บรรยากาศการปราศรัยของพรรคกิจประชาธิปไตย "DAP"ที่สนามหน้าที่ว่าการรัฐปีนัง เมื่อ 3 พ.ค. ที่ผานมา (ที่มา: ประชาไท)
พรรคฝ่ายค้านมาเลเซีย "DAP"ปราศรัยใหญ่ที่ปีนัง
จอร์จ ทาวน์, ปีนัง - เมื่อคืนวันที่ 3 พ.ค. นี้ พรรคกิจประชาธิปไตย (Democratic Action Party - DAP) ได้จัดปราศรัยใหญ่ที่สนามหน้าที่ว่าการรัฐปีนัง โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีผู้สนับสนุนนับหมื่นร่วมฟังการปราศรัยจนล้นออกมาจากสนามหน้าที่ว่าการ มีการบีบแตรและตะโกนคำขวัญ "UBah"หรือ "เปลี่ยนแปลง"ขานรับกันเป็นระยะ
โดยในการปราศรัยนายลิม กิต เสียง อดีตผู้นำฝ่ายค้านในรัฐสภามาเลเซียหลายสมัย และผู้นำอาวุโสของพรรคกิจประชาธิปไตย "DAP"ซึ่งเป็นบิดาของนายลิม กวน เอ็ง ผู้นำพรรค DAP และรักษาการณ์ผู้ว่าการรัฐปีนัง ได้เรียกร้องให้ชาวมาเลเซียทุกเชื้อชาติ ช่วยกันหยุด "ธนกิจการเมือง"ด้วยการเลือกแนวร่วมพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งจะทำให้พรรครัฐบาล "แนวร่วมแห่งชาติ" (Barisan Nasional - BN) และทำให้นาจิป ราซัก เป็นนายกรัฐมนตรีมาเลเซียคนสุดท้ายที่มาจากพรรค "แนวร่วมแห่งชาติ"
นอกจากนี้อาสาสมัครและแกนนำของพรรคกิจประชาธิปไตย "DAP"ทุกเพศทุกวัย ได้จัดการโกนหัวประท้วง "ธนกิจการเมือง"ด้วย ด้าน จง เอ็ง แกนนำกลุ่มสตรีของพรรคกิจประชาธิปไตย "DAP"กล่าวด้วยว่าเงินไม่สามารถซื้อการเลือกตั้งที่เสรีและยุติธรรมได้ เงินไม่สามารถซื้อความยุติธรรมทางสังคมได้ และเงินไม่สามารถซื้อศักดิ์ศรีของเราได้ ดังนั้นอย่าเอาอนาคตของประเทศและลูกหลานไปเสี่ยงกับธนกิจการเมือง
การเลือกตั้งที่แข่งขันกันดุเดือด นับตั้งแต่ตั้งประเทศเมื่อ พ.ศ. 2510
ทั้งนี้ มาเลเซียจะมีการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ 13 นับ ในวันที่ 5 พ.ค. นี้ โดยจะมีการเลือกตั้งทั้งรัฐบาลระดับชาติ และรัฐบาลระดับท้องถิ่นพร้อมกันทั่วประเทศ ยกเว้นรัฐซาราวัก บนเกาะบอร์เนียว ทางตะวันออกของมาเลเซียจะมีการเลือกตั้งรัฐบาลระดับท้องถิ่นในปี 2559 โดยการเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 13 ล้านคน และมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรก 2.6 ล้านคน และในจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งนี้จะมีผู้มีสิทธิประมาณ 2.7 แสนคนจากกองทัพ จะใช้สิทธิผ่านช่องทางไปรษณีย์
ด้านพรรครัฐบาลมาเลเซีย "แนวร่วมแห่งชาติ"หรือ BN ชนะการเลือกตั้งและครองอำนาจในมาเลเซียมานับตั้งแต่ได้รับเอกราชในปี พ.ศ. 2510 อย่างไรก็ตามพรรคฝ่ายค้าน "ภาคีประชาชน"หรือ PR ก็ได้เสียงในสภามากขึ้น โดยการเลือกตั้งทั่วไปครั้งล่าสุดในปี 2551 พรรคฝ่ายค้านได้ ส.ส. 82 ที่นั่ง ส่วนฝ่ายรัฐบาลได้ 140 ที่นั่ง ซึ่งลดลง 58 ที่นั่ง จากเดิมที่เคยได้ 198 ที่นั่งในการเลือกตั้งปี 2547 โดยฝ่ายค้านสามารถชนะการเลือกตั้งที่รัฐเคดะห์ กลันตัน ปีนัง สลังงอร์ และเขตกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งทำให้พรรครัฐบาลสูญเสียการเป็นเสียงข้างมาก 2 ใน 3 เป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปี
สำหรับการเลือกตั้งทั่วไปครั้งล่าสุด พรรครัฐบาล ได้คะแนนนิยมราว ร้อยละ 50.27 ส่วนพรรคฝ่ายค้านได้รับคะแนนนิยมราว ร้อยละ 46.75
ขณะที่การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 5 พ.ค. นี้ ค่อนข้างขับเคี่ยวกันระหว่างพรรครัฐบาลและพรรคฝ่ายค้าน โดยต่างฝ่ายต่างแสดงความมั่นใจว่าจะชนะการเลือกตั้ง ขณะเดียวกันก็มีเหตุไม่สงบเกิดขึ้นระหว่างการหาเสียงบ่อยครั้ง เช่น การขูดรถและทุบกระจกรถของผู้สนับสนุนพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (2 พ.ค.) ก็มีผู้นำเนื้อและเลือดสุกรไปปาใส่บ้านผู้สมัคร ส.ส. พรรคอิสลามแห่งมาเลเซีย "PAS"ซึ่งเป็นหนึ่งในพรรคฝ่ายค้าน ที่เมืองเตอเมอโระ รัฐปาหัง
และเมื่อวานนี้ (3 พ.ค.) ก็เกิดเหตุปาระเบิดแบบทำเองในจุดที่ไม่ห่างจากสำนักงานของพรรคฝ่ายค้าน "DAP"และพรรค "PKR"ที่มีนายอันวาร์ อิบราฮิมเป็นแกนนำในพื้นที่รัฐสลังงอร์ ใกล้กับกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย