากากกายฟอว์กส์” (Guy Fawkes) จากภาพยนตร์เรื่องวี ฟอร์ เวนเดตตา (V For Vendetta) และโพสต์ข้อความว่า
“ขณะนี้กองทัพประชาชนได้ลุกขึ้นมาแล้ว ข้าขอประกาศว่า ข้าจะล้มล้างระบอบทักษิณให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย”
และตามมาด้วยการเพจ V for Thailandและเพจอื่นๆ ได้นัดหมายชุมนุม “แฟลชม็อบ” ที่หน้าเซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายน ที่ผ่านมาเรียกร้องให้มีการ “รวมพลังล้มล้างระบอบทักษิณ” นั้น (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)
ทั้งนี้ หลังการฉายภาพยนตร์ “วี ฟอร์ เวนเดตตา” (V for Vendetta) มีการนำ "หน้ากากกายฟอว์กส์"ไปใช้ในการเคลื่อนไหวหลายครั้งในโลก เช่น กลุ่มแฮกเกอร์ Annonymousขบวนการ Occupy Wall Streetในสหรัฐอเมริกา หรือแม้แต่การประท้วงต่อต้านศาสนจักรแห่งวิทยาศาสตร์ “Church of Scientology”ก็มีปรากฏผู้สวมหน้ากากกายฟอว์กส์มาต่อต้าน
ในกรณีของประเทศไทย การรวมตัวของคนสวมหน้ากากกายฟอว์กส์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ภายใต้รหัส “ยุทธการ ประกาศศักดา รวมพลใหญ่ คนหน้ากาก”นั้น ไม่ได้เป็นครั้งแรกที่มีการนำหน้ากากกายฟอว์กส์มาใช้ในการประท้วง แต่มีการนำหน้ากากกายฟอว์กส์มาใช้แล้วก่อนหน้านี้ โดยมีวัตถุประสงค์หลากหลายภายใต้บริบทไทยๆ นับตั้งแต่เรียกร้องให้ปิดเว็บไซต์ที่ถูกกล่าวหาว่า “หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ” ประท้วงผู้ที่แสดงความไม่เห็นด้วยต่อการใช้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ไปจนถึงการทวงคืนละคร “เหนือเมฆ”!
000
เรียกร้องปิดเว็บหมิ่น
การประท้วงเมื่อ 1 ธันวาคม 2554 เรียกร้อง “ปิดเว็บหมิ่นฯ” ด้านหลัง นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ มีผู้ร่วมประท้วงสวมหน้ากากกายฟอว์กส์ด้วย (ที่มาของภาพ: เดลินิวส์)
โดยเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2554 เดลินิวส์และ สำนักข่าวไทยรายงานว่า นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ พร้อมด้วยตัวแทนกลุ่ม “ประชาชนคนไทยผู้จงภักดี” เดินทางไปยื่นหนังสือถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินการปิดเว็บหมิ่นพระบรมเดชานุภาพและดำเนินการกับผู้กระทำผิดกฎหมาย ตามมาตรา 112 อย่างจริงจัง
ทั้งนี้กลุ่มที่มี นพ.ตุลย์ เป็นแกนนำดังกล่าวให้เหตุผลของการยื่นหนังสือว่า “เนื่องจากขณะนี้มีกลุ่มบุคคลจำนวนมากได้กระทำการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพผ่านระบบออนไลน์กันมาก ทั้งในรูปแบบเว็บไซด์ เฟสบุ๊คแฟนเพจ หรือการสร้างเพจเพื่อกระทำการหมิ่นสถานบันโดยตรง รวมทั้งมีการเผยแพร่คลิปวีดีโอตัดต่อเป็นเรื่องราวและใช้ถ้อยคำหยาบคาย และขณะนี้มีมากกว่า 1 หมื่นเว็บไซต์ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการอย่างจริงจังและเร่งด่วน”
โดยในภาพข่าวการยื่นหนังสือดังกล่าวได้ปรากฏผู้สวม “หน้ากากกายฟอว์กส์” ร่วมกิจกรรม โดยยืนอยู่หลัง นพ.ตุลย์ ด้วย
000
ประท้วงสหรัฐ-ยูเอ็น เรียกร้องให้ขอโทษ
การประท้วงหน้าสำนักงานองค์การสหประชาชาติ ถ.ราชดำเนิน เมื่อ 16 ธันวาคม 2554 (ที่มาของภาพ: เพจ V for Thailand)
การประท้วงหน้าสถานทูตสหรัฐอเมริกา ถ.วิทยุ เมื่อ 16 ธันวาคม 2554 (ที่มาของภาพ: เพจ V for Thailand)
การประท้วงเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2554 ครั้งนี้ เริ่มมีผู้สวมหน้ากากกายฟอว์กส์รวมการประท้วงมากขึ้น โดยในวันดังกล่าว นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ และ พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ได้นำกลุ่ม “สยามสามัคคี” ไปประท้วงหน้าสำนักงานองค์การสหประชาชาติ ถ.ราชดำเนิน และสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำกรุงเทพมหานคร โดยเรียกร้องให้ทั้งสหประชาชาติ และสถานทูตสหรัฐอเมริกาออกมาขอโทษ (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)
