สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การเภสัชกรรมยื่นสมุดปกขาวชี้แจงสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หลังดีเอสไอสอบเรื่องยาพาราปนเปื้อนและการสร้างโรงงานวัคซีนล่าช้า ประธานสหภาพหวั่นเป็นแผนแปรรูปองค์การเภสัชกรรมเพื่อลดบทบาทเสาหลักด้านผลิตยา
ที่สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เมื่อวานนี้ (7 พ.ค.) นายระวัย ภู่ผะกา ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ได้เข้าพบคณะทำงานพัฒนาคุณภาพชีวิต สาธารณสุข และคุ้มครองผู้บริโภค ของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยขอชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีองค์การเภสัชกรรมถูกกล่าวหาเรื่องยาพาราเซตามอลและโรงงานวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่และไข้หวัดนก ว่าไม่เป็นความจริง โดยได้ยื่นสมุดปกขาวชี้แจง
โดย ประธานสหภาพ อภ. กล่าวชี้แจงโดยละเอียดว่าองค์การเภสัชกรรมได้มีการตรวจสอบยาพาราเซทตามอลตามหลักวิชาการและเมื่อมีการพบการปนเปื้อนก็สามารถส่งคืนได้ซึ่งเป็นหลักทั่วไป การคัดเลือกแหล่งซื้อที่กล่าวหาว่ามีบริษัทเดียวก็เป็นไปตามขั้นตอนและการสำรองยาเนื่องมาจากการรองรับการขยายการผลิต ส่วนการก่อสร้างโรงงานวัคซีนไข้หวัดใหญ่และไข้หวัดนกก็ได้กล่าวถึงการดำเนินการตามขั้นตอนและปัญหาน้ำท่วม ตลอดจนการจ้างออกแบบและการประกวดราคาซึ่งเป็นไปอย่างถูกต้อง
ประธานสหภาพ อภ. ยังได้ตั้งข้อสังเกตกับสภาที่ปรึกษาฯ โดยถามไปยังรัฐมนตรีสาธารณสุขว่า รัฐมนตรีเคยสั่งให้สำรองน้ำเกลือหลังน้ำท่วม 7 ล้านถุงเหลืออยู่ 6 ล้านถุงใครจะรับผิดชอบ นอกจากนี้ทำไมจึงไม่ยอมอนุมัติเครื่องจักรที่ต้องใช้ผลิตยาจำนวนมากทำให้เสียโอกาส และกล่าวว่า เป็นแผนหรือไม่ที่จะแปรรูปองค์การให้เป็นรัฐวิสหากิจมุ่งค้ากำไรไม่ทำหน้าที่วิจัยและเป็นคลังยาของประเทศ
"มีความพยายามทำให้องค์การเภสัชกรรมง่อยเปลี้ยขาดประสิทธิภาพในการผลิตยาใหม่ ทั้งที่ประสิทธิภาพของ องค์การที่เพิ่มขึ้นจะสามารถลดการผูกขาดของบริษัทยาต่างชาติและเพิ่มการเข้าถึงยาของประชาชนได้อย่างดี จึงขอให้สภาที่ปรึกษาฯ ศึกษาและให้ข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลว่าให้สนับสนุนการทำงานวิจัยและผลิตยาเพื่อประชาชนและอย่าให้มีกลุ่มคนที่ไม่หวังดีมาทำลายบทบาทขององค์การเภสัชกรรม"นายระวัยกล่าว
ด้านนายสุปรีดิ์ วงศ์ดีพร้อม ประธานคณะทำงานพัฒนาคุณภาพชีวิต สาธารณสุขและคุ้มครองผู้บริโภคของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้รับเรื่องและยืนยันที่จะศึกษาและให้ข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลในเรื่องนี้อย่างรอบคอบเพื่อที่จะให้องค์การเภสัชกรรมมีบทบาทเป็นเสาหลักเพื่อความมั่นคงของประเทศด้านยา ส่วนข้อกล่าวหาที่มีนั้นจะขอเวลาศึกษาข้อมูลเพื่อประกอบการนำเสนอว่ามีข้อเท็จจริงประการใดโดยคาดว่าจะเชิญผู้เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล ตลอดจนการศึกษาข้อมูลที่องค์การเภสัชกรรม โดยคาดว่าจะใช้ระยะเวลาไม่นานที่จะได้ข้อมูลเพื่อการจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายต่อรัฐบาล
ส่วน รศ.ดร วิทยา กุลสมบูรณ์ สมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และผู้จัดการแผนงานคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพ (คคส.) กล่าวว่า ตามที่สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การเภสัชกรรม ไปยื่นหนังสือสมุดปกขาว ต่อสภาที่ปรึกษาฯ ชี้แจงเรื่องข้อเท็จจริงต่อกรณีที่ถูกกล่าวหาเรื่องยาพาราปนเปื้อนและการสร้างโรงงานวัคซีนล่าช้าว่า จากข้อมูลที่สหภาพองค์การเภสัชกรรมนำมาให้ ทำให้การมองภาพองค์การเภสัชกรรมแตกต่างจากบรรดาข่าวที่ออกมาจากภาครัฐ เช่น รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข และ กรมสอบสวนคดีพิเศษอย่างมาก หลายเรื่องน่าจะมีการศึกษาต่อไปว่าจะทำอย่างไร เช่น การที่ผู้มีอำนาจสั่งให้ซื้อน้ำเกลือแล้วยังค้างอยู่ถึง 6 ล้านถุง หรือ การไม่ให้ซื้อเครื่องจักรตอกยาที่มีปริมาณมากเพื่อเร่งผลิตยา