กรมทหารพรานที่ 41 ยะลา เดินหน้าฟ้อง ‘พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ’ มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ข้อหาหมิ่นประมาททำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง หลังออก จม.เปิดผนึกเรียกร้องให้สอบสวนกรณีทำร้ายร่างกายผู้ถูกควบคุมตัว ตำรวจเตรียมแจ้งข้อกล่าวหา 14 ก.ย.นี้
10 ก.ย. 2557 หลังจากเมื่อวันที่ 20 พ.ค. ที่ผ่านมา กองทัพไทยแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีอาญาต่อ น.ส.พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน และ มูลนิธิผสานวัฒนธรรม (มูลนิธิผสานฯ) จากกรณีที่มูลนิธิผสานฯ ออกจำหมายเปิดผนึกเรียกร้องให้มีการสอบสวนข้อกล่าวหาว่ามีการทำร้ายร่างกายผู้ถูกควบคุมตัว โดยแจ้งความข้อหาหมิ่นประมาททำให้กรมทหารพรานที่ 41 จังหวัดยะลาในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ของไทยต้อง “เสื่อมเสียชื่อเสียง”
ล่าสุดวันนี้(10 ก.ย.57)เฟซบุ๊กแฟนเพจ ‘บีบีซีไทย - BBC Thai’ รายงานว่าทางตำรวจโดยสถานีตำรวจภูธรท่าธง จังหวัดยะลา ได้เรียกตัว น.ส.พรเพ็ญ ผู้อำนวยการมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา ผู้ที่จะเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาด้วยคือนายสมชาย หอมลออ ในฐานะประธานของมูลนิธิซึ่งตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาด้วยในวันที่ 14 ก.ย.นี้
มูลนิธิได้ทำเอกสารแจ้งข่าวระบุว่า มูลนิธิพร้อมจะต่อสู้ในคดีอย่างถึงที่สุด และยังยืนยันจะทำงานด้านการปกป้องสิทธิมนุษยชนต่อไป
ที่ผ่านมามูลนิธิผสานวัฒนธรรมได้ทำงานรณรงค์คุ้มครองเรื่องสิทธิในสามจังหวัดชายแดนใต้มาหลายปี
มูลนิธิชี้แจงว่า กรณีที่นำไปสู่การแจ้งความเอาผิดกับ น.ส.พรเพ็ญและมูลนิธิผสานวัฒนธรรมนั้นเกิดจากการที่มูลนิธิผลักดันให้มีการแก้ไขและสร้างความกระจ่างในกรณีของนายอาดิล สาแม ซึ่งถูกควบคุมตัวเมื่อ 26 เม.ย.2557 และในวันเดียวกันเกิดอาการบาดเจ็บหมดสติต้องนำส่งโรงพยาบาล
หลังจากนั้นมูลนิธิและน.ส.พรเพ็ญได้รับเรื่องร้องเรียนว่ามีการทำร้ายร่างกายจึงได้ติดต่อประสานงานขอเข้าเยี่ยมตลอดจนทำหนังสือถึงเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่เพื่อให้สอบสวนข้อเท็จจริง นอกจากนั้น ในระหว่างที่ น.ส.พรเพ็ญเดินทางไปต่างประเทศเมื่อปลายเดือนเมษายน ได้รายงานเรื่องนี้ให้กับผู้แทนของคณะกรรมการป้องกันการซ้อมทรมานของสหประชาชาติด้วย
ส่วนกรณีนายอาดิล ศาลยะลาได้มีคำสั่งให้ปล่อยตัวเมื่อ 21 พ.ค. เหตุเพราะเห็นว่าเมื่อเจ้าหน้าที่ไม่ตั้งข้อหาก็ไม่มีความจำเป็นต้องควบคุมตัวนายอาดิลต่อไป ตลอดจนนายอาดิลเองได้ยืนยันกับศาลว่าถูกทำร้ายร่างกาย ต่อมาในวันที่ 24 ส.ค.นส.พรเพ็ญได้รับหมายเรียกจากตำรวจให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาจากการแจ้งความของกรมทหารพรานที่ 41 ดังกล่าว