สำหรับการประท้วงดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2554 จากกรณีที่ แฟรงค์ ลา รู (Frank La Rue) ผู้ตรวจการพิเศษด้านเสรีภาพการแสดงออกแห่งสหประชาชาติ ส่งแถลงการณ์จากเจนีวา เรียกร้องให้รัฐบาลไทยแก้ไขกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และพ.ร.บ คอมพิวเตอร์ พร้อมเสนอตัวในการ ‘ร่วมมืออย่างสร้างสรรค์’ กับ ‘คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย’ เพื่อแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และพ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำผิดทางคอมพิวเตอร์ ให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชนสากล (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)
และต่อมาเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2554 โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฝ่ายเอเชียตะวันออก เดอรราจ์ พาราดิโซ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอพีว่า สหรัฐอเมริการู้สึก “หนักใจ” กับการตัดสินของศาลในคดีของนายอำพล หรือ ‘อากง’ ที่ถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 20 ปี ในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพและละเมิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และเห็นว่าการตัดสินคดีนายอำพล “ไม่สอดคล้อง” กับหลักสิทธิมนุษยชนสากลด้านเสรีภาพในการแสดงออก
เช่นเดียวกับ นางคริสตี เคนนีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย แสดงความเห็นผ่านทวิตเตอร์ เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม2554 ว่าสหรัฐอเมริกากังวลใจต่อการตัดสินคดีของ 'โจ กอร์ดอน'ชายไทย-อเมริกันที่ถูกตัดสินจำคุก 2 ปี 6 เดือน ในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ โดยทางการสหรัฐให้ความเคารพต่อสถาบันกษัตริย์ของไทยอย่างสูงสุด แต่รู้สึกเป็นกังวลต่อการตัดสินที่ไม่สอดคล้องกับมาตรฐานสากลในด้านเสรีภาพ ในการแสดงออก (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)
ทั้งนี้ แถลงการณ์ของกลุ่มสยามสามัคคีระบุด้วยว่า“การเรียกร้องของบุคคลดังกล่าว เป็นกระบวนการเพื่อล้มล้างความเป็นมาตรฐานสากลของกระบวนการยุติธรรมไทย และทำลายความเชื่อมั่นต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พยายามแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมในไทย ไม่เคารพสิทธิ ความมั่นคงของชาติ ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน และอาจทำให้เกิดความเกลียดชังในชาติ ยั่วยุให้เกิดการเลือกปฏิบัติ”โดยทางกลุ่มยังเรียกร้องให้รัฐบาลไทยทำการชี้แจง “ให้บุคคลดังกล่าวและนานาประเทศเข้าใจและยอมรับการปกครองของไทย” และให้รัฐบาล “ทำหนังสือประณามการแทรกแซงกิจการภายใน ลบหลู่กระบวนการยุติธรรมของไทย และการแสดงออกที่มีผลให้เกิดความขัดแย้งในสังคมไทย"
000
ทวงคืน “เหนือเมฆ”
กระแสหน้ากากกายฟอว์กส์ กลับมาอีกครั้ง หลังจากเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2556 สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ได้งดฉายละคร “เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์” กลางคัน โดยให้เหตุผลว่า “เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่ามีเนื้อหาบางช่วงบางตอนที่ไม่เหมาะสมกับการออกอากาศ” โดยนำละครเรื่อง “แรงปรารถนา” นำแสดงโดย ณเดชน์ คูกิมิยะ และ คิมเบอร์ลี แอน เทียมศิริ มาฉายแทน
