อดีตหน่วยข่าวกรองกองทัพอิสราเอลที่ทำการสอดแนมประชาชนออกจดหมายเปิดผนึก ปฏิเสธไม่ร่วมปฏิบัติการในพื้นที่ปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง โดยอ้างว่าหน่วยข่าวกรองอิสราเอลละเมิดสิทธิประชาชน สอดแนมผู้บริสุทธิ์ มีแผนยุยงให้เกิดความแตกแยกในปาเลสไตน์
12 ก.ย. 2557 อดีตทหาร 43 คนซึ่งทำงานอยู่ในหน่วยงานข่าวกรองลับของกองทัพอิสราเอลออกจดหมายเปิดผนึกปฏิเสธร่วมปฏิบัติการในพื้นที่ชาวปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครองด้วยเหตุผลเรื่องการสอดแนมประชาชนผู้บริสุทธิ์
ผู้ร่วมลงนามมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากหน่วย 'ยูนิต 8200'ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านข่าวกรองคล้ายกับสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ (NSA) หรือสำนักงานข่าวกรองอังกฤษ (GCHQ) พวกเขาระบุว่าหน่วยงานยูนิต 8200 ทำการเก็บข้อมูลของชาวปาเลสไตน์ซึ่งส่วนมากเป็นประชาชนผู้บริสุทธิ์เพื่อนำไปดำเนินคดีทางการเมืองและสร้างความแตกแยกให้กับสังคมชาวปาเลสไตน์
ผู้ลงนามระบุในจดหมายว่างานส่วนใหญ่ของพวกเขาไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับด้านความมั่นคงหรือการปกป้องอิสราเอลเลย แต่เป็นการวางแผนให้เกิดการยึดครองปาเลสไตน์อย่างสิ้นเชิงด้วยการ "แทรกซึม"และ "ควบคุม"ชีวิตทุกด้านของชาวปาเลสไตน์
อดีตทหารระบุในจดหมายว่า "พวกเรา ทหารผู้เคยทำงานในหน่วยยูนิต 8200 ผู้ที่เป็นทหารกองหนุนตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันขอประกาศว่าพวกเราปฏิเสธที่จะร่วมในปฏิบัติการต่อชาวปาเลสไตน์ และปฏิเสธที่จะเป็นเครื่องมือรับใช้กองทัพซึ่งพยายามเพิ่มการควบคุมในเขตพื้นที่ที่ถูกยึดครอง"
จดหมายระบุอีกว่า "ประชาชนชาวปาเลสไตน์ภายใต้การปกครองของทหารมีโอกาสที่จะถูกจารกรรมและสอดแนมโดยหน่วยงานข่าวกรองอิสราเอล ซึ่งเป็นการสอดแนมเพื่อนำไปใช้ดำเนินคดีทางการเมืองและสร้างความแตกแยกในสังคมชาวปาเลสไตน์โดยการเกณฑ์ประชาชนจำนวนหนึ่งมาร่วมด้วยและทำให้สังคมปาเลสไตน์ขัดแย้งกันเอง ในหลายกรณีหน่วยงานข่าวกรองยังไม่อนุญาตให้จำเลยได้รับการไต่สวนดำเนินคดีอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมโดยมีการดำเนินคดีในศาลทหาร เนื่องจากพวกเขาไม่มีหลักฐานยืนยันความผิดของจำเลย"
ก่อนหน้านี้ เยดิออธ อาห์โรนอร์ธ หนึ่งในผู้ลงนามในจดหมายเคยกล่าวผ่านสื่อว่า ทหารในหน่วยงานข่าวกรองถูกใช้ให้ปฏิบัติการในรูปแบบของรัฐเผด็จการมากกว่าจะเป็นประชาธิปไตย