โดยทำให้เกิดกระแสทวงคืนละคร “เหนือเมฆ” ขนานใหญ่ แม้แต่ ณาตยา แวววีรคุปต์ ผู้ดำเนินรายการ "เวทีสาธารณะ"และบรรณาธิการข่าวสังคมและนโยบายสาธารณะ ทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ยังโพสต์สเตตัส เสนอให้เอาละครเหนือเมฆมาฉายที่ไทยพีบีเอส (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)
(ที่มาของภาพ: เพจรณรงค์แบนช่อง 3 กรณีถอดละคร "เหนือเฆม 2"สนองคำสั่งนักโกงเมือง [1], [2])
ต่อมาเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2556 กลุ่มสังคมออนไลน์ทางเฟซบุ๊ก ในนาม "รณรงค์แบนช่อง 3 กรณีถอดะครเหนือเมฆ 2 สนองคำสั่งนักโกงเมือง"ได้มาชุมนุมที่หน้าสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 อาคารมาลีนนท์ ทาวเวอร์ ถนนพระรามที่ 4 เพื่อคัดค้านการถอดละคร “เหนือเมฆ 2” และชูป้ายให้กำลังใจทีมงานละคร “เหนือเมฆ 2” โดยผู้ชุมนุมได้พร้อมใจกันสวมหน้ากากกายฟอว์กส์ด้วย
000
ฯลฯ
และหลังจากที่มีการรณรงค์ใช้รูปหน้ากากกายฟอว์กส์ออนไลน์ เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม เพื่อต่อต้านรัฐบาลและระบอบทักษิณ และก่อนที่จะมีการนัดหมายชุมนุมที่ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์เมื่อ 2 มิถุนายน ก็ได้มีกลุ่มต่อต้านรัฐบาลนำหน้ากากกายฟอว์กส์ไปใช้ในการรณรงค์
หน้ากากกายฟอว์กส์ โดย "แนวร่วมคนไทยรักชาติรักษาแผ่นดิน"ที่สนามหลวงเมื่อ 30 พฤษภาคม 2556 (ที่มาของภาพ: เพจ V for Thailand)
โดยเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ผู้ชุมนุมกลุ่มแนวร่วมคนไทยรักชาติรักษาแผ่นดิน นำโดยนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ซึ่งเดินทางมาจาก จ.ศรีสะเกษ จ.นครราชสีมา และเข้ามาชุมนุมที่สนามหลวงตั้งแต่วันที่ 4 พ.ค. ที่ผ่านมานั้น ล่าสุดเมื่อคืนวันที่ 30 พฤษภาคม 2556 ได้จัดอาสาสมัครสวมหน้ากากกายฟอว์กส์
ชุมนุมหน้ากากกายฟอว์กส์ ที่ ถ.สีลม เมื่อ 31 พฤษภาคม 2556 (ที่มาของภาพ: เพจ V for Thailand)
และในวันที่ 31 พฤษภาคม 2556 มีการสวมหน้ากากกายฟอว์กส์ไปรวมตัวกันที่ ถ.สีลม เพื่อแสดงจุดยืนต่อต้านรัฐบาล
ที่มาของภาพ: ASTV ผู้จัดการออนไลน์
นอกจากนี้ในวันเดียวกัน ASTV ผู้จัดการออนไลน์ ได้พาดหัวข่าวว่า “ร่วมปฏิบัติการ 'หน้ากาก V' !!”โดย ชวนให้ประชาชนมาซื้อ 'สติ๊กเกอร์กายฟอว์กส์"ที่ 'ASTV Shop'บ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ โดยเริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค. หรือซื้อ “ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์” ฉบับล่าสุดที่มีสติ๊กเกอร์แถมในเล่ม โดยลงข้อความในข่าวว่า “'ASTVผู้จัดการ'ขอเชิญท่านร่วมขยายเครือข่ายปฏิบัติการ 'หน้ากาก V'จากโลกไซเบอร์ สู่ท้องถนนและทุกซอกมุมในสังคม ด้วยการติด 'สติกเกอร์หน้ากากV'เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งการต่อต้านรัฐบาลเผด็จการภายใต้ระบอบทักษิณ ซึ่งเดินหน้าทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้องโดยไม่ฟังเสียงประชาชน"(อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)
และหลังจากนี้คงจะได้เห็นการชุมนุมของผู้สวมหน้ากากกายฟอว์กส์ ภายใต้ภารกิจ “ล้มล้างระบอบทักษิณให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย” อีกหลายครั้ง เพราะหลังจากการชุมนุมเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ล่าสุดในวันนี้ (3 มิ.ย.) เพจ V for Thailandได้ประกาศว่าจะจัดกิจกรรมชุมนุมหน้ากากกายฟอว์กส์อีกโดยจะจัดในกรุงเทพฯ 31 กรกฎาคม และอีกหลายจังหวัดทั่วประเทศในวันที่ 30 กันยายนนี้