กรณีที่อาห์โรนอร์ธกล่าวถึง เช่น การจับกุมประชาชนผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทางการทหารและปฏิบัติกับพวกเขาราวกับผู้ก่อการร้าย ถูกสั่งให้เก็บข้อมูลชีวิตทุกแง่มุมของประชาชนชาวปาเลสไตน์ไม่เว้นแม้แต่เรื่องเชิงชู้สาวเพื่อใช้ข่มขู่แบล็กเมล์ให้กลายเป็นผู้ร่วมมือกับกองทัพ
อดีตผู้ทำงานในหน่วยข่าวกรองเคยกล่าวให้สัมภาษณ์อีกว่าการสอดแนมล้วงข้อมูลไม่ได้เป็นคำสั่งของรัฐอิสราเอลแต่เป็นการปฏิบัติตาม "วาระ"ของนักการเมืองคนเดียว
พวกเขาส่งจดหมายเปิดผนึกฉบับนี้ให้กับเสนาธิการกองทัพอิสราเอลผู้ที่ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าฝ่ายข่าวกรองด้วย โดยที่ในสายตาของชาวอิสราเอลหน่วยยูนิต 8200 ถือเป็นหน่วยที่ได้รับเกียรติยศมากที่สุด ผู้ที่ทำงานในหน่วยนี้มักจะได้รับงานสายเทคโนโลยีที่ดีหลังออกจากราชการทหาร
ผู้ที่ลงนามส่วนใหญ่มีทั้งผู้ที่อยู่ในหน่วยนี้มาตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว ผู้ที่เพิ่งเข้าไปทำงานในหน่วย 3 ปี และส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในบัญชีทหารกองหนุนซึ่งหมายความว่าอาจจะถูกเรียกตัวได้
เจ้าหน้าที่บางคนยังเคยให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าวเดอะการ์เดียนว่า ปฏิบัติการของพวกเขามีการเลือกปฏิบัติเฉพาะชาวปาเลสไตน์ เนื่องจากในกรณีของอิสราเอลถ้าหากต้องการสอดแนมประชาชนคนใดก็ตามต้องมีการอนุญาตจากศาล ทำให้พวกเขารู้สึกว่าชาวปาเลสไตน์ไม่มีสิทธิทางการเมือง ไม่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายอย่างชาวอิสราเอล
"มันเป็นเรื่องที่เข้าใจผิดกันมากเกี่ยวกับด้านข่าวกรอง ...ตอนที่พวกเราถูกเกณฑ์เข้ามาในกองทัพ พวกเราคิดว่างานของพวกเราคือการลดความรุนแรง ลดความสูญเสียชีวิตให้น้อยลงที่สุด ซึ่งเป็นความคิดที่ทำให้พวกเรารู้สึกดีในด้านมโนธรรม"อดีตผู้ทำงานในหน่วยข่าวกรองใช้นามสมมติว่า 'ดี'กล่าว
ดีบอกอีกว่าพวกเขาถูกสั่งให้ลิดรอนสิทธิของประชาชน ทำให้การเมืองอ่อนแอลงแล้วสร้างการควบคุมที่เข้มแข็งขึ้นในปาเลสไตน์เพื่อให้รัฐอิสราเอลยังคงยึดครองพื้นที่ไว้ในระยะยาว
ทางด้านโฆษกของกองกำลังอิสราเอลกล่าวตอบโต้จดหมายเปิดผนึกฉบับนี้ว่า การที่ทหารผู้เขียนจดหมายทำให้เรื่องนี้เป็นประเด็นสาธารณะถือเป็นเรื่องน่าสงสัย อีกทั้งยังตอบโต้ข้อกล่าวหาว่าพวกเขามีกระบวนการพิจารณาอย่างถี่ถ้วนเกี่ยวกับพลเรือนก่อนที่จะมีการโจมตีเป้าหมาย
เรียบเรียงจาก
Israeli intelligence veterans refuse to serve in Palestinian territories, The Guardian, 12-09-2014
http://www.theguardian.com/world/2014/sep/12/israeli-intelligence-reservists-refuse-serve-palestinian-